ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เลขาฯ กฤษฎีกา ระบุ MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไม่ผูกพันทางกฎหมาย แค่สัญญาความร่วมมือ

การเมือง
11:41
64
เลขาฯ กฤษฎีกา ระบุ MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไม่ผูกพันทางกฎหมาย แค่สัญญาความร่วมมือ
อ่านให้ฟัง
04:15อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เลขาธิการกฤษฎีกา เผย ลงนามแร่แรร์เอิร์ธ ผ่าน ครม.นัดพิเศษแล้ว ยันพิจารณาครอบ ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ชี้ไม่ใช่คู่สัญญาเป็นเพียงความร่วมมือ เชื่อสหรัฐฯ ไม่ยกต่อรองภาษี

วันนี้ (28 ต.ค.2568) เวลา 09.05 น. นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีการลงนาม บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนา ของห่วงโซ่อุปทานของแร่สำคัญแร่แรร์เอิร์ธ ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา จะเป็นข้อผูกมัดหรือไม่ ว่า จากกรณีที่เว็บไซต์ทำเนียบขาว เผยแพร่รายละเอียด ของ MOU ดังกล่าว ไม่ผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฉะนั้นไม่ถือเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 เป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่มีอะไรมากมาย และเป็นไปตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ไว้

ส่วนจะเป็นหนึ่งในการที่สหรัฐฯ ใช้เป็นมาตรการกดดันไทยหรือไม่ เลขาธิการกฤษฎีการะบุว่า คิดว่าไม่ เพราะคล้ายกับการตกลงกัน เพราะเป็นลักษณะการคล้ายว่าตกลงกัน อย่างไรในเบื้องต้น และไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไทย และไม่ใช่แค่สหรัฐฯ มาลงทุนที่ไทยอย่างเดียว ไทยก็มีโอกาสไปลงทุนที่สหรัฐฯ ด้วยเหมือนกัน หากมีความสามารถ ฉะนั้นเป็นเหมือนการต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน

ส่วนรายละเอียดก็ต้องไปว่ากัน ตามกฎหมายแร่ของไทย ที่ระบุไว้ว่า จะต้องมีการเปิดประมูลและการแข่งขัน อย่างเป็นธรรม พร้อมยืนยันว่า กฎหมายไทยครอบคลุมในเรื่องนี้ รวมถึงข้อกังวลนี้จะมีการรับไว้พิจารณา แต่ในทางปฏิบัติจะพยายามไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งการลง MOU ในครั้งนี้ก็คล้ายกับที่ไทยไปลงนามกับประเทศอื่น และเขาก็ไม่ได้ทำกับเราประเทศเดียว ทั้งกัมพูชา มาเลเซีย

เมื่อถามว่า MOU ดังกล่าวสามารถยกเลิกได้ใช่หรือไม่ เลขาฯ กฤษฎีกา กล่าวว่า สามารถยกเลิกได้ เพราะมีข้อยกเลิกไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า MOU ดังกล่าวเคยนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เลขาธิการกฤษฎีกา ระบุว่า เคยนำเข้าพิจารณา ในที่ประชุมครม.นัดพิเศษแล้ว ซึ่งมีการพิจารณากันอย่างละเอียด และรมว.ต่างประเทศ ก็ได้ช่วยดูในเรื่องของถ้อยคำ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนกฤษฎีกาก็ดูในเรื่องกฎหมาย เพราะฉะนั้นเราดูครบในทุกมิติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากต้องการยกเลิก MOU ดังกล่าว จะต้องได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่ายหรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า มีรายละเอียดในการยกเลิกไว้ พร้อมขออย่าดูรายละเอียดโดยใช้ AI สรุป เนื่องจากไม่ตรงกัน ก่อนหน้านี้ตนได้เคยทดลองแล้ว ใน MOU ดังกล่าว ไม่ได้ใช้คำว่า “คู่สัญญา” แต่ใช้คำว่า “ความร่วมมือ” ฉะนั้นเป็นความเท่าเทียมกัน ในการตกลงของทั้งสองฝ่าย พร้อมยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายภายใน

ขณะเดียวกันนายปกรณ์ระบุด้วยว่า ข้อก่อนสุดท้ายใน MOU ระบุไว้ชัดว่า หากจะทำอะไรให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ ภายในของแต่ละฝ่าย พร้อมยืนยันว่า ข้อกังวลที่มีอยู่จะต้องรับไว้ และขออย่ากังวล เนื่องจากไม่ใช่หนังสือสัญญาที่มีข้อผูกมัด

อ่านข่าว : “ธารา” ชี้ MOU แร่แรร์เอิร์ธ สหรัฐฯ หวังแทรกห่วงโซ่ของจีน

นายกฯ อนุทินเซ็นตั้ง 3 คณะอนุกรรมการฯ ปราบสแกมเมอร์