ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“โดนัลด์ ทรัมป์” หรือ “คามาลา แฮร์ริส ?” สะท้อนผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ กับภาพเศรษฐกิจไทย


Insight

5 พ.ย. 67

สันทัด โพธิสา

Logo Thai PBS
แชร์

“โดนัลด์ ทรัมป์” หรือ “คามาลา แฮร์ริส ?” สะท้อนผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ กับภาพเศรษฐกิจไทย

https://www.thaipbs.or.th/now/content/1844

“โดนัลด์ ทรัมป์” หรือ “คามาลา แฮร์ริส ?” สะท้อนผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ กับภาพเศรษฐกิจไทย
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

 

‘ทรัมป์ หรือ แฮร์ริส’ อีกไม่นานเกินรอ ผู้คนทั้งโลกจะได้ทราบกันว่า ใคร ? จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐอเมริกาคนใหม่ 

Thai PBS WORLD ร่วมกับสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย จัดเสวนา โค้งสุดท้ายเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Run-up to US Presidential Election 2024) โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาสะท้อนแง่มุมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในมิติด้านเศรษฐกิจ ที่หากใครได้ขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อไทยอย่างไร เราสรุปแง่มุมที่น่าสนใจมาบอกกัน

1.ผลกระทบด้านการค้า : สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น

สงครามด้านการค้าที่เคยเข้มข้น จะเข้มข้นมากขึ้นอีกหลายเท่า หลังการขึ้นดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐฯ โดย โดนัลด์ ทรัมป์ มีนโยบายที่ชัดเจนในการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เช่น การเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก ในอัตรา 10-20% และโดยเฉพาะกับจีน จะตั้งเพดานภาษีสูงถึง 60-100% จุดนี้อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ผลิตชิ้นส่วนให้กับจีนนำไปประกอบ 

ในทางตรงกันข้าม หาก คามาลา แฮร์ริส ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีนโยบายขึ้นภาษีเฉพาะสินค้าบางส่วน เช่น รถไฟฟ้า และพลังงานสะอาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไทยน้อยกว่า

2.ผลกระทบด้านการลงทุน : การย้ายฐานการผลิตเข้าสหรัฐฯ

ในมิติด้านการลงทุน หาก โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง คาดการณ์ว่าทรัมป์จะมีความพยายามดึงบริษัทข้ามชาติ  ให้ย้ายฐานการผลิตกลับมาสู่สหรัฐฯ มากขึ้น โดยใช้มาตรการจูงใจ เช่น การลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งจุดนี้ ถือเป็นโอกาสให้ภาคธุรกิจไทย สามารถเข้าไปเปิดโรงงานในสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน คาดว่า คามาลา แฮร์ริส จะมีนโยบายขึ้นอัตราภาษีนิติบุคคล ซึ่งมีแนวโน้มให้ภาคธุรกิจย้ายฐานการผลิตออกจากสหรัฐฯ มากขึ้น

3.ผลกระทบด้านเทคโนโลยี : การกีดกันเทคโนโลยีกับจีน

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่มีผลต่อการขับเคลื่อนโลก นั่นคือ การพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทรัมป์หรือแฮร์ริส หากใครก้าวขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไปของสหรัฐฯ จะมีนโยบายสำคัญทางเทคโนโลยีที่มีความคล้ายคลึงกัน นั่นคือ การจำกัดการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับจีน โดยวิเคราะห์กันว่า ในรายของทรัมป์ อาจมีนโยบายที่เข้มงวดมากกว่าของคามาลา โดยห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันไปลงทุน หรือทำธุรกิจกับจีนในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ซึ่งมาตรการเหล่านี้ จะส่งผลมาถึงมิติด้านเทคโนโลยีของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

4.ผลกระทบด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม

ในมิติด้านการพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในโลกธุรกิจยุคนี้ การเดินหน้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ หรือ Net Zero ล้วนเป็นพันธกิจสำคัญของประเทศยักษ์ใหญ่ของโลก ทว่านโยบายในเรื่องนี้ของทั้งสองแคนดิเดตผู้นำสหรัฐฯ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง 

โดย คามาลา แฮร์ริส มุ่งเน้นการลงทุนและสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงให้การสนับสนุนการใช้พลังงานฟอสซิลต่อไป สำหรับมิติเรื่องเหล่านี้ มีผลกระทบต่อโครงสร้างการลงทุนด้านพลังงานสะอาดของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไมได้เช่นกัน

สุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น โดนัลด์ ทรัมป์ หรือ คามาลา แฮร์ริส การกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน เทคโนโลยี และพลังงาน-สิ่งแวดล้อม 

ซึ่งอุตสาหกรรมไทยจะต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันอาจเป็นโอกาสที่ไทยจะสามารถขยายฐานการผลิตและการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้มากขึ้นในอนาคต

ข้อมูลส่วนหนึ่งจากานเสวนา Run-up to US Presidential Election 2024 โดย Thai PBS WORLD ร่วมกับสมาคมอเมริกาศึกษาในประเทศไทย


 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

โดนัล ทรัมป์คามาลา แฮร์ริสเลือกตั้งสหรัฐฯประธานาธิบดีสหรัฐฯเศรษฐกิจไทย
สันทัด โพธิสา
ผู้เขียน: สันทัด โพธิสา

เจ้าหน้าที่เนื้อหาออนไลน์อาวุโส Thai PBS สนใจความเคลื่อนไหวของสังคม ผู้คน และเทรนด์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ และรวมถึงเป็นสมาชิกทาสแมวมายาวนาน

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด