ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

5 สาเหตุแอร์ไม่เย็นช่วงหน้าร้อน พร้อมวิธีแก้ด่วน


How to

10 มี.ค. 68

อธิเจต มงคลโสฬศ

Logo Thai PBS
แชร์

5 สาเหตุแอร์ไม่เย็นช่วงหน้าร้อน พร้อมวิธีแก้ด่วน

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2440

5 สาเหตุแอร์ไม่เย็นช่วงหน้าร้อน พร้อมวิธีแก้ด่วน
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

 

แอร์ไม่เย็นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าร้อนของทุกปี

Thai PBS รวบรวมสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็นพร้อมวิธีแก้ไข แอร์ไม่เย็นแบบใดที่คุณสามารถแก้เองได้ และอาการลักษณะไหนที่คุณจำเป็นจะต้องเรียกหาช่างซ่อมแอร์โดยด่วน

1. แอร์ไม่เย็น เพราะขาดการดูแลอย่างเหมาะสม

แอร์จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อทำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แอร์ไม่เย็นจึงเกิดขึ้นได้หากขาดการดูแลที่เหมาะสม ดังนี้

การล้างแอร์ หากไม่ได้มีการล้างแอร์เป็นเวลานาน ฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่เข้าไปสะสมที่ไส้กรองอากาศของในส่วนของตัวเครื่องแอร์ และส่วนคอมแพรสเซอร์จะทำให้แอร์ไม่สามารถทำงานระบายความร้อนได้อย่างเต็มที่ ยิ่งสะสมเป็นเวลานาน ยิ่งทำให้แอร์ทำงานผิดปกติ และยังทำให้แอร์กินไฟมากกว่าปกติอีกด้วย นอกจากแอร์ไม่เย็นแล้วยังอาจพบปัญหาอื่น ๆ เช่น แอร์ส่งกลิ่นเหม็น แอร์มีน้ำหยด ซึ่งมาจากความสกปรก มีน้ำขัง หรือมีสัตว์เล็ก เช่น หนู หรือ แมลงสาบเข้าไปตายแล้วส่งกลิ่น ทั้งนี้ การล้างแอร์แบบอัดฉีดควรทำทุก 4 – 6 เดือนโดยช่างแอร์ 

ทำความสะอาดไส้กรองอย่างเหมาะสม ส่วนนี้จะมีฝุ่นละอองสกปรกติดอยู่ได้ง่าย ยิ่งหากที่อยู่อาศัยของคุณอยู่ใกล้กับถนนหรือแหล่งที่มีฝุ่นสูง ไส้กรองอาจสกปรกได้เร็วขึ้น คุณสามรารถถอดไส้กรองหรือแผ่นกรองที่อยู่ในแอร์ออกมาล้างด้วยน้ำเปล่าได้ด้วยตัวเอง และควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครึ่ง

2. แอร์ไม่เย็น เพราะขนาด BTU ของแอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง

แอร์จะทำความเย็นได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า BTU ที่ย่อมาจาก "British Thermal Unit" คือ หน่วยมาตรฐานของการวัดค่าพลังงานความร้อน ในระบบปรับอากาศ ค่า BTU ที่บอกถึงความสามารถในการทำความเย็นของแอร์เครื่องนั้น ๆ 
ค่า BTU กับขนาดห้องที่เหมาะสมมีข้อแนะนำ ดังนี้ (กรณีเพดานห้องสูงไม่เกิน 3 เมตร)

แอร์ขนาด 7,000 – 9,000 BTU เหมาะกับขนาดห้อง 13 – 14 ตร.ม.
แอร์ขนาด 9,000 – 12,000 BTU เหมาะกับขนาดห้อง 16 – 17 ตร.ม.
แอร์ขนาด 11,000 – 13,000 BTU เหมาะกับขนาดห้อง 20 ตร.ม.
แอร์ขนาด 13,000 – 16,000 BTU เหมาะกับขนาดห้อง 23 – 24 ตร.ม.
แอร์ขนาด 18,000 – 20,000 BTU เหมาะกับขนาดห้อง 30 ตร.ม.
แอร์ขนาด 24,000 BTU เหมาะกับขนาดห้อง 40 ตร.ม.

3. แอร์ไม่เย็น เพราะตั้งค่ารีโมทไม่ถูกต้อง

ปกติแล้วเรามักจะคุ้นชินกับการใช้รีโมทแอร์สำหรับเปิด – ปิดเครื่องเท่านั้น แต่จริง ๆ รีโมทแอร์สามารถใช้ตั้งค่าการทำงานของแอร์ได้หลายอย่างเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และบางครั้งแอร์ที่ไม่เย็นก็เกิดจากการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้องได้ โดยรีโมทแอร์จะมีโหมดการใช้งานสำหรับตั้งค่าที่ใช้อย่างถูกต้องนอกจากจะช่วยให้แอร์กลับมาเย็นแล้ว ยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย

โหมดพัดลม (fan) เครื่องปรับอากาศเฉพาะพัดลม ลมที่ออกมาเป็นลมอุณหภูมิห้อง ไม่ทำความเย็น แอร์ที่ไม่เย็นอาจมาจากการใช้โหมดนี้ ควรเปลี่ยนเป็นโหมดอื่น โหมดนี้เหมาะกับใช้งานในช่วงหน้าหนาว ช่วยให้อากาศไหลเวียนในห้องเท่านั้น

โหลดเย็น (cool) แอร์จะทำความเย็นให้เท่ากับห้องมีอุณหภูมิเท่ากับรีโมทแอร์ สามารถปรับความแรงพัดลมได้อีกด้วย 

โหมดออโต (auto) จะช่วยให้แอร์เปิดพัดลมแรงในช่วงแรกเพื่อทำความเย็นอย่างรวดเร็วและเบาลงอัตโนมัติ

โหมดนอนหลับ (sleep) ทำให้แอร์ปรับอุณหภูมิขึ้น 1 องศาฯ ในทุก 1 – 2 ชั่วโมง เพราะตอนกลางคืนอุณหภูมิภายนอกจะเย็นลงเรื่อย ๆ ช่วยให้ความเย็นคงที่ขณะที่ใช้ไฟน้อยลง

โหมดแห้ง (dry) สำหรับใช้ช่วงที่เกิดฝนตกจะช่วยลดความชื้นในอากาศโดยแอร์จะทำงานไม่หนัก ทำให้รู้สึกสบายตัวและใช้ไฟน้อยมาก ทั้งนี้ การใช้รีโมทเพื่อปรับโหมดช่วยประหยัดไฟขึ้นอยู่กับรุ่นของแอร์ด้วย เหมาะกับใช้งานในช่วงหน้าฝน

4. แอร์ไม่เย็น เพราะชำรุดเสียหาย

แอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แม้จะชำรุดเสียหายบางส่วนแต่ก็ยังคงสามารถเปิดใช้งานได้ แอร์ไม่เย็นจึงมีสาเหตุหนึ่งมาจากความชำรุดบางส่วน มีอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง มาดูกัน

คอมเพรสเตอร์ขัดข้อง คือหัวใจของระบบปรับอากาศ ทำหน้าที่หลักในการอัดน้ำยาแอร์ส่งไปตามท่อทำให้เกิดความเย็น ควรมีการตรวจเช็กหรือล้างส่วนคอนเพรสเซอร์แอร์นี้ทุก 4 – 6 เดือน

น้ำยาแอร์รั่ว โดยปกติแล้วน้ำยาแอร์จะทำงานด้วยการระบบไหลเวียนอยู่ภายในเป็นระบบปิด ทำให้น้ำยาแอร์ไม่หมดลงง่าย ๆ ยกเว้นจากตัวแอร์จะมีการรั่วเกิดขึ้น ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุการใช้งานที่ยาวนาน การติดตั้งแอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเกิดความเสียหายบริเวณท่อเติมน้ำยา สังเกตได้จากลมแอร์ไม่มีความเย็น มีน้ำแข็งเกาะที่ท่อน้ำเย็น และค่าไฟเพิ่มขึ้น

5 แอร์ไม่เย็น เพราะทั้งคนและห้อง

ปัญหาแอร์ในบางครั้งอาจไม่ได้มาจากตัวเครื่องปรับอากาศเอง แต่มาจากสภาพแวดล้อมอันได้แก่ คนที่อยู่ในห้อง และห้องที่ใช้งานที่มีปัญหาได้

คนในห้องมีจำนวนมากเกินไป แอร์ที่ใช้ได้ดีในเวลาปกติ แต่เมื่อมีคนอยู่ในห้องเพิ่มขึ้นกลับเกิดปัญหาแอร์ไม่เย็น การที่คนในห้องมีจำนวนมากเกินไปอาจเป็นปัญหาที่หลายคนมองข้าม เพราะอุณหภูมิในร่างกายมนุษย์สูงกว่าอุณหภูมิห้อง ทำให้อุณหภูมิของห้องสูงขึ้นด้วย จึงควรปรับอุณภูมิแอร์ให้เย็นกว่าปกติ หรือใช้เวลานานขึ้น เพื่อให้อุณหภูมิของทั้งห้องค่อย ๆ ลดลง

