ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รู้จักประเพณีบุญบั้งไฟ วิถีแห่งการขอฝนจากฟ้า ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน


Lifestyle

Thai PBS Digital Media

แชร์

รู้จักประเพณีบุญบั้งไฟ วิถีแห่งการขอฝนจากฟ้า ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2747

รู้จักประเพณีบุญบั้งไฟ วิถีแห่งการขอฝนจากฟ้า ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน

 

หนึ่งในประเพณีที่อยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนาน นั่นคือ ประเพณีบุญบั้งไฟ งานประเพณีใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนหก ต่อเนื่องเดือนเจ็ด (เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน) เป็นประจำทุก ๆ ปี  Thai PBS นำเรื่องราวความเป็นมา ตลอดจนเกร็ดน่ารู้ของบั้งไฟอีกมากมาย มาบอกกัน

“บุญบั้งไฟ” ตำนานเก่าแก่ที่ถูกเล่าขานมายาวนาน

ประเพณีบุญบั้งไฟ มีที่มาจากตำนานเล่าขาน เรื่องราวเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าถือชาติกำเนิดเป็นพญาคางคก ต้องไปปราบพญาแถนเทพ หรือเทพเจ้าแห่งฝน ที่โกรธเคืองโลกมนุษย์ จึงแกล้งไม่ให้ฝนตกนาน 7 เดือน จนมนุษย์เกิดความเดือดร้อน กระทั่งพญาคางคกสามารถปราบพญาแถนเทพลงได้ และได้ทำสัญญาสงบศึก โดยมีข้อตกลงว่า

  1. ถ้ามวลมนุษย์จุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อใด ให้พญาแถนเทพสั่งให้ฝนตกในโลกมนุษย์
  2. ถ้าได้ยินเสียงกบ เขียดร้อง ให้รับรู้ว่าฝนได้ตกลงมาแล้ว
  3. ถ้าได้ยินเสียงสนู (เสียงธนูหวายของว่าว) หรือเสียงโหวด (เป็นเครื่องดนตรีไทยภาคอีสาน มีรูปร่างเป็นทรงกระบอกคล้ายกับบั้งไฟ) ต้องให้ฝนหยุดตก เพราะจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าว 

หลังจากที่ได้สัญญากันแล้ว พญาแถนเทพจึงได้ถูกปล่อยตัวไป และได้ปฏิบัติตามสัญญามาจนบัดนี้

“บุญบั้งไฟ” ประเพณีความเชื่อที่ถูกสืบสานยาวนาน

ประเพณีบุญบั้งไฟ จากตำนานเรื่องเล่า สู่ประเพณีที่ผู้คนในแต่ละถิ่นฐาน ปฏิบัติสืบต่อกันมายาวนาน โดยบุญบั้งไฟ นิยมทำกันในเดือนหก (เดือนพฤษภาคม) หรือเดือนเจ็ด (เดือนมิถุนายน) อันเป็นช่วงฤดูฝน ที่เข้าสู่การทำนา ตกกล้า หว่าน ไถ เพื่อเป็นการบูชาพญาแถน ขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล 

นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวอีสานมีความเชื่อว่า ถ้าปีใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดความแห้งแล้ง ไม่มีน้ำทำนา แต่ถ้าปีใดจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ฟ้าฝนก็จะตกต้องตามฤดูกาล เกิดความอุดมสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัย

ปัจจุบัน มีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟในหลากหลายพื้นที่ แต่งานบุญบั้งไฟที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ในระดับประเทศมีอยู่ด้วยกัน 4 แห่ง คือ ประเพณีบุญบั้งไฟยโสธร ,ประเพณีบุญบั้งไฟ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด, ประเพณีบุญบั้งไฟ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด และประเพณีบุญบั้งไฟตะไลล้านกุดหว้า จังหวัดกาฬสินธุ์ 

นอกจากนี้ หลายจังหวัดในแถบภาคอีสาน ยังมีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเช่นกัน อาทิ ที่หนองคาย สกลนคร มหาสารคาม ศรีสะเกษ อุดรธานี หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อำนาจเจริญ

