กางเต็นท์หน้าฝน ข้อควรรู้และสิ่งที่ต้องเตรียม

“หน้าฝน ≠ กางเต็นท์” ใครที่คิดอย่างนั้น บอกเลยว่า คุณอาจจะคิดไม่ถูกต้องนัก เพราะการท่องเที่ยวในหน้าฝน รวมถึงกิจกรรมกางเต็นท์หน้าฝน กลายเป็นที่นิยมต่อสายท่องเที่ยวไม่น้อย 

แต่การกางเต็นท์หน้าฝนก็มีปัจจัยเงื่อนไขที่แตกต่างจากการนำเต็นท์ไปกางช่วงฤดูร้อน หรือฤดูอื่น ๆ ว่าแต่เรื่องใดที่สายกางเต็นท์หน้าฝน ควรจะต้องรู้บ้าง ไปติดตามกัน

กางเต็นท์หน้าฝน…เหตุผลที่ท่องเที่ยวช่วงหน้าฝน สนุกไม่แพ้ฤดูอื่น

แม้ฤดูฝน หน้าฝน จะมีภาพจำที่ความเฉอะแฉะของสายฝน แต่การท่องเที่ยวหน้าฝน ก็มอบความสดชื่น โดยเฉพาะช่วงหลังฝนตกที่จะอากาศมีความสดชื่นเป็นพิเศษ แถมยังได้กลิ่นของใบไม้ ดิน สายน้ำ ช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นมากขึ้นอีก นอกจากนี้อากาศที่เย็นสบาย ยังทำให้เย็นใจ มากกว่าช่วงหน้าร้อน ที่เนื้อตัวมักจะเหนียวเหนอะหนะไปด้วยเหงื่อ 

อีกหนึ่งเหตุผลที่ช่วยตอกย้ำว่า ท่องเที่ยวช่วงหน้าฝน และการกางเต็นท์หน้าฝนมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูอื่น นั่นคือ ฤดูฝนเป็นช่วงที่พืชพรรณต่างพร้อมใจกันเบ่งบาน ด้วยสายฝน และความชุ่มชื้น ทำให้เหล่าพันธุ์พืชน้อยใหญ่ พร้อมใจกันผลิดอกออกผล ชูช่อช่วยสร้างบรรยากาศให้การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (Green Season) ในหน้าฝน และการกางเต็นท์หน้าฝนยิ่งรื่นรมย์มากขึ้น

กางเต็นท์หน้าฝน…อุปกรณ์กางเต็นท์ที่ขาดไม่ได้

สำหรับสายแคมป์ปิ้ง เรื่องอุปกรณ์กางเต็นท์ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องใส่ใจ โดยเฉพาะกางเต็นท์หน้าฝนที่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพอากาศ มีอุปกรณ์อะไรที่ต้องให้ความสำคัญบ้าง

เต็นท์และผ้าใบปูรองเต็นท์
เป็นอุปกรณ์หลักที่นักกางเต็นท์ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความแข็งแรงและความกันน้ำ ยิ่งเป็นกางเต็นท์หน้าฝนที่อาจจะตกลงมาอย่างหนักหรือมีลมแรง เรื่องความแข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกเต็นท์ที่มีค่า Waterproof rating สูง อย่างน้อย 1,500-3,000 mm และมีตะเข็บที่ผนึกกันน้ำอย่างดี ผ้าใบปูรองเต็นท์ (Ground Sheet) ช่วยป้องกันความชื้นจากดินและปกป้องพื้นเต็นท์จากหิน กิ่งไม้ที่อาจทำให้เกิดรอยรั่ว

ฟลายชีทและทาร์ป
ฟลายชีท (Fly Sheet) เป็นชั้นนอกของเต็นท์ที่ช่วยป้องกันน้ำฝนและลม ควรเลือกที่มีวัสดุกันน้ำดีและมีการระบายอากาศเพื่อป้องกันการควบแน่น ทาร์ป (Tarp) เป็นผ้าใบกันน้ำที่สามารถกางได้หลากหลายรูปแบบ มักจะเอาไว้กางหน้าเต็นท์เป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักนอกเต็นท์ หรือใช้เป็นที่กำบังเพิ่มเติม สามารถใช้เป็นพื้นที่ทำครัว รับประทานอาหาร หรือเก็บอุปกรณ์ในกรณีที่ฝนตกหนัก