ห้องมีประตูหรือหน้าต่างที่ปิดไม่สนิท แอร์มีกำลังการทำความเย็นที่เป็น BTU ที่จะเหมาะกับขนาดห้องที่จำกัด ห้องที่ประตูหรือหน้าต่างปิดไม่สนิทจะทำให้ความร้อนรั่วเข้ามาให้ห้องได้ และทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น  ยิ่งช่วงหน้าร้อนที่อากาศข้องนอกมีความร้อนสูง แอร์จะยิ่งทำความเย็นได้ไม่ทัน และทำให้เกิดอาการแอร์ไม่เย็นสักที แม้จะเปิดใช้งานนานแล้ว สามารถแก้ไขได้ด้วยการปิดประตูลงล๊อกให้สนิทยิ่งขึ้น ไม่ให้ประตูหน้าต่างเกิดการแง้มออก นอกจากนี้ ยังสามารถติดขอบประตู หน้าต่าง ติดฟิลม์กระจกรวมถึงผ้าม่านลดความร้อน หรือติดไม้ระแนงเป็นแนวกั้น ก็ช่วยลดความร้อนที่เข้ามาโดนกำแพงห้องได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาแอร์ไม่เย็น (FAQ)

1. ทำไมแอร์ไม่เย็นทั้งๆ ที่เพิ่งล้างเมื่อไม่นานมานี้?
คำตอบ แม้จะเพิ่งล้างแอร์ แต่อาจมีสาเหตุอื่น เช่น น้ำยาแอร์รั่วหรือขาด, คอมเพรสเซอร์มีปัญหา, เกิดการอุดตันในระบบ, หรือการล้างอาจไม่สมบูรณ์ ควรตรวจสอบว่ามีน้ำแข็งเกาะที่คอยล์เย็นหรือไม่ และสังเกตเสียงการทำงานของคอมเพรสเซอร์

2. แอร์ไม่เย็นไม่เย็นในบางจุดของห้อง ควรทำอย่างไร?
คำตอบ ตรวจสอบตำแหน่งการติดตั้งแอร์ว่าเหมาะสมหรือไม่ ปรับทิศทางของบานเกล็ดให้กระจายลมอย่างทั่วถึง ติดตั้งพัดลมเพิ่มเพื่อช่วยกระจายความเย็น เช็คว่า BTU เหมาะสมกับขนาดห้องหรือไม่ และลดแหล่งความร้อนภายในห้อง เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

3. ควรตั้งอุณหภูมิแอร์ที่เท่าไหร่จึงจะประหยัดไฟที่สุด?
คำตอบ อุณหภูมิที่ประหยัดไฟที่สุดคือประมาณ 25-26 องศาเซลเซียส ซึ่งให้ความเย็นสบายและประหยัดพลังงานได้ถึง 5-10% เมื่อเทียบกับการตั้งที่ 23 องศาฯ หรือต่ำกว่า การตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไปจะทำให้แอร์ทำงานหนักและสิ้นเปลืองไฟโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าตั้งอุณหภูมิที่สูงกว่านี้ก็อาจจะทำให้แอร์ไม่เย็นและเป็นการกินไฟไปเปล่าๆเพราะไม่ได้เกิดประโยชน์

4. ช่วงไหนเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการล้างแอร์เพื่อป้องกันปัญหาแอร์ไม่เย็น?
คำตอบ ควรล้างแอร์ก่อนเข้าสู่ฤดูร้อน (ประมาณกุมภาพันธ์-มีนาคม) เพื่อให้แอร์พร้อมทำงานหนักในช่วงที่อากาศร้อนที่สุดและป้องกันปัญหาแอร์ไม่เย็นในช่วงที่ต้องการความเย็นมากที่สุด และควรล้างอีกครั้งหลังช่วงการใช้งานหนัก (ประมาณตุลาคม-พฤศจิกายน) เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่สะสมระหว่างการใช้งานหนักซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้แอร์ไม่เย็นในรอบการใช้งานถัดไป

5. ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นมากผิดปกติ แม้ว่าการใช้งานแอร์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง สาเหตุอาจเป็นอะไร?
คำตอบ แอร์อาจมีประสิทธิภาพลดลงจนทำให้เกิดปัญหาแอร์ไม่เย็นหรือเย็นน้อยลง ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาระดับความเย็น สาเหตุอาจเกิดจากน้ำยาแอร์พร่อง ไส้กรองสกปรกมาก คอยล์เย็นหรือคอยล์ร้อนสกปรก หรือคอมเพรสเซอร์มีปัญหา เมื่อแอร์ไม่เย็นแต่ยังคงทำงานต่อเนื่อง จะยิ่งใช้พลังงานมากขึ้น ควรล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ และตรวจสอบระบบโดยช่างผู้ชำนาญ

อ้างอิง

  • การไฟฟ้านครหลวง
  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  • กระทรวงพลังงาน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

แอร์เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟแอร์ไม่เย็นหน้าร้อนอากาศร้อน
อธิเจต มงคลโสฬศ
ผู้เขียน: อธิเจต มงคลโสฬศ

เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล ไทยพีบีเอส สนใจเนื้อหาด้านสุขภาพจิต สาธารณสุข และความยั่งยืน รวมถึงประเด็นทันกระแสที่มีแง่มุมน่าสนใจซ่อนอยู่

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด