จะเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาทำความสะอาดบ้าน ตอนนี้หายใจยังลำบาก เมื่อเห็นบ้านที่เสียหายทั้งหมด
แม้จะผ่านมา 2 สัปดาห์แล้ว แต่สภาพโคลนยังคงแห้งเกรอะเต็มพื้นบ้าน และเปื้อนข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านทั้งหมด แต่พื้นที่ที่ยังพอสะอาดมีเพียงแค่แคร่ไม้ ที่กลายมาเป็นเตียงนอนชั่วคราว ในบ้านของนางปราณี สุขาเขิน หมู่ 4 ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา
นางปราณี เล่าว่า ในวันที่น้ำไหลเข้าท่วม ได้อาศัยบนชั้นสองของบ้าน ร่วมกับคนอื่น ๆ รวม 9 ชีวิต แต่น้ำที่ไหลเชี่ยวและเพิ่มขึ้น ทำให้ตัดสินใจทุบฝ้าหลังคา พร้อมพังประตูออกมา ขึ้นเรือของเจ้าหน้าที่ ที่พยายามขับฝ่ากระแสน้ำมารับ และออกไปอาศัยในศูนย์อพยพ
หลังน้ำลดกลับมาเห็นบ้านที่จมน้ำ เสียหายทั้งหมด และตัวเองก็แก่ชรา ซ้ำยังมีโรคประจำตัว ลูกหลานส่วนใหญ่ก็ต้องออกไปหางานทำก่อน จึงยังทิ้งบ้านไว้ในสภาพเดิม เพราะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำความสะอาดบ้านทั้งหมดได้ไหว
ส่วนนางกริม ถมทอง หญิงชราที่บ้านอยู่ไม่ห่างกันมากนัก แม้ความจำจะเริ่มละเลือนตามวัย แต่ความทรงจำในเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ก่อนยังแจ่มชัด
นางกริม เล่าว่า น้ำท่วมจมมิดบ้านชั้นล่างทั้งหมด ตัวเองก็เป็นห่วงทรัพย์สิน แต่ลูกหลานก็ต้องคอยเฝ้าระวังไม่ให้ลงมาชั้น 1 ที่เต็มไปด้วยน้ำที่ท่วมสูง
“ยายจำได้ตอนน้ำท่วม มิดเลยชั้นหนึ่ง ยายอยู่ชั้นสอง น้ำก็ขึ้นเรื่อย ๆ ยายก็อยากลงไปดูว่า น้ำมันถึงขนาดไหน ท่วมอะไรไปบ้าง แต่ลูก ๆ หลาน ๆ ก็ไม่ให้ลง ห้ามไว้ตลอด กลัวตกน้ำไป” นางกริม กล่าว
ไม่เพียงแต่บ้านเรือนของชาวบ้านในหมู่ 4 เกือบทุกหลังคาเรือนเท่านั้น ที่ได้รับความเสียหาย แต่พบว่า สวนทุเรียนของชาวบ้านหลายคน ต้นทุเรียนต่างยืนต้นตาย บางแปลงเจ้าของลงทุน ทั้ง การถมที่ดินเพื่อยกร่อง การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเดินระบบบสปริงเกอร์ รวมถึง เงินซื้อต้นพันธุ์ทุเรียน และลงแรงปลูกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้กลับแห้งตายทั้งหมด เนื่องจากน้ำท่วมที่แช่นานและลดช้า ทำให้รากของต้นไม้ที่ปลูกไว้บางส่วนเน่าตาย หลายคนจึงคิดจะเปลี่ยนไปปลูกพืชพันธุ์อื่น เพราะไม่ไว้ใจธรรมชาติอีกต่อไปแล้ว
“ถ้าเรื่องการเตรียมความพร้อมอพยพ ชาวบ้านก็เตรียมความพร้อมพอสมควร ทางคณะของผู้ใหญ่และผู้ช่วยฯ ก็พยายามไปแจ้งก่อนแล้วว่า ปีนี้น้ำเยอะ ให้อพยพก่อน แล้วมาอยู่ศูนย์พักพิง ชาวบ้านหลายครอบครัวก็เชื่อ แต่พวกสวนผลไม้ สัตว์เลี้ยง หมดเลย เพราะน้ำท่วมนานกว่าจะลด และบางส่วนปีที่แล้วก็ถูกน้ำท่วมมาแล้ว ที่เหลือรอดคือ ต้นที่ปลูกหลายปีแล้ว แต่ที่เพิ่งลงปลูกปี หรือ สองปี ตายหมด” นางกัลยา ถมทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.หน้าถ้ำกล่าว
ด้วยภูมิประเทศของหมู่ 1 และหมู่ 4 ต.หน้าถ้ำ ที่ต้องรับน้ำจากหลายทาง บวกกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องนานนับสัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านพื้นที่นี้ได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมด ชาวบ้านพูดตรงกันว่า น้ำมาเร็ว และสูงมาก ซ้ำร้ายยังลดช้า ทำให้หลายคนไม่ทันตั้งตัว
ขณะที่การเข้าช่วยเหลือโดยเฉพาะการอพยพก็ทำได้จำกัด เพราะเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีน้อย โดยเฉพาะเรือท้องแบนที่มีตำบลละ 1 ลำ และเครื่องยนต์เรือหางยาว จึงมีความเสี่ยง เพราะกระแสนน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้การอพยพต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากระหว่างเกิดเหตุ
ซึ่งความเสียหายที่กินวงกว้าง และการช่วยเหลือที่ยังอาจไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะกับครอบครัวผู้สูงวัย กลุ่มเปราะบาง ที่อาจเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี และไม่รับทราบข่าวสารการช่วยเหลือ ทำให้มูลนิธิไทยพีบีเอส และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะผู้ใหญ่บ้าน ได้นำข้าวสาร และขอใช้จำเป็นไปช่วยเหลือในระยะเบื้องต้น หลังพบว่า อาหาร น้ำดื่มและเครื่องอุปโภคบริโภค ยังมีความจำเป็นสำหรับชาวบ้านระหว่างพยายามก้าวข้ามวิกฤตนี้
รายงาน : ติชิลา พุทธสาระพันธ์ หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคใต้ ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว :
ปีใหม่ 2569 ขึ้นทางด่วนฟรี บูรพาวิถี / บางพลี - สุขสวัสดิ์ 30 ธ.ค. 68 – 5 ม.ค.
"ตราด" ยกเลิกเคอร์ฟิว 5 อำเภอ หลัง จนท.ควบคุมสถานการณ์ได้
“จีน” ส่งกลับ 325 แก๊งสแกมเมอร์ จากเคเคปาร์ค-ชเวโก๊กโก
แท็กที่เกี่ยวข้อง:











