ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

DSI พบเพิ่ม 4 บุคคลสงสัยสวมสัญชาติไทยร่วมลูก "ก๊ก อาน"

สังคม
08:12
336
DSI พบเพิ่ม 4 บุคคลสงสัยสวมสัญชาติไทยร่วมลูก "ก๊ก อาน"
ดีเอสไอลงพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด สถานที่แจ้งเกิดให้ลูก 3 คนของ "ก๊ก อาน" นอกจากเจอสำเนาสูติบัตรแล้วยังพบอีก 4 คนเข้าข่ายสวมสิทธิคนไทยด้วย

วันที่ 22 ต.ค.2568 เป็นครั้งแรกที่สำเนาสูติบัตรลูกก๊ก อาน ทั้ง 3 คน ถูกนำออกมาให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบ ระหว่างลงพื้นที่ที่ว่าการอำเภอโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด

ในสำเนาแต่ละฉบับปรากฏข้อมูลนายบุญเลี้ยง คล่องกิจกล ชายไทยแจ้งเกิดลูกก๊ก อาน 3 คน โดยระบุ นายกิตติศักดิ์เกิดเดือน ก.ย.2520 น.ส.ยุไลเกิดเดือน มี.ค.2522 ซึ่งมีข้อมูลว่า ยุไลเปลี่ยนชื่อเป็น ภูเฌอหลินในเวลาต่อมา และ อีกคน คือ น.ส.จุรี เกิดเดือน พ.ค.2526

ปลัดอำเภอโพนทองให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่า นายบุญเลี้ยงแจ้งเกิดทั้งสามคนที่สำนักทะเบียนอำเภอโพนทอง ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.2533 บอกเหตุผลว่า คลอดระหว่างทาง ระบุชื่อมารดา คือ อำไพ ภูมิลำเนา อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด

จากการตรวจสอบข้อมูลของดีเอสไอ เบื้องต้นพบข้อมูลว่า เมื่อรวมกับลูกของก๊ก อาน แล้ว พบว่ามีลูกรวม 7 คนที่นายบุญเลี้ยงแจ้งเกิดจากภรรยา 2 คน ที่อาจสวมสิทธิสัญชาติไทย

ทั้ง 7 คน มีพฤติกรรมคล้ายกัน คือ แจ้งเกิดในช่วงปี 2533 เป็น การแจ้งเกิดล่าช้ากว่า 7 ปี โดยอ้างเหตุผลว่าคลอดระหว่างทาง

เมื่อตรวจสอบสำเนาสูติบัตรของทั้ง 7 คน เจ้าหน้าที่พบชื่อผู้ช่วยนายอำเภอในขณะนั้นเป็นนายทะเบียนรับแจ้งเกิดเพียงผู้เดียว แต่นายทะเบียนเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2560 ประกอบกับเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สูญหายหรือถูกทำลายไปแล้ว มีเพียงสำเนาใบสูติบัตรที่ถูกจัดเก็บในระบบสำนักทะเบียนส่วนกลางที่เหลืออยู่

อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ

อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ

อังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ

นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า นอกจาก 3 คนนี้แล้ว ยังพบอีก 4 คนที่เป็นบุคคลต้องสงสัยซึ่งกรมการปกครองกำลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความเป็นธรรมได้ขอข้อมูลกรมการปกครองว่ามีเอกสารอื่นที่เจ้าหน้าที่คนนี้ลงลายมือชื่ออีกไหม ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมร่วมกันตรวจสอบอีกหลายพื้นที่ที่น่าเชื่อว่าอาจเกิดการทุจริตสวมสิทธิทำบัตรประชาชนและเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านโดยมิชอบ ในส่วนของกรณีนี้จะเจาะไปที่องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่อาจจะเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ คอลเซนเตอร์ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชน

ขณะนี้ สำนักทะเบียนเขตประเวศ สายไหม ตลิ่งชัน ดินแดง และอำเภอเมืองตราด กำลังตรวจสอบข้อมูลบุคคลต้องสงสัยทั้งหมด ก่อนส่งผลการตรวจสอบกลับมายังสำนักทะเบียนอำเภอโพนทอง เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาเพิกถอนสัญชาติต่อไป 

เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ ออกหมายจับ ก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา และ นักธุรกิจชาวกัมพูชา รวมถึง ลูก 3 คน ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงกับตึก 18 ชั้นและ 25 ชั้นในปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งถูกระบุเป็นฐานคอลเซนเตอร์ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศไทย

แม้ตำรวจพบความเชื่อมโยงของทั้งสามคนนี้กับก๊ก อาน ในฐานะพ่อลูก แต่อีกด้านหนึ่งกลับพบข้อมูลว่า จุรี ภูเฌอหลิน และ กิตติศักดิ์ มีสัญชาติไทย และในเอกสารแจ้งเกิดปรากฏชื่อบุญเลี้ยง คล่องกิจกล เป็นผู้แจ้งเกิดในฐานะพ่อ นำไปสู่การตรวจสอบว่าขบวนการสวมสิทธิอยู่เบื้องหลังหรือไม่ 

อ่านข่าว :

"รมว.ยุติธรรม" ให้อำนาจ "ดีเอสไอ" ใช้ พ.ร.บ.คดีพิเศษ ปราบสแกมเมอร์

"อนุทิน" ลั่นไม่ตั้งใครแทน "วรภัค" ชี้เวลามีน้อยเชื่อมือ "เอกนิติ"

ด่วน "วรภัค "ลาออก "รมช.คลัง" ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง "สแกมเมอร์"