วันนี้ (11 พ.ย.2568) ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ชี้แจงกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณพื้นที่ ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2568 ยืนยันว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่กำลังพลปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบนเส้นทางที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาเคยรุกล้ำเข้ามาวางกำลัง ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปภายหลังเหตุปะทะที่ผ่านมา
โดยหลังจากทหารกัมพูชาถอนกำลังออกไปแล้ว ฝ่ายไทยได้เข้าควบคุมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2568 พร้อมทั้งได้ดำเนินการเสริมความมั่นคงพื้นที่ด้วยการกวาดล้างทุ่นระเบิดวางเครื่องกีดขวาง ลวดหนาม และลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2568 ตรวจพบว่าแนวลวดหนามที่วางบริเวณเส้นทางลาดตระเวนถูกลักลอบเข้ามารื้อถอน
จากนั้นในวันที่ 10 พ.ย.2568 หน่วยในพื้นที่จึงได้จัดกำลังชุดลาดตระเวนร่วมกับ ชุดทหารช่าง เข้าพิสูจน์ทราบและซ่อมแซมแนวลวดหนามที่ถูกรื้อถอน จนเป็นเหตุให้กำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด
หลังจากเกิดเหตุหน่วยในพื้นที่ได้ประสานขอรับการสนับสนุน ชุดตรวจค้นหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) จากสถานีตำรวจภูธรบึงมะลู และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ศรีสะเกษ เข้าพิสูจน์ทราบบริเวณจุดเกิดเหตุ จากหลักฐานที่ปรากฏ พบร่องรอยหลุมระเบิดและเศษชิ้นส่วนระเบิดที่ทำงานแล้ว ซึ่งสามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 และตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ที่ยังไม่ทำงานอยู่บริเวณใกล้เคียงกับหลุมระเบิดอีก จำนวน 3 ทุ่น เป็นการลอบวางใหม่โดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายมุ่งทำร้ายกำลังพลที่ลาดตระเวนเส้นทางอยู่เป็นประจำและหวังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อฝ่ายไทย
การกระทำของฝ่ายกัมพูชาในครั้งนี้ ปรากฏชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชายังคงจงใจไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสันติภาพดังกล่าว รวมทั้งแสดงให้เห็นถึง การละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการลอบโจมตีกำลังพลฝ่ายไทยด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ และทำลายความหมายที่แท้จริง ของคำว่าสันติภาพของภูมิภาคสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่มุ่งคุกคามฝ่ายไทย และรุกล้ำอาณาเขตของไทยอย่างชัดเจนเสมอมา ด้วยการใช้อาวุธทุ่นระเบิด และมีเจตนามุ่งหมายที่จะไม่ยุติความขัดแย้งระหว่างฝ่ายไทย และกัมพูชา อย่างที่แสดงออกในเวทีโลก
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่แสดงออกถึงความไม่จริงใจ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นอุปสรรคสำคัญอันจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพในภูมิภาค รวมทั้งเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อทุกประเด็นที่กัมพูชาเคยให้คำมั่นในปฏิญญาต่อประชาคมโลก ทั้งระดับทวิภาคีและระดับนานาชาติ
อ่านข่าว :
โฆษกรัฐบาลชี้ไม่มีเดดไลน์ระงับปฏิญญาไทย-กัมพูชา ไฟเขียวกลาโหมจัดการ
ผ่าตัดรอบ 2 ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด หลังพบแผลติดเชื้อ
มติ สมช.ระงับปฏิญญากัมพูชา งดส่ง 18 เชลยชี้วางทุ่นระเบิดละเมิดอธิปไตย











