ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผล RBC ไทย-กัมพูชา ดีเดย์ถอนอาวุธหนัก ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้

การเมือง
19:56
172
ผล RBC ไทย-กัมพูชา ดีเดย์ถอนอาวุธหนัก ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้
ผล RBC ไทย-กัมพูชา ดีเดย์ถอนอาวุธหนัก-อาวุธทำลายล้างสูง ระบบจรวดหลายลำกล้อง ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป

วันนี้ (31 ต.ค.68) การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย–กัมพูชา (RBC) พิเศษ ว่าด้วยการถอนอาวุธหนักและอาวุธทำลายล้างสูง ระหว่าง25ภูมิภาคทหารที่ 4 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และกองทัพภาคที่ 2 แห่งราชอาณาจักรไทย ณ โอเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา มี พล.ท. โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และ พล.ท.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ แม่ทัพภาคที่2 แห่งราชอาณาจักรไทย เป็นประธานร่วม โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) จากทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เข้าร่วมสังเกตการณ์ในที่ประชุม

สำหรับการประชุมจัดขึ้นตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 68 และอยู่ภายใต้แนวทางและหลักการของถ้อยแถลงที่ได้ลงนามในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2568 โดยนายกฯของกัมพูชา ไทย และมาเลเซีย ร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้ง 4 ประเทศในการส่งเสริมความโปร่งใส การสร้างความไว้วางใจ และการบริหารจัดการกำลังทางทหารอย่างมีความรับผิดชอบในภูมิภาค ทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้ตกลงร่วมกันในการดำเนินการถอนอาวุธหนักเป็นระยะ (Phased Removal) และมาตรการสร้างความไว้วางใจร่วมกัน เพื่อเสริมสร้าง ความเชื่อใจระหว่างกันและเสถียรภาพตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา โดยได้นิยามและการจำแนกอาวุธ 3 ประเภท ดังนี้

1 ประเภท A หมายถึง ระบบจรวดหลายลำกล้องที่มีตั้งแต่ 2 ลำกล้องขึ้นไป

2 ประเภท B หมายถึง ระบบปืนใหญ่ทุกประเภท ประกอบด้วยระบบปืนใหญ่ลากจูงและปืนใหญ่อัตราจร รวมถึงปืนใหญ่ขนาด 105 มม. 122 มม. 130 มม. 152 มม. และ 155 มม.

3 ประเภท C หมายถึง รถหุ้มเกราะ โดยเฉพาะรถถัง ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีการเคลื่อนที่ที่ได้รับการปกป้อง อำนาจการยิงที่เหนือกว่า และกำลังสนับสนุนโดยตรง

ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเคารพซึ่งกันและกัน และปฏิบัติตามผลการประชุม GBC ไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 และหลักการในถ้อยแถลงที่ได้ร่วมลงนามเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2568 อย่างเคร่งครัด

ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการถอนอาวุธทั้ง 3 ประเภท (ประเภท A ประเภท B และประเภท C) โดยแบ่งเป็นระยะ ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT ตามแผนปฏิบัติการ

ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะอำนวยความสะดวกการตรวจสอบ จัดทำเอกสารและสังเกตการณ์ของ AOT

ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะออกแถลงข่าวเพื่อรายงานความคืบหน้าและการตรวจสอบกระบวนการถอนอาวุธ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณะ

ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงว่า หากฝ่ายใดปกปิดหรือบิดเบือนจำนวนหรือประเภทของอาวุธ ถือว่า การกระทำดังกล่าวสื่อถึงความไม่จริงใจในการคืนสู่สภาวะปกติ เสถียรภาพ และความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ

การถอนอาวุธหนัก และอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ประเภท A) ภายใต้ระยะที่ 1 จะดำเนินการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 - 21 พ.ย.2568 ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT

ทั้งนี้การประชุมฝ่ายเลขานุการ RBC เพื่อวางแผนและดำเนินการสำหรับระยะที่ 2 จะจัดขึ้นวันที่ 15 พ.ย.2568 ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT โดยการถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในระยะที่ 2 (ประเภท B) จะดำเนินการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. - 12 ธ.ค. 2568 ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT

ส่วนการประชุมฝ่ายเลขานุการ RBC เพื่อวางแผนและดำเนินการระยะที่ 3 จะจัดขึ้นในวันที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันต่อไป ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT โดยการถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในระยะที่ 3 (ประเภท C) กำหนดให้ดำเนินการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 13 - 31 ธ.ค.2568 ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT

การประชุมฝ่ายเลขานุการ RBC อาจจัดผ่านระบบออนไลน์หรือในสถานที่ร่วมกัน ตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลง ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT เพื่อให้เกิดการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ การปรึกษาหารืออย่างทันท่วงที และการดำเนินการถอนอาวุธและตรวจสอบที่มีประสิทธิผล กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันทุกก้าวแห่งการปฏิบัติ อยู่บนพื้นฐานของอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน

อ่านข่าว : กองทัพภาค 2 หารือกัมพูชา "ถอนอาวุธหนัก" เฟสแรก 1 พ.ย. 

ทภ.2 ถกกัมพูชาปมถอนอาวุธหนัก เห็นพ้องแผนถอนอาวุธ 3 ระยะ  

กองทัพไทย ถอนอาวุธหนักชายแดนตามถ้อยแถลงร่วมไทย-กัมพูชา