“บุญบั้งไฟ” ไม่ได้มีเฉพาะท้องถิ่นอีสาน

นอกจากภาคอีสานของประเทศไทย ในหลาย ๆ พื้นที่ของประเทศ ยังมีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟเช่นเดียวกัน อาทิ การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ในตำบลพุเตย อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากประชากรในเขตพื้นที่ส่วนใหญ่ อพยพมาจากเขตภาคอีสาน จึงสืบสานประเพณีนี้เข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว  

ที่ภาคใต้ สามารถพบเห็นการจัดงานบุญบั้งไฟ ในเขตอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส โดยเป็นการละเล่นของชาวอีสานที่ย้ายถิ่นฐานมาปักหลักที่นี่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 โดยถือเป็นเพียงพื้นที่เดียวในภาคใต้ที่มีการจัดงานประเพณีนี้

ยังมีงานประเพณีบุญบั้งไฟในภาคกลาง ในพื้นที่อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ และอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว ร้อยละ 85 เป็นชาวอีสานที่ย้ายถิ่นฐานมาประกอบอาชีพเกษตรกรรม และได้นำวัฒนธรรมประเพณีบุญบั้งไฟมาจัดขึ้นในที่แห่งนี้  

ในพื้นที่ภาคเหนือ มีการละเล่นประเพณีบุญบั้งไฟเช่นเดียวกัน โดยเป็นหนึ่งในประเพณีของล้านนา อาทิ ที่จังหวัดน่าน มีงานประเพณีบุญบั้งไฟบ้านผาสิงห์ ตำบลผาสิงห์ อ.เมืองน่าน รวมทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ มีงานประเพณีบุญบั้งไฟวัดพระนอนขอนม่วง ห้วยตึงเฒ่า ทั้งนี้ทั้งนั้น งานประเพณีบุญบั้งไฟในภาคเหนือ มีความเชื่อคล้ายกับภาคอีสาน คือ เป็นการถวายเป็นพุทธบูชาและการขอฝน

นอกจากประเทศไทย พื้นที่ของประเทศลาว มีการจัดประเพณีบุญบั้งไฟเช่นเดียวกัน โดยมักจัดขึ้นในช่วงเดือนหกของลาว  ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวลาวได้ยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน โดยเป็นเครื่องหมายของความสามัคคีและมิตรภาพ ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอฝนและต่อสู้กับความแห้งแล้ง

งานประเพณีบุญบั้งไฟไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมทางวัฒนธรรมธรรมดา แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนต่างๆทั้งภายในอิสานและจังหวัดภาคอื่นๆในหลายมิติ

การค้าขายและบริการ ในช่วงการจัดงาน ชุมชนมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีร้านค้าและแผงลอยเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งจากในและนอกชุมชน เพื่อขายอาหารพื้นบ้าน เช่น แจ่วบอง ลาบ ก้อย รวมทั้งของกินเล่นต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผ้าทอมือ เครื่องจักสาน หรือของที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น เสื้อยืดลายบั้งไฟ

บริการที่พักและสาธารณูปโภค โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาค้างคืน ชาวบ้านมักจะเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ หรือให้เช่าพื้นที่จอดรถ ห้องน้ำ และบริการพาหนะ ซึ่งเป็นรายได้เสริมที่สำคัญสำหรับครัวเรือน

อุตสาหกรรมบั้งไฟและแรงงานชั่วคราว งานนี้ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ทั้งในการสร้างบั้งไฟ ทำเวที ขนของ ปิดถนน และทำความสะอาด ชาวบ้านจำนวนมากมีรายได้จากการรับจ้างในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังมี "ช่างทำบั้งไฟ" ที่รับจ้างผลิตบั้งไฟให้แต่ละหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและสร้างรายได้ที่ดีในช่วงก่อนวันงาน

บทบาทขององค์กรต่าง ๆ
ภาครัฐ มีหน้าที่หลักในการสนับสนุนและควบคุมความปลอดภัย โดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเทศบาลทำหน้าที่หลักในการจัดงาน ตั้งแต่การจัดสรรงบประมาณ จัดระเบียบพื้นที่ ดูแลความปลอดภัย และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ขณะที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และแพทย์ รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยและการจัดการอุบัติเหตุในงาน

ภาคเอกชน เข้าร่วมในรูปแบบของผู้สนับสนุน เช่น การสปอนเซอร์เวที การประกวด หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในงาน

องค์กรชุมชนและวัด เป็นแกนหลักในการเตรียมการ ตั้งแต่การจัดทำบุญ จัดขบวนแห่ และประสานกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน 

การจัดงานบุญบั้งไฟเป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในชุมชน โดยแต่ละครัวเรือนจะมีบทบาทที่ชัดเจน เช่น การช่วยทำอาหารต้อนรับแขก การเตรียมที่พัก หรือการรับจ้างในงาน กลุ่มเยาวชนทำหน้าที่ช่วยเหลืองานเบื้องหลัง เช่น การจัดขบวน การแต่งชุดแห่ และการช่วยควบคุมความเรียบร้อย

กลุ่มปราชญ์และช่างทำบั้งไฟรับหน้าที่หลักในการสร้างบั้งไฟและกำกับพิธีกรรมตามความเชื่อ กลุ่มแม่บ้านเตรียมอาหาร ทำของฝาก และดูแลกิจกรรมด้านวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการหมู่บ้านที่ประชุมแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน ตั้งแต่ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายดูแลความปลอดภัย และอื่น ๆ

“บุญบั้งไฟ” และการจำแนกของบั้งไฟ

หากนิยามคุณลักษณะของบั้งไฟ คือ ดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง มีหางยาวทำด้วยกระบอกไม้ไผ่ หรือกระบอกเหล็ก บรรจุดินปืน มีขนาดต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ทำ ซึ่งลักษณะของบั้งไฟ ยังแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือ 

  1. เลาบั้งไฟ คือ ส่วนประกอบที่ทำหน้าที่บรรจุดินปืน
  2. หางบั้งไฟ คือ ส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่คล้ายหางเสือของเรือ คอยสร้างความสมดุลให้กับบั้งไฟ คอยบังคับทิศทาง
  3. ลูกบั้งไฟ คือ ลำไม้ไผ่ที่นำมาประกอบเลาบั้งไฟ โดยบั้งไฟลำหนึ่ง มักจะประกอบด้วยลูกบั้งไฟประมาณ 8-15 ลูก ขึ้นอยู่กับขนาดของบั้งไฟ

นอกจากนี้ บั้งไฟยังแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่มีหาง กับประเภทที่ไม่มีหาง สำหรับประเภทที่มีหาง แบ่งได้เป็น 4 แบบ คือ

  1. บั้งไฟน้อย เป็นบั้งไฟที่มีขนาดเล็ก ถูกนำมาใช้เพื่อเสี่ยงทายว่า ฝนจะตกต้องตามฤดูกาลหรือไม่ ถ้าหากว่าบั้งไฟถูกยิงขึ้นไปสูงสุด หมายถึงฝนจะดี
  2. บั้งไฟร้อย เป็นบั้งไฟที่บรรจุดินปืนน้อยกว่า 12 กิโลกรัม ถูกสร้างขึ้นเพื่อการแข่งขันเป็นหลัก 
  3. บั้งไฟหมื่น เป็นบั้งไฟที่บรรจุดินปืนระหว่าง 12 – 119 กิโลกรัม 
  4. บั้งไฟแสน เป็นบั้งไฟที่มีขนาดใหญ่ บรรจุดินปืน 120 กิโลกรัม และเป็นบั้งไฟที่ทำยากที่สุด ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ เพราะหากเกิดแตก จะเป็นอันตราย ตามความเชื่อแต่โบราณ ก่อนทำบั้งไฟชนิดนี้ ต้องมีพิธีกรรมบวงสรวงให้ถูกต้องตามหลักการทำบั้งไฟแสน จึงจะลงมือทำได้ เมื่อทำบั้งไฟเสร็จเรียบร้อย มักจะมีการตกแต่งประดับประดาบั้งไฟชนิดนี้ให้มีความสวยงาม

ในส่วนของบั้งไฟประเภทที่ไม่มีหาง มีอยู่หลากหลายประเภทเช่นเดียวกัน อาทิ

  • บั้งไฟพุ เป็นบั้งไฟที่นิยมจุดในเทศกาลต่าง ๆ เช่น งานกฐิน งานบุญมหาชาติ งานเปิดกีฬา เป็นบั้งไฟที่จุดแล้วทำให้เกิดเสียงดัง ในอดีตนิยมจุดในงานกฐิน เพื่อเป็นการบอกข่าวไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไปให้ทราบ
  • บั้งไฟม้า บั้งไฟชนิดนี้เป็นบั้งไฟขนาดเล็ก สามารถจุดไปตามทิศทางที่กำหนด โดยใช้เส้นลวดเป็นวิถีตรึงไปยังเป้าหมายที่ต้องการ ทางภาคกลางและภาคอีสานเรียกว่า “ลูกหนู” 
  • บั้งไฟตะไล บั้งไฟที่มีความยาวประมาณ 9-12 นิ้ว รูปร่างกลม มีไม้บาง ๆ แบน ๆ เป็นวงกลมครอบหัวท้ายบั้งไฟ เมื่อพุ่งขึ้นสู่ฟ้า วิถีของบั้งไฟจะพุ่งไปโดยทางขวาง

“บุญบั้งไฟ” กับการแข่งขันบั้งไฟ 

นอกจากถูกสร้างขึ้นตามความเชื่อแต่โบราณ ประเพณีบุญบั้งไฟยังพัฒนามาเป็นการแข่งขันบั้งไฟ ซึ่งเป็นวิถีอันเป็นที่นิยมอย่างมากในหลายพื้นถิ่น โดยเฉพาะในแถบจังหวัดภาคอีสานของประเทศไทย ลักษณะการแข่งขันบั้งไฟในแต่ละพื้นที่ อาจมีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่โดยรวมของการแข่งขันบั้งไฟ มักเป็นไปดังนี้

  • การแข่งขันบั้งไฟ กติกาหลักคือ แข่งกันที่ความสูง และการขึ้นได้นาน โดยนับเวลาเป็นวินาที-นาที หากบั้งไฟอันไหนขึ้นได้สูงและนานกว่า จะได้รับชัยชนะ
  • บั้งไฟที่ถูกจุดออกไป ส่วนหัวและหางต้องคงสภาพอยู่ติดกัน หากแยกออกจากกัน หรือมีการระเบิดหรือแตก ให้ถือเป็นการแพ้ฟาวล์
  • บั้งไฟที่ใช้แข่งขัน ส่วนใหญ่จะใช้บั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน หรือบั้งไฟล้าน 
  • ไม่นิยมแข่งขันข้ามรุ่น บั้งไฟหมื่นต้องแข่งกับบั้งไฟหมื่น หรือบั้งไฟแสนต้องแข่งขันกับบั้งไฟแสนเท่านั้น
  • ก่อนทำการแข่งขัน มักมีกรรมการคอยทำหน้าที่ตรวจสอบขนาดของบั้งไฟแต่ละชนิดว่าถูกต้องตามกติกาหรือไม่

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบั้งไฟ

บั้งไฟจัดเป็นวัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิงตามกฎหมาย จึงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายหลายฉบับ

พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 เป็นกฎหมายหลักที่ควบคุมการทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้าวัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง ซึ่งรวมถึงบั้งไฟ โดยกำหนดให้ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่

พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 กำหนดให้พลุ ดอกไม้ไฟ หรือดอกไม้เพลิง เป็นวัตถุอันตราย ตามคำจำกัดความที่ครอบคลุมวัตถุไวไฟและวัตถุระเบิด ทำให้การผลิต การค้า และการครอบครองต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล

กฎหมายโรงงาน สำหรับสถานประกอบการที่ผลิตบั้งไฟในเชิงพาณิชย์ ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีสถานประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องเพียง 4 แห่งเท่านั้นทั่วประเทศ

ขั้นตอนการขออนุญาตจัดงานบุญบั้งไฟ
การจัดงานบุญบั้งไฟที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตหลายระดับ ดังนี้

ตามประกาศจังหวัดสงขลา เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยบั้งไฟ พ.ศ. 2549 การจัดงานบุญบั้งไฟต้องขออนุญาตและปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ดังนี้

1. การขออนุญาตจากนายอำเภอในการจัดงานบุญบั้งไฟ
ผู้ประสงค์จะจุดและปล่อยบั้งไฟต้องยื่นคำร้องขออนุญาตต่อนายอำเภอในท้องที่ โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียม ประกอบด้วย

