เพราะในช่วงหลังๆ บทบาทของ สส.ไอซ์ จะมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องทั้งบนหน้าสื่อหลักและโซเชียล ต่อเนื่องจากการเปิดประเด็น ตึก SKYY9 ที่ สปส.เอาเงินผู้ประกันตนไปลงทุนซื้อในราคาแพงกว่าราคาจริง เป็นต้นมา
จากนั้นยังเปิดอีกหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องกันจอมพลัง ที่ไม่ใช่เจ้าของและผู้บริหาร “มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้” และไม่มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินของมูลนิธิ เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ และโหมเชิญชวนประชาชนบริจาคเงินอย่างต่อเนื่อง
นำไปสู่คำถาม เรื่องจำนวนเงินและบัญชีใช้จ่าย
คลิปภาพการวิพากษ์เรื่องนี้ของ น.ส.รักชนก กระจายเต็มโลกโชเชียล ทั้งจากไปร่วมเวทีสนทนา การให้สัมภาษณ์และการไลฟ์สด มีประเด็นคำถามเชื่อมโยงไปถึงเรื่องโควตาลอตเตอรี่ของทหารผ่านศึกที่ถูกเบียดบังมากกว่า 1,000,000 ใบต่องวด
ยังมีประเด็นคำถามพาดพิงไปถึงนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาลปัจจุบัน โดยเรียกร้องให้ชี้แจงกรณีพัวพันกลุ่มแก๊งทุนสีเทา
การเทคแอคชันแบบรายวันของ “ไอซ์” รักชนก ไม่เพียงส่งผลให้เธอขยับจากอันดับ 11 ในการสำรวจเดือนกันยายนของสวนดุสิตโพล ขึ้นมาอันดับ 1 ในเดือนตุลาคม ที่ 37.8 % แซง “หัวหน้าเท้ง” ที่ได้ 33.2 % และยังทำให้เรื่องตรวจสอบรัฐบาล กลายเป็นผลงานโดดเด่นอันดับ 1 ของฝ่ายค้านเดือนตุลาคมที่ 63.3 % เท่านั้น
แต่ทำให้พรรคค่ายสีส้มยังรักษา “รูปมวย” เอาไว้ได้ แม้จะถูกแซะเรื่องบทบาทคดีฮั้วเลือกตั้ง และเขากระโดง ว่ามีไม่มากอย่างที่ควรจะเป็น
ขณะเดียวกัน นิด้าโพล ได้เปิดผลสำรวจความนิยมการเมืองภาคอีสาน ซึ่งจะมี สส.มากที่สุดเกือบ 1 ใน 3 ของ สส.ทั้งประเทศ
พรรคประชาชน ยังยืนอันดับ 1 ที่ 26 % ตามด้วย หาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ 24.65 % อันดับ 3 พรรคเพื่อไทย 16.85 % และอันดับ 4 พรรคภูมิใจไทย 15.75 %
แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี เสียงส่วนใหญ่ 22.4 % ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ตามด้วยนายอนุทิน 19.7 % นำหน้านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่ได้ 18.5 % อยู่เล็กน้อย เป็นครั้งแรก ๆ ที่นายอนุทินมีเสียงสนับสนุนสูงกว่า “หัวหน้าเท้ง”
ถ้านับเฉพาะตัวบุคคล จะสอดตล้องกับอีสานโพล ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เปิดผลสำรวจเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2568 ประเด็นอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 นายอนุทิน 24.3 % และ อันดับ 2 นายณัฐพงษ์ 22.8 %
ส่วน สส.เขต อันดับ 1 พรรคประชาชน 30.6 % อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย 27.4 % อันดับ 3 พรรคภูมิใจไทย 12.3 %
เท่ากับคะแนนจากผลโพลยังไม่เสถียร ซึ่งอาจเป็นเพราะในช่วง 1 เดือนมานี้ พรรคภูมิไจไทย ทำคะแนนตีตื้นได้ทั้งเรื่องแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา การจ่ายเงินชดเชยช่วงอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง เรื่องเดินหน้าปราบสแกมเมอร์ และ ยังเรื่องโครงการคนละครึ่งพลัส
คะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้น ไม่เพียงมีผลต่อคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย แต่ยังจะมีผลต่อพรรคสีส้มด้วย โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จากกรณีคำถาม “มีกองทัพไว้ทำไม” ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และเรื่องท่าทีต่อกองทัพของพรรคประชาชนในช่วงที่ผ่านมา
“ไอซ์” รักชนก จึงอาจจะเป็นตัวช่วยสำคัญของพรรคประชาชน ในช่วงเวลาที่เสียงชื่นชมสนับสนุนกำลังพุ่งแรงในขณะนี้ เพราะเป็นคนที่พูดจาฉะฉาน ข้อมูลลึก สื่อสารโดยใช้คำพูดง่ายๆ ฟังแล้วเข้าใจ อารมณ์ดี มีเสน่ห์
และอีกด้านหนึ่ง เป็นคนที่มีแฟนคลับเยอะ มีคนติดตามแฟนเพจมากกว่า 1.1 ล้านคน
คำถามสำคัญ คือพรรคจะให้บทบาทและใช้ประโยชน์จาก”ของ”ที่เธอมีแค่ไหน เพราะพรรคค่ายสีส้ม มักจะมีอะไรที่หักมุมให้เห็นเสมอ โดยเฉพาะเรื่องคน
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : เสียง "ทหาร" ในโซเชียล หลังถูกสั่ง “ถอนกำลัง” ออกจากชายแดน
น้ำป่าหลาก "น้ำตกแม่เตี๊ยะ" ระดมช่วยนักท่องเที่ยวติดค้างลานกางเต็นท์
"ธนเดช" จี้ "รมว.กลาโหม" ชี้แจง ข้อเท็จจริงโควตาสลากฯทหารผ่านศึก
แท็กที่เกี่ยวข้อง:











