ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ย้ำต้องจัดการเด็ดขาด หอการค้า หนุนเร่งแก้ไขขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา

เศรษฐกิจ
17:13
106
ย้ำต้องจัดการเด็ดขาด  หอการค้า หนุนเร่งแก้ไขขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา
อ่านให้ฟัง
05:17อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หอการค้าแสดงจุดยืนเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องจัดการเด็ดขาด เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนบนเวทีนานาชาติ แม้ส่งผลต่อการลงทุน-การค้าชายแดน ย้ำรัฐต้องสื่อสารเวทีโลกลดความคลาดเคลื่อน ปกป้องอธิปไตยผลประโยชน์ของประเทศ ด้านพาณิชย์เผยยังไม่มีผลกระทบด้านการค้าเพิ่ม

 วันนี้ (8 ธ.ค.2568) นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงจุดยืนในนามภาคเอกชนไทย ขอแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมีเหตุปะทะเกิดขึ้นเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา โดยย้ำว่า ภาคเอกชนไม่ได้สนับสนุนให้เกิดความรุนแรง การเผชิญหน้า หรือสงครามในทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ประเทศไทยถูกละเมิดอธิปไตยและมีการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อตกลงระหว่างประเทศหลายครั้ง ประเทศไทยย่อมมีสิทธิและความจำเป็นในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนตามหลักสากล

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

หอการค้าไทยเห็นว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ จำเป็นต้องแยกแยะประเด็นด้าน ความมั่นคง ออกจาก ประเด็นทางเศรษฐกิจ อย่างชัดเจน โดยความมั่นคงของประเทศและชีวิตของประชาชนต้องมาก่อนเศรษฐกิจเป็นลำดับแรก แม้ภาคธุรกิจจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจากการปิดด่านการค้าชายแดนที่ยืดเยื้อมากกว่าครึ่งปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อการค้าชายแดน การลงทุน และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

ภาคเอกชนเห็นว่าสถานการณ์ดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างเด็ดขาด ชัดเจน และยุติโดยเร็ว เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในเวทีนานาชาติ และทำให้ระบบเศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง หอการค้าไทยจึงขอสนับสนุนรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาให้จบโดยเร็วและโดยสิ้นเชิง รวมถึงการพิจารณามาตรการที่เหมาะสมและจำเป็น หากต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศอย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกัน ภาคเอกชนเห็นว่า การสื่อสารกับนานาชาติระหว่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ภาครัฐควรเร่งสื่อสาร ทำความเข้าใจ และชี้แจงอย่างเป็นระบบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมิได้เกิดจากประเทศไทยเป็นฝ่ายเริ่มต้น แต่เป็นผลจากการละเมิดข้อตกลงและอธิปไตยของไทย โดยฝั่งกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ลดความคลาดเคลื่อน และรักษาภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลก

หอการค้าไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายลงโดยเร็ว นำไปสู่ความสงบเรียบร้อย สันติภาพ และความมั่นคงของประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไทยและประชาชนชาวไทยในระยะยาว

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการติดตามผลกระทบสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ว่าได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากเดิมมากน้อยแค่ไหน หลังจากเหตุการณ์ปะทะ  หลังจากที่ไทยได้ปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชาไปเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ลดลงต่อเนื่องไปแล้ว 99.99%

สำหรับตัวเลขการค้าชายแดนไทยกัมพูชา 10 เดือนแรกของปี มีมูลค่า 95,554 ล้านบาท ติดลบ 36.68% ในจำนวนนี้ส่งออก 72,844 ล้านบาท ติดลบ 38.43% ส่วนการนำเข้า อยู่ที่ 22,710 ล้านบาท ติดลบ 30.32%  เฉพาะเดือนตุลาคมเดือนเดียว มีมูลค่าอยู่ที่ 9 ล้านบาท ติดลบ 99.94% แยกเป็น ส่งออก 9 ล้านบาท ติดลบ 99.93% นำเข้า 320,000 บาท ติดลบ 99.99 %

ทั้งนี้ เบื้องต้นประเมินว่า เหตุการณ์ปะทะครั้งล่าสุดน่าจะไม่มีผลกระทบที่มากขึ้นกว่าเดิม ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญหลังจากนี้ คือ การดูแลผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบริเวณแนวชายแดน เช่น มหกรรมท้องฟ้าในภาคอื่นๆ  ขณะที่ การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ลงทุนในกัมพูชา ทางกระทรวงการคลังเตรียมที่จะออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง , การโอนย้ายเครื่องจักร เครื่องมือ โดยไม่เสียภาษี

อ่านข่าว:

 กอ.รมน. ขอประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา ช่วงชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียด

"อนุทิน" บอกไม่มีการเจรจาแล้ว ยันปกป้องอธิปไตยไทย

พล.ต.วินธัย ย้ำปฏิบัติการทางอากาศที่ตั้งอาวุธ-ฐานโดรนกัมพูชา ยับยั้งโจมตีไทย