วันนี้ (29 ต.ค.2568) ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ มีข้อสั่งการให้ต่ออายุมาตรการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงออกไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้ และให้ ก.คมนาคม และ ก.คลัง ร่วมกันหารือกันว่า หลังจากสิ้นสุดมาตรการ จะดำเนินการอย่างไร โดยวันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนนัดแรก
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ แนวทางบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน สำหรับสายสีม่วงและสายสีแดง ทั้งวันในอัตรา 40 บาท แต่จะใช้ได้เฉพาะบัตรที่มีสัญลักษณ์ EMV (EMV Contactless / MRT EMV / Mangmoom EMV) เท่านั้น โดยไม่ต้องลงทะเบียน แต่ไม่สามารถใช้กับบัตรโดยสารอื่นได้
ส่วนนักเรียน–นักศึกษา จ่ายวันละ 30 บาท / ผู้สูงอายุ ครึ่งราคา / ผู้พิการและเด็ก ฟรี และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้วงเงินในบัตร 750 บาทต่อเดือนได้ตามสิทธิ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2568 – 30 พ.ย.2569 เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน อย่างไรก็ตาม ผลประชุมจะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ภายในวันที่ 18 พ.ย.นี้ และเมื่อเห็นชอบจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการจึงจะมีผล
นายพิพัฒน์ยืนยันว่า รูปแบบ “บัตรเหมาจ่ายรายวัน” รัฐจะไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม แตกต่างจากรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ใช้งบประมาณอุดหนุนปีละ 20,000 ล้านบาท
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางรวมศูนย์การบริหารจัดการระบบรถไฟฟ้าแบบองค์รวม หรือ “Single Ownership” ซึ่งแนวทางที่เหมาะสม หากต้องมีหน่วยงานบริหารรถไฟฟ้าเพียงรายเดียว ก็ควรเป็นการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพราะสามารถบริหารนโยบาย ค่าโดยสาร และระบบตั๋วร่วมของประเทศ เพื่อให้ทุกโครงการรถไฟฟ้าอยู่ภายใต้นโยบายเดียวกันอย่างมีเอกภาพ
โดยแนวคิด Single Ownership สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการบริการจัดการระบบตั๋วร่วม (Common Ticket Act) ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนประกาศใช้ ซึ่งเมื่อมีผลบังคับแล้วจะกลไกหลักในการกำหนดระบบค่าโดยสารร่วม (Common Fare) หรือ ตั๋วร่วม ทำให้การเดินทางของประชาชนสามารถเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าอย่างสะดวกด้วยบัตรใบเดียว และไม่มีค่าแรกเข้า
ส่วนการซื้อสัมปทานคืนจากเอกชนจำเป็นต้องพิจารณาต่อว่า จะซื้อกิจการกลับมาจากเอกชนอย่างไร ซึ่งต้องไปเจรจากับเอกชนทั้ง BTS และ BEM ด้วย เบื้องต้นมีแนวทางว่า เมื่อซื้อสัมปทานคืนจากเอกชนแล้วจะให้เอกชนดำเนินการต่อ
นอกจากนี้ต้องพิจารณาเรื่องแหล่งเงินทุนที่จะใช้ และจะต้องไม่กระทบกับหนี้สาธารณะที่ปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 70 ซึ่งได้ให้กระทรวงการคลังไปพิจารณา คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายใน 90 วัน
ทั้งนี้ เมื่อรถไฟฟ้าทุกเส้นทางกลับมาเป็นของรัฐ ก็จะทำให้สามารถกำหนดค่าโดยสารได้ ส่วนจะนำราคาเหมาจ่ายในราคา 40 บาทมาใช้กับทุกโครงการรถไฟฟ้าหรือไม่ คงต้องรอดูความสำเร็จและการตอบรับจากประชาชน ในการใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีแดงก่อน เพราะหากประชาชนตอบรับมาใช้บริการมากขึ้น ก็จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ลดลง
อ่านข่าว : "พิพัฒน์" เผย รถไฟฟ้าสาย "สีแดง-ม่วง" กลับไปใช้ราคาเดิม 1 ต.ค.นี้
ครม.ขยายเวลารถไฟฟ้า 20 บาท สายสีแดง-ม่วง อีก 2 เดือน ถึง 30 พ.ย.
เตรียมรถฟรีเชื่อมรถไฟฟ้า รองรับปชช.ร่วมถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง
แท็กที่เกี่ยวข้อง:











