วันนี้ (31 ต.ค.2568) นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เสนอคณะรัฐมนตรีกำหนดให้เรื่องการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็น "วาระแห่งชาติ" และได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้น โดยมี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม เป็นประธานอนุกรรมการด้านการปราบปราม และนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานอนุกรรมการด้านการป้องกัน นั้น
สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลและบูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับขบวนการสแกมเมอร์ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน (แก๊งคอนเซนเตอร์) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ในฐานะกรรมการ และอนุกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 48 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 สั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) ในรายคดีกลุ่มบุคคลที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน รายนายทวีศักดิ์ฯ กับพวก ประเภทห้องชุด ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 11 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท (คำสั่ง ย.270/2568)
กรณีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนขยายผลตามนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี โดยพบข้อมูลการหลอกลวงผู้เสียหายมีความเชื่อมโยงกันหลายคดี มีข้อมูลเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบุคคลสัญชาติจีนที่ถือหนังสือเดินทางกัมพูชา และพบเงินในบัญชีเงินฝากจำนวนมาก รวมถึงมีธุรกรรมทางการเงินเชื่อมโยงกับนายพัด สุภาภา หรือ ลี ยงพัด กับพวก และครอบครัว ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการไทยได้ถอนสัญชาติไปแล้ว
ทั้งนี้ รายคดีดังกล่าว ได้มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินมาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการแล้วประมาณ 300 ล้านบาท ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ซึ่งศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินทั้งหมดไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 559 ราย ปัจจุบัน สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างดำเนินการคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย
ในการนี้ สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อกล่าวโทษนายทวีศักดิ์ กับพวกในความผิดอาญาฐานฟอกเงิน พร้อมทั้งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย เพื่อนำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามที่ได้มีคำสั่งยึดและอายัดข้างต้น ไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
อ่านข่าว : ดงหนาม “ชินวัตร” จุลพันธ์ ลุยฝ่ากับดัก ชี้ชะตาอนาคต “เพื่อไทย”
"รมช.กห." ขอ "วีระ" อย่ากดดันทหาร บุก "บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว"
เพื่อไทย จ่อเคาะ "จุลพันธ์" นั่งหัวหน้าพรรค - "ประเสริฐ" เลขาฯ















