วันนี้ (31 ต.ค.2568) กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รายงานการระบาดของเชื้อไวรัสโปลิโอ ชนิดวัคซีนกลายพันธุ์ ชนิดที่ 1 (cVDPV1) ปัจจัยเสี่ยง เชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วผ่านการเคลื่อนย้ายของคน และความครอบคลุมของวัคซีนโปลิโอในประเทศดังกล่าวยังต่ำกว่าเกณฑ์ที่ WHO แนะนำ (95%)
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 จุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR NFP) ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้แจ้งต่องค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโปลิโอชนิดวัคชีนกลายพันธุ์ ชนิดที่ 1 (cVDPV1) ภายหลังการตรวจพบเชื้อ VDPV1 ในเด็กสุขภาพดี 2 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตซนบุลี แขวงสะหวันนะเขต ทางตอบใต้ของประเทศ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ได้มีรายงานผู้ป่วยอาการกล้ามเนื้ออัมพาต อ่อนปวกเป๊ยกแบบเฉียบพลัน (AFP) 1 คน ในแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งตรวจพบเชื้อ VDPV1 ทำให้มีการดำเนินการสอบสวนทางงระบาดวิทยาและดำเนินมาตรการตอบโต้โดยเร่งด่วน รวมถึงการเก็บตัวอย่างอุจจาระจากเด็กสุขภาพดี ใน 3 หมู่บ้านภายในเขตชนบุลี รวมทั้งสิ้น 28 ตัวอย่าง และส่งไปยังห้องปฏิบัติการเฉพาะทางด้านโปลิโอของโลก ที่สถาบันโรคติดเชื่อแห่งชาติ (NIIDD) ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ห้องปฏิบัติการ NIID ยืนยันผลพบเชื้อ VDPV1
ในตัวอย่างอุจจาระของเด็กหญิงที่มีสุขภาพดี 2 คน ที่มีอายุ 1 ปี และ 3 ปี 5 เดือน เด็กทั้ง 2 คน อาศัยอยู่ต่างหมู่บ้านที่ห่างจากบ้านของผู้ป่วย AFP ประมาณ 2 กิโลเมตร และไม่มีอาการผิดปกติ ในช่วงที่เก็บตัวอย่าง (วันที่ 2 - 3 กันยายน 2568)
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่า เชื้อไวรัสมีความแตกต่างของลำดับนิวคลีโอไทด์จากสายพันธ์วัคซีน Sabin 1 จำนวน 30-31 ตำแหน่ง และมีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิดกับเชื้อ VDPV1 ที่ตรวจพบจากผู้ป่วย AFP รายก่อนหน้า การตรวจพบดังกล่าวจึงได้รับการจัดประเภทเป็นการระบาดของเชื้อ cVDPV1 ตามแนวทางของโครงการกำจัดโปลิโอทั่วโลก (GPE)
การระบาดของเชื้อ cVDPV1 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวครั้งนี้ถือเป็น เหตุการณ์ผิดปกติแต่ไม่เกินความคาดหมาย โดยสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเคยประสบกับการระบาดของเชื้อ cVDPV1 มาก่อนในช่วงเดือนกันยายน 2558 - กุมภาพันธ์ 2559 โดยมี รายงานผู้ป่วยทั้งหมด 11 คน และตรวจพบเชื่อจากตัวอย่างอุจจาระของผู้สัมผัสอีก 25 คน
ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2560 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้รับการประกาศว่าปลอด การติดเชื้อ cVDPV1 อย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการภาวะฉุกเฉินของกฎอนามัย ระหว่างประเทศ (IHR Emergency Committee) ว่าด้วยการแพร่กระจายระหว่างประเทศ ของไวรัสโปลิโอ
จากผลการประเมินความเสียงของคณะกรรมาธิการได้ทำการรับรองการกำจักาจัดโปลิโอระดับภูมิภาค (RCC) ประจำปี พ.ศ. 2567 พบว่า สาธารณรัฐประชาธิปโตยประชาชนลาวถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางต่อการเกิดการระบาดของโรคโปลิโอ (Poliomyelitis) อันเนื่องมาจาการเกิดใหม่ การนำเข้า หรือการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโปลิโอ
การประเมินความเสี่ยงขององค์การอนามัยโลก (WHO)
โรคโปลิโอ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย เกิดจากเชื่อไวรัสโปลิโอ (PV) สามารถนำไปสู่อาการ อัมพาตที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ประมาณ 1 คน จากผู้ป่วย 200 คน ในบรรดาผู้ป่วย ที่มีอาการอัมพาต ร้อยละ 5-10 เสียชีวิตจากกาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว เนื่องจากกล้ามเนื้อทางเดินหายใจได้รับผลกระทบ โรคนี่ส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถเกิดขึ้นกับทุกวัยหากไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน และยังไม่มีวิธีการรักษาที่ชัดเจน