ชุดสมอบก
มีไว้สำหรับยึดตัวเต็นท์ รวมถึงตัวทาร์ป กางเต็นท์หน้าฝนควรเลือกสมอบกที่แข็งแรงและยาวเพียงพอ เพราะดินที่เปียกจะทำให้การยึดไม่แน่น สมอบกแบบเกลียวหรือแบบ V-shaped จะเหมาะกับดินเปียกมากกว่าแบบธรรมดา นอกจากนี้ควรมีเชือกผูก (Guy Lines) ที่มีคุณภาพและสะท้อนแสงเพื่อความปลอดภัยในตอนกลางคืน

เครื่องนอนและถุงนอน
ถุงนอนที่เหมาะสำหรับกางเต็นท์หน้าฝนควรมีความสามารถในการกันความชื้นและรักษาความอุ่น แม้จะเปียก เลือกถุงนอนที่มีฉนวนสังเคราะห์มากกว่าขนเป็ด เพราะยังคงอุ่นแม้เปียก ที่รองนอน (Sleeping Pad) ก็สำคัญมาก เพราะช่วยกันความชื้นจากดินและเพิ่มความอุ่น ควรเลือกแบบที่มีค่า R-value สูงเพื่อกันความเย็นจากดิน

อุปกรณ์ไฟส่องสว่าง
ในกางเต็นท์หน้าฝนที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม การมีแสงสว่างเพียงพอจึงสำคัญมาก ควรเตรียมไฟฉายกันน้ำ ตะเกียง LED ที่ชาร์จได้ และไฟส่องศีรษะ (Headlamp) เพื่อใช้งานขณะที่ต้องใช้มือทั้งสองข้าง ควรเลือกที่มีแบตเตอรี่สำรองและมีโหมดสีแดงสำหรับการใช้งานในเต็นท์เพื่อไม่รบกวนผู้อื่น

เก้าอี้สนามและโต๊ะสนาม
เก้าอี้สนามที่เหมาะสำหรับหน้าฝนควรทำจากวัสดุที่แห้งเร็วและไม่ซับน้ำ เช่น โลหะกับผ้า polyester โต๊ะสนามควรมีพื้นผิวที่ไม่ซับน้ำและสามารถพับเก็บได้ง่าย มีไว้สำหรับวางสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ และใช้เป็นที่เตรียมอาหาร

อุปกรณ์เสริมสำหรับกางเต็นท์หน้าฝน

• เชือกและเข็มขัดรัด สำหรับผูกของและยึดอุปกรณ์ต่างๆ
• ถุงกันน้ำ (Dry Bags) สำหรับเก็บเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำคัญให้แห้ง
• ผ้าใบปูพื้น พิเศษสำหรับพื้นที่ทำครัวหรือนั่งเล่น
• ร่มขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นที่กำบังเพิ่มเติม
• พัดลมแบบพกพา ช่วยระบายอากาศในเต็นท์เมื่ออากาศชื้น
• ผงซักฟอกแห้งเร็ว สำหรับซักเสื้อผ้าที่เปียกฝน

การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมและมีคุณภาพจะช่วยให้การกางเต็นท์หน้าฝนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและปลอดภัย

กางเต็นท์หน้าฝน…ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัย

กิจกรรมกางเต็นท์ ถือเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นกลางแจ้ง ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะกางเต็นท์หน้าฝนที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน สิ่งที่พึงตระหนักเมื่อยามที่ต้องกางเต็นท์หน้าฝน คือ

เรื่องสภาพอากาศ
การติดตามสภาพอากาศเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอทั้งก่อนและระหว่างการตั้งแคมป์ หากมีการพยากรณ์ว่าสถานที่ดังกล่าวมีโอกาสที่ฝนจะตกหนัก มีพายุ หรือลมกรรโชกแรง ควรเตรียมตัวให้พร้อมและเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ในกรณีที่มีการเตือนภัยพิเศษ เช่น พายุหรือฝนตกหนักมาก ควรพิจารณาเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง นอกจากนี้ควรมีแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศที่เชื่อถือได้ติดไว้ในมือถือ และตรวจสอบทุก 3-4 ชั่วโมง เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ตำแหน่งการกางเต็นท์
การเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรให้ความสำคัญกับจุดที่กางเต็นท์ดังนี้