  • คำร้องขออนุญาต ระบุวัตถุประสงค์ วัน เวลา สถานที่ และรายละเอียดการจุดบั้งไฟ
  • ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ขออนุญาต
  • ชื่อ อายุ ผู้รับใบอนุญาต และผู้ที่จะเป็นผู้ดำเนินการจุดบั้งไฟ
  • เลขประจำตัวประชาชน
  • ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ หมู่ที่ ตำบล อำเนา จังหวัด
  • ชนิดบั้งไฟ (บั้งไฟน้อย บั้งไฟร้อย บั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน หรือบั้งไฟล้าน)
  • จำนวนลูกบั้งไฟ และปริมาณดินปืนที่ใช้
  • สถานที่/พื้นที่ ที่จะใช้ในการจุดบั้งไฟ

2. เงื่อนไขสำคัญในการขออนุญาตงานบุญบั้งไฟ

2.1 ข้อจำกัดด้านสถานที่

  • ห้ามจุดในเขตเทศบาล หรือสถานที่ที่มีประชาชนหนาแน่น
  • ระยะห่างจากอาคาร ต้องห่างจากอาคารบ้านเรือน ไม่น้อยกว่า 700 เมตร
  • ระยะห่างจากสายไฟฟ้า ต้องห่างจากเสาไฟฟ้าแรงสูง ไม่น้อยกว่า 600 เมตร

2.2 ข้อจำกัดด้านเวลา

  • เวลาการจุด จุดได้ในเวลากลางวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. เท่านั้น
  • ห้ามจุดในเวลากลางคืน เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานและผู้ชม

2.3 ผู้รับผิดชอบและมาตรการความปลอดภัย

  • ต้องมีผู้ควบคุมการจุดบั้งไฟ ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ
  • เตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำงาน
  • จัดเจ้าหน้าที่คุมพื้นที่ ไม่ให้บุคคลเข้าใกล้บริเวณอันตราย
  • ทำการประกันภัย สำหรับผู้เข้าร่วมงานและประชาชนทั่วไป

3. ข้อห้ามและบทลงโทษ

3.1 การกระทำที่ผิดกฎหมาย

  • ห้ามจุดโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนายอำเภอ
  • ห้ามใช้ดินปืนเกินปริมาณที่กำหนด
  • ห้ามจุดในเขตหวงห้าม หรือพื้นที่เสี่ยงภัย
  • ห้ามผู้ไม่มีประสบการณ์จุดบั้งไฟ

3.2 บทลงโทษ
ผู้ฝ่าฝืนจะต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

4. ระยะเวลาดำเนินการสำหรับงานบุญบั้งไฟ
การขออนุญาตควรยื่นล่วงหน้าอย่างน้อย 15-30 วัน ก่อนวันจัดงาน เพื่อให้นายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเวลาพิจารณาและเตรียมการอย่างเพียงพอ

มาตรการความปลอดภัยในงานบุญบั้งไฟ
1.การควบคุมการผลิตบั้งไฟ

  • ใช้ช่างที่มีประสบการณ์ และขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้นในการผลิตบั้งไฟ
  • ตรวจสอบปริมาณดินปืนและโครงสร้าง โดยคณะกรรมการท้องถิ่นก่อนการจุด
  • กำหนดสถานที่ผลิตที่ปลอดภัย ห่างไกลจากชุมชนและแหล่งไวไฟ

2.การจุดบั้งไฟ

  • ใช้พื้นที่ห่างไกลชุมชน และกำหนดเขตอันตรายห้ามบุคคลภายนอกเข้าใกล้
  • มีเจ้าหน้าที่ประจำการ และอุปกรณ์ดับเพลิงพร้อมใช้งานตลอดเวลา
  • ระบบนับถอยหลังก่อนจุด และประชาสัมพันธ์เตือนอย่างชัดเจน
  • กำหนดทิศทางลม เพื่อป้องกันเศษวัตถุตกใส่ผู้ชม

3.การจัดพื้นที่ผู้ชม

  • กั้นรั้วหรือพื้นที่ปลอดภัย ให้ผู้ชมอยู่ห่างจากแนววิถีบั้งไฟ
  • จัดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน และทางหนีไฟในกรณีฉุกเฉิน
  • ป้ายแจ้งเตือนและคำแนะนำ ความปลอดภัยภาษาท้องถิ่นและภาษาไทย

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยในงานบุญบั้งไฟ

  • บั้งไฟระเบิดกลางอากาศหรือบนฐาน จากการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • บาดเจ็บจากเศษวัสดุ หรือบั้งไฟตกใส่ผู้ชมและผู้ปฏิบัติงาน
  • ไฟไหม้บริเวณโดยรอบฐานจุด จากประกายไฟกระเด็น
  • เสียงดังเกินมาตรฐาน จนกระทบสุขภาพผู้สูงอายุและเด็กเล็ก

แนวทางป้องกันและแก้ไขภายในงานบุญบั้งไฟ

  • จัดทำแผนป้องกันและแผนฉุกเฉิน ที่ชัดเจนและปฏิบัติได้จริง
  • จัดหน่วยเวรยามและกู้ชีพ พร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้น
  • ฝึกซ้อมเหตุการณ์จำลอง ก่อนวันงานจริง
  • เตรียมอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาลประจำงาน
  • กำหนดผู้รับผิดชอบในแต่ละจุด และช่องทางการสื่อสารที่ชัดเจน

บทลงโทษและความรับผิดชอบ
หากการจัดงานไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้จัดงานอาจต้องรับโทษทางอาญา เช่น ปรับหรือจำคุก โดยเฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือจุดโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีความรับผิดชอบทางแพ่งในการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

 

“บุญบั้งไฟ” กับคำศัพท์น่ารู้

  • การเอ้บั้งไฟ หมายถึง การตกแต่ง ประดับประดาบั้งไฟให้สวยาม โดยคำว่า เอ้ ในภาษาลาวหรือ ภาษถิ่นอีสาน แปลว่า ตกแต่ง หรือประดับ
  • นางเอ้ หมายถึง นางรำ ช่างฟ้อน ที่เป็นส่วนหนึ่งในขบวนแห่บั้งไฟ
  • เครื่องล่าง คือ ส่วนประกอบอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากตัวบั้งไฟ ส่วนใหญ่จะอยู่ในเกวียนที่ใช้แห่บั้งไฟ หรือปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้รถยนต์แห่บั้งไฟแทน
  • เซิ้งบั้งไฟ คือ การขับร้องเป็นกาพย์ เป็นกลอน ประกอบกับเครื่องดนตรี ร้องเป็นหมู่คณะ ขณะที่กำลังแห่บั้งไฟ เพื่อความสนุกสนาน
  • ผาม คือ การปลูกกระท่อมเล็ก ๆ ขึ้นตามลานวัด เพื่อเป็นที่รับแขกที่จะมาประชุมกันในงานบุญบั้งไฟ
  • วันโฮม คือ วันประชุมเล่นรื่นเริง คณะต่าง ๆ จะนำบั้งไฟของตนไปปักไว้ที่ศาลาการเปรียญ มีการร้องรำทำเพลง การร่ายรำ เพื่อความรื่นเริง ก่อนจะถึงวันจุดบั้งไฟ

ประเพณีบุญบั้งไฟ ถือเป็นกิจกรรมที่สะท้อนความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ หากแต่ยังเป็นวัฒนธรรมที่แฝงไว้ด้วยการรักษ์ถิ่นฐาน ความสมัครสามัคคี ตลอดจนความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ จึงทำให้ประเพณีบุญบั้งไฟ ได้รับการสานต่อ และยังคงเป็นหนึ่งในประเพณีอันงดงาม ที่มีความสำคัญต่อผู้คนในสังคมไทยต่อไป

สนใจประเพณีบุญบั้งไฟสามารถเข้าไปเช็คดูได้จาก ปฏิทินกิจกรรม ของทาง ททท

อ้างอิง

  • รู้จักบุญบั้งไฟ / ThaiHealth Official
  • บุญบั้งไฟทั่วไทย / โครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • วันสุกดิบ วันโฮม และวันจุดบั้งไฟ / เว็บไซต์อีสานร้อยแปด
  • พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490
  • พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
  • ประกาศจังหวัดสงขลา เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยบั้งไฟ พ.ศ. 2549
  • คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2559 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2559
     

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ประเพณีบุญบั้งไฟบุญบั้งไฟบั้งไฟบั้งไฟแสน

ผู้เขียน: Thai PBS Digital Media

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด