เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2568 สื่อเกาหลีใต้รายงานพร้อมสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่าขบวนการสแกมเมอร์และคอลเซนเตอร์กำลังย้ายฐานมาประเทศไทยมากขึ้น แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่ตำรวจไทยยังจับกุมแก๊งที่มีชาวจีนเกี่ยวข้องได้ต่อเนื่อง
กรณีล่าสุด วันนี้ (23 ต.ค.2568) ตำรวจนครบาลและเจ้าหน้าที่ กสทช. บุกตรวจค้นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในซอยลาดพร้าว 2 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สืบสวนพบว่าถูกเช่ามาโดยชาวจีน และสงสัยว่าใช้เป็นฐานคอลเซนเตอร์ พบชายชาวจีน 3 คน อยู่ในบ้าน จึงควบคุมตัวสอบสวนและดำเนินคดีทันที
จากการตรวจค้น ยึดของกลางจำนวนมาก ได้แก่ ซิมบ็อก 4 เครื่อง แต่ไม่ได้ใช้งาน, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 4 เครื่อง, โน๊ตบุ๊ก 4 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 29 เครื่อง และ อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5 เครื่อง

พล.ต.อ.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าการสอบปากคำ นายจาง ไห่หลง หนึ่งในผู้ต้องหา ผ่านล่ามแปลภาษาจีน อ้างว่าเข้ามาท่องเที่ยวในไทย และใช้บ้านนี้แค่พักอาศัยเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในบ้านถูกใช้มาก่อน แต่ผู้ต้องหาอีก 2 คนเดินทางจากกัมพูชาเข้ามาไทยเมื่อ 1 ต.ค.2568 ส่วนนายจางมาจากลาวเมื่อ 7 ส.ค.2567

ผู้ต้องหาอ้างว่าตั้งตัวเป็น "ที่ปรึกษากฎหมายฟรี" ช่วยผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยเลือกเหยื่อเป็นคนจีน สเปน และอังกฤษ จนคดีจบ แต่ตำรวจไม่เชื่อ เพราะอุปกรณ์ที่ยึดคล้ายของแก๊งสแกมที่ชอบเช่าบ้านเป็นฐาน และจากการตรวจบัญชีรายรับ-รายจ่าย พบบันทึกตั้งแต่ ต.ค.2567 เดือนแรกมีรายรับถึง 2 ล้านหยวน หรือราว 10 ล้านบาท
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันจะขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อปราบปรามขบวนการสแกมที่ย้ายฐานมาประเทศไทย

อ่านข่าวเพิ่ม :
รื้อ สน.สามเสน คืบหน้าเร็ว เตรียมวางท่อน้ำ-ปูถนนคืน รพ.วชิรพยาบาล
ทรัมป์สั่งยิงเรือ 2 ลำ เชื่อเป็นพาหนะลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