ทอท.ติดตั้งเครื่องบอดี้สแกนตรวจค้นผู้โดยสารที่สนามบิน

ทอท.ได้ติดตั้งเครื่องนี้บอดี้ สแกนเนอร์แล้ว ในพื้นที่จุดตรวจค้นบริเวณอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากก่อนหน้านี้ การใช้เครื่องบอดี้ สแกนเนอร์ เพื่อตรวจหาวัตถุต้องสงสัยทั้งอาวุธ ยาเสพติด สร้างความกังวลให้แก่ประชาชน รวมถึงองค์กรด้านสตรีว่าอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แม้จะยังไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจนทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ทอท.ได้ติดตั้งเครื่องนี้บอดี้ สแกนเนอร์แล้ว ในพื้นที่จุดตรวจค้นบริเวณอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจุดตรวจค้นนี้มีความกว้างถึง 1,600 ตารางเมตร ซึ่งกว้างกว่าพื้นที่ตรวจค้นเดิม บริเวณด้านหลังของด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารที่เดินทางผ่านจุดตรวจค้น ได้รับความสะดวกมากขึ้น และผู้โดยสารที่นำสิ่งของที่ไม่สามารถผ่านด่านการตรวจเครื่องเอกซเรย์ เช่น ของเหลวต่างๆ ก็สามารถส่งคืนทรัพย์สิน ให้กับผู้ที่ติดตามมาส่งในการเดินทางได้

สำหรับจุดตรวจค้นใหม่นี้ ติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์สัมภาระ 12 เครื่อง เป็นเครื่องเอกซเรย์แบบสามมิติ หรือ CT 800 ทำงานเหมือนกับเครื่อง CTX 9000 สามารถตรวจค้นหายาเสพติด และวัตถุระเบิดต่างๆ ได้อย่างละเอียดจำนวน 2 เครื่อง

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องตรวจค้นแบบบอดี้ สแกนเนอร์ จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งจะสามารถตรวจค้นสิ่งของ ที่ติดมากับร่างกายได้อย่างละเอียด และยังทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถตรวจค้นผู้โดยสารได้รวดเร็วเพิ่มขึ้นจาก 3,600 คนต่อชั่วโมง เป็น 7,200 คนต่อชั่วโมง

ปัจจุบัน สนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้า - ออก ประมาณ 80,000 คนต่อวัน ลดลงจากผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณกว่า 100,000 คน ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว หรือลดลงประมาณ ร้อยละ 20

ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศ ประชาชนจำนวนมาก ก็มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย กับการใช้บอดี้ สแกนเนอร์ หรือเครื่องฟูล บอดี้ เอ็กซเรย์ เช่นที่สหรัฐอเมริกา ทางการสหรัฐฯเริ่มใช้ตรวจผู้โดยสาร ตามสนามบินต่างๆ ของประเทศเมื่อปี 2550 ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 450 เครื่อง ใช้ในสนามบิน 65 แห่ง ซึ่งขณะนี้ผู้โดยสารจำนวนมาก มีการร้องเรียนว่า ทำให้เห็นภาพกราฟิกของร่างกายที่เปลือยเปล่า รวมทั้งอวัยวะเพศ และกลัวจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

แต่การใช้เครื่องบอดี้ สแกนเนอร์นี้กลับช่วยให้ทางการสหรัฐฯสกัดแผน คนร้ายจากกลุ่มอัลกออิดะห์ ที่พยายามซุกซ่อนระเบิดในเสื้อผ้า บนเครื่องบินโดยสารของสหรัฐฯ และในหีบห่อพัสดุของเครื่องบินขนส่ง 2 ลำ

ด้านในสื่อสังคมออนไลน์มีการตั้งแฟนเพจในเว็บไซต์เฟสบุค โดยใช้ชื่อว่า แอนตี้ บอดี้ สแกนเนอร์ โดยระบุว่า เครื่องบอดี้ สแกนเนอร์ เป็นเครื่องเอ็กซเรย์ตรวจร่างกายโดยละเอียด ทำให้เห็นภาพกราฟิกของร่างกายที่เปลือยเปล่า รวมทั้งอวัยวะเพศ รวมถึงเห็นว่าเครื่องสแกนเนอร์อาจไม่ปลอดภัย

ส่วนเรื่องความปลอดภัยทางด้านสุขภาพก็มีนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ ระบุว่า บอดี้ สแกนเนอร์ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยจากการวิจัยยังพบว่าผู้โดยสารจะได้รับปริมาณรังสีเล็กน้อย หมือนกับการเอ็กซเรย์ฟัน

แตกต่างจากนักวิชาการจาก มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า เครื่องบอดี้ สแกนเนอร์ อาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ถูกตรวจ เพราะเป็นการตรวจด้วยระบบเอ็กซเรย์ภาพกราฟิก จากสถิติที่รวบรวมพบว่าผู้ถูกตรวจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง