คลื่นสูง 3 เมตรซัดบ้านริมหาด จ.สงขลา ชาวบ้านเริ่มอพยพออกพื้นที่

สถานการณ์น้ำที่ท่วมหลายพื้นที่ในภาคใต้ยังคงน่าเป็นห่วง แม้ปริมาณฝนที่ตกจะเริ่มลดลงแล้วก็ตาม ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ติดริมทะเล เริ่มเก็บข้าวของอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย หลังคลื่นทะเลซัดบ้านพังเสียหาย

ชาวบ้านริมทะเลบ้านบ่ออิฐ ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เร่งเก็บข้าวของอพยพออกจากบ้านเพราะไม่มั่นใจความปลอดภัย หลังคลื่นทะเลที่มีความสูงเกือบ 3 เมตรซัดเข้าบ้านจนเสียหาย เช่นเดียวกับถนนริมชายทะเลที่ถูกคลื่นซัดเสียหายจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังพบว่า ริมชายหาดชุมชนเก้าเส้ง ชายหาดแหลมสมิหลา เขตเทศบาลนครสงขลา ถูกคลื่นซัดจนชายหาดเสียหายไปแล้วกว่า 300 เมตร และต้นสนกว่า 30 ต้น ถูกคลื่นซัดโค่นล้ม เรือสินค้า และ เรือประมงกว่า 50 ลำ ต้องใช้เกาะหนู เกาะแมว เป็นที่กำบังเพื่อหลบคลื่นลมแรง

ขณะที่ชาวบ้านบางม่วงตำบลฝาละมี อำเภอปาดพะยูน จังหวัดพัทลุง บางคนต้องเกาะรั้วบ้าน เพื่อไม่ให้กระแสน้ำที่เชี่ยวกราก พัดพาร่างไปกับกระแสน้ำ บางส่วนต้องเดินไต่เชือกไปมาหาสู่กัน หลังหมู่บ้านถูกน้ำป่า และ น้ำคลองเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 300 หลัง จนถึงขณะนี้ระดับน้ำก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลด ล่าสุดหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุงได้ส่งเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือ เช่นเดียวกับทหารค่ายอภัยบริรักษณ์ อำเภอศรีนครินทร์ ที่ได้รับคำสั่งให้เร่งส่งกำลังพลไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด

ส่วนที่จังหวัดยะลาทหารหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และจังหวัดยะลา ออกสำรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยตามชุมชนต่างๆ ในเขตอำเภอเมือง เพื่อประเมินถึงสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมกับนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยจังหวัดยะลา มีพื้นที่ประสบภัยแล้ว 5 อำเภอ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังติดค้างในหมู่บ้าน เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาดจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ล่าสุดมีชาวบ้านจมน้ำเสียชีวิตแล้ว 2 คน

เช่นเดียวกับจังหวัดปัตตานีน้ำจากแม่น้ำปัตตานีที่เพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นไหลเข้าท่วมชุมชนจะบังติกอ/ชุมชนตะลูโบ๊ะและชุมชนโรงอ่าง อำเภอเมืองปัตตานี ระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร บางจุดสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ริมถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส โดยจังหวัดปัตตานีมีอำเภอที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 6 อำเภอ คืออำเภอเมือง อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก อำเภอยะรัง อำเภอมายอ และ อำเภอสายบุรี