วันนี้ (31 ต.ค. 68) ศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง สส.พร้อมกับการทำประชามติ ในประเด็นเรื่องบัตรเลือกตั้งและบัตรออกเสียง โดยเห็นว่า กกต.ควรจะใช้บัตรเลือกตั้ง 4 ใบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและความเข้าใจของประชาชน คือ
1. บัตรเลือก สส.เขต 2. บัตรเลือก สส.บัญชีรายชื่อ 3. บัตรคำถามประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ และ 4.บัตร คำถามประชามติการยกเลิกหรือไม่ยกเลิก MOU 2543 - MOU2544 โดยชี้ว่า การออกแบบบัตรจะส่งผลต่อความชอบธรรมของกระบวนการและความเข้าใจของประชาชน รวมถึงผลลัพธ์ทางการเมือง ซึ่งหากรวมคำถามประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญและ MOU ไว้ในบัตรเดียวกันเสี่ยงต่อความผิดพลาดและเป็นการชี้นำโน้มเอียงไปสู่อีกคำถามหนึ่ง
ศ.สิริพรรณ ยังตั้งข้อสังเกตถึงเจตนาของรัฐบาล ระบุในการแถลงนโยบายในการทำประชามติเรื่องการยกเลิก MOU ว่า เป็นการสร้างภาพลักษณ์ชาตินิยมดึงประเด็นอ่อนไหวมาใช้เพื่อ สร้างฐานทางการเมือง และความสุ่มเสี่ยงหากมีการรณรงค์ทั้ง 2 เรื่องไปพร้อมกันอาจส่งผลให้เกิดการเบี่ยงประเด็นทางการเมือง จึงบันทึกความเห็นส่วนตัวว่าไม่ควรยกเลิกMOU43 ดังต่อไปนี้
1.MOU 43 เป็นเครื่องมือบริหารเขตแดนเพื่อลดความขัดแย้งป้องกันการเผชิญหน้าที่ไม่ใช่สนธิสัญญาแบ่งเขตแดน
2.การยกเลิกไม่ทำให้เกิดเส้นเขตแดนใหม่แต่ทำให้ไทยไม่มีกรอบเจรจาทางการทูตและกลับไปอยู่ในสภาพที่ไม่มีข้อตกลง ซึ่งอันตรายกว่า
3.เจ้ากรมแผนที่ทหารให้ข้อมูลว่าหากการยกเลิกก็จะทำให้การสำรวจหลักเขตแดนที่ทำมา 20 ปีหายไป
4.การเจรจาใหม่ต้องใช้เวลาหลายปีและอาจถูกกัมพูชาและนานาชาติมองว่าไทยละเมิดพันธะกรณี
5.ไทยสามารถปรับปรุงได้โดยเพิ่มกลไกการตรวจสอบจากรัฐสภาและกำหนดให้การตีความต้องผ่านความเห็นชอบจากทั้ง 2 ฝ่าย และเสนอว่าควรจะทบทวน เพื่อความโปร่งใสอาจตั้งกรรมาธิการร่วมของรัฐสภาตรวจสอบเนื้อหา MOU และจัดทำฉบับปรับปรุง เพิ่มข้อกำหนดการเจรจาต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาไทยก่อน พร้อมกับเปรียบเทียบกับ MOU และหายากที่รัฐบาลตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งผลให้ประเทศอื่นอาจได้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นแผ่นดินไทย
ศ.สิริพรรณ ยังกล่าวถึงกรณีเลขประจำตัวผู้สมัคร สส.เขต และ บัญชีรายชื่อ เบอร์เดียวกัน ซึ่งเป็นไปได้ยากหากยังไม่มีแก้ไขกฎหมาย จึงให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 90 ที่ระบุว่า “ พรรคการเมืองใดส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้ว ให้มีสิทธิ์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อได้” โดย อาจเพิ่มประโยคว่า “ ให้พรรคที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจับหมายเลขก่อน" โดยจะต้องแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ปี 2561 มาตรา 56 หรือมาตรา 57 ด้วยในสาระใจความเดียวกัน ทั้งนี้เห็นว่าหากเป็นไปได้เสนอให้แก้บัตรเลือกตั้งให้มีชื่อนามสกุลหรือภาพผู้สมัคร เหมือนบัตรเลือกตั้งในหลายประเทศด้วยจะดียิ่งขึ้น
อ่านข่าว : "บวรศักดิ์" ถกฝ่ายมั่นคงปม MOU 43-44 ตอบสื่อ "ถึงเวลาจะพูด"
"ปิยรัฐ" เผย ศึกษา MOU43 เสร็จแล้ว แต่ยังไม่สรุปยกเลิกหรือไม่
"ไชยชนก" ลาออก กมธ.MOU43-44 สภาฯตั้ง “ปานเทพ” แทน