การตรวจพบเชื่อไวรัสโปลิโอสายพันธุ์ธรรมชาติ (WPV) หรือเชื้อ VDPV รวมถึงตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม และตัวอย่างจากเด็กที่มีสุขภาพดี ถือเป็นเหตุการณ์สาธารณสุขที่ร้ายแรงโดยเชื้อ VDPV คือ เชื้อในวัคซีน OPV ที่ได้รับการกลายพันธุ์ มีความเสี่ยงที่จะแพร่กระอายในพื้นพื้นที่ที่ไม่มีความครอบคลุมการได้รับวัคซีน
องค์การอมานัยโลกได้ประกาศให้การแพร่กระจายระหว่างประเทศของเชื้อโปลิโอเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคบ 2557 และได้ขยายประกาศดังกล่าวอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568
ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว การตรวจพบเชื่อ VDPV1 ในผู้ป่วย AFP
เมื่อเดือนสิงหาคม 2568 และในเด็กสุขภาพดีอีก 2 คน ส่งผลให้เหตุการณ์นี้ถูกจัดประเภทเป็นการระบาดของเชื้อไวรัสโปลิโอ เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในระยะทางไกลผ่านการเคลื่อนย้ายขอคน ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อภายในประเทศและการแพร่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านถือว่าสูง โดยเฉพาะในประชากรที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ซึ่งแขวงที่พบการระบาดมีพรมแดนติดกับประเทศไทยและเวียดนาม จึงมีความเสี่ยงที่เชื้อ cVDPV อาจแพร่กระอายไปยังชุมชนที่มีระดับการได้รับวัคซีนต่ำหรือไม่ครอบคลุม
ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตารางการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตามปกติประกอบด้วยการได้รับวัคซีน OPV จำนวน 3 เข็ม และวัคชีนชนิดฉีดที่มีส่วนประกอบของโปลิโอ (IPV) 2 เข็ม ภายในอายุ 1 ปี อย่างไรก็ตาม ความครอบคลุมของวัคซีน OPV เข็มที่ 3 (OPV3) ในระดับประเทศยังต่ำกว่าร้อยละ 90 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 - 2565 และลดลงอีก ร้อยละ 6 ในปี พ.ศ. 2567 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 (ร้อยละ 95)
ส่วนวัคซีน IPV เข็มที่ 2 (IPV2) เพิ่งถูกบรรจุในตารางสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในปี พ.ศ. 2567 ซึ่งระดับความครอบคลุมดังกล่าว ยังต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ 95 ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำสำหรับคงระดับภูมิคุ้มกันของประชากรและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโปลิโอได้
โดยภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกขององค์การอนามัยโลกได้รับการประกาศว่า เป็นพื้นพื้นที่ปลอดการระบาดของโรคโปลิโอชนิดประจำถิ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 อย่างไรก็ตาม พื้นที่ใดที่ยังมีช่องว่างของความครอบคลุมวัคซีน ยังคงมีความเสี่ยงต่อการนำเข้าเชื้อโปลิโอและเกิดการระบาดครั้งใหม่ หรือการเกิดการระบาดซ้ำ
ในระดับโลก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 10 สิงหาคม 2568 มีรายงานผู้ป่วย AFP ที่ยืนยันพบเชื้อ cVDPV2 จำนวน 121 คน และมีรายงานการติดเชื้อ cVDPVI ก่อนหน้านี้ 1 คน (จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก) การเกิดขึ้นและการแพร่กระจายของการระบาดเชื้อ cVDPV แสดงถึงความเสี่ยงที่อาจขยายการแพร่ระบาดในระดับนานาชาติได้ต่อไป การให้วัคชีนตามปกติและความครอบคลุมของวัคซีน IPV ที่ต่ำอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ และช่องว่างด้านภูมิคุ้มกันในประชากรยังคงบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อ cVDPV1 ขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง
ที่มา : EIS | Event Information Site for IHR National Focal Points (Event ID: 2025-E000325)
อ่านข่าว : ดรามาดอกไม้ยี่เป็ง เทศบาล-อบจ.ขอคำชี้แจง ปมงบพุ่ง-บริษัทซ้ำชื่อ
เมลิสซาถล่ม! เฮติตาย 25 เด็กสูญ 12 คน จาเมกาหนักสุดในประวัติศาสตร์