• หลีกเลี่ยงทางน้ำไหล ไม่ควรกางเต็นท์ขวางทางน้ำไหล รวมถึงบริเวณที่เป็นร่องน้ำ แม้จะแห้งในขณะนั้น เพราะเมื่อฝนตกหนักอาจมีน้ำท่วมฉับพลัน ควรเลือกพื้นที่ที่สูงกว่าบริเวณโดยรอบเล็กน้อย และมีการระบายน้ำที่ดี
• เลี่ยงบริเวณเนินสูงโล่ง ไม่ควรกางเต็นท์บริเวณเนินสูงโล่งหรือไม่มีต้นไม้บัง เพราะเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า และลมกรรโชกแรงในกรณีเกิดพายุ ควรเลือกบริเวณที่มีแนวกำบังธรรมชาติ เช่น โขดหินหรือกลุ่มไม้เตี้ย
• ระวังต้นไม้ใหญ่ ไม่ควรกางเต็นท์ใต้ต้นไม้ใหญ่โดยตรง เนื่องจากเวลาฝนตกลมแรง สุ่มเสี่ยงที่กิ่งไม้จะหักลงมา หรือต้นไม้ทั้งต้นอาจล้มได้ ควรเลือกบริเวณที่มีต้นไม้ขนาดกลางเป็นแนวกำบัง แต่ไม่อยู่ใต้กิ่งไม้โดยตรง
• หลีกเลี่ยงเชิงเขาและที่ลาดเอียง บริเวณเชิงเขาและที่ลาดเอียงชันมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินสไลด์ หิน และโคลนถล่ม โดยเฉพาะเมื่อฝนตกหนักเป็นเวลานาน ควรเลือกพื้นที่ราบหรือเอียงเพียงเล็กน้อย และไม่อยู่ใต้หน้าผา
• ตรวจสอบพื้นดิน ควรเลือกพื้นที่ที่มีดินแข็งและระบายน้ำดี หลีกเลี่ยงบริเวณที่ดินร่วน หรือเป็นโคลน เพราะจะทำให้เต็นท์ไม่มั่นคง

ตรวจเช็กอุปกรณ์กางเต็นท์ต่างๆ ให้พร้อม
การตรวจสอบอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น ควรปฏิบัติดังนี้

• ก่อนการตั้งแคมป์ ตรวจสอบความแข็งแรงของเต็นท์ ผ้าใบ ซิป สมอบก เชือกผูก และอุปกรณ์ทั้งหมด หากพบจุดที่ชำรุดหรือสึกหรอควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนทันที
• ระหว่างการตั้งแคมป์ ตรวจสอบความตึงของเชือกผูกเป็นประจำ เนื่องจากความชื้นและความร้อนอาจทำให้เชือกหย่อน รวมถึงการตรวจสอบการยึดสมอบกว่ายังแน่นหรือไม่
• หลังฝนตกหนัก ควรตรวจสอบโครงสร้างทั้งหมดของเต็นท์ อาจมีจุดที่หลวมหรือเสียหายจากลมแรง รวมถึงการตรวจสอบรอยรั่วที่อาจเกิดขึ้นใหม่
• เตรียมอุปกรณ์ซ่อมฉุกเฉิน ควรมีเทปกันน้ำ กาวซ่อมผ้าใบ สมอบกสำรอง และเชือกเผื่อไว้เสมอ

เตรียมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษช่วงหน้าฝน
ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่สัตว์มีพิษและแมลงต่างๆ มีกิจกรรมมากขึ้น ควรเตรียมการป้องกันดังนี้

• ป้องกันแมลงกัดต่อย เตรียมสเปรย์กันแมลงที่มีส่วนผสมของ DEET หรือ Picaridin ครีมทา และมุ้งนอนที่มีเนื้อผ้าถี่ ใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว และมีสีอ่อน หลีกเลี่ยงสีเข้มหรือสีสดใส
• ป้องกันงูและแมลงป่า ใส่รองเท้าบูทที่คอสูงและหนา ตรวจสอบเต็นท์และถุงนอนก่อนเข้านอน ใช้ไฟฉายส่องดูบริเวณรอบเต็นท์ก่อนออกมาในตอนกลางคืน
• ชุดปฐมพยาบาลเฉพาะทาง เตรียมยาแก้แพ้ ยาลดการอักเสบ ยาทาแก้คัน เจลเย็น

เรื่องความปลอดภัยจากไฟไหม้เป็นสิ่งสำคัญมาก ควรปฏิบัติดังนี้

• หลีกเลี่ยงการจุดไฟในเต็นท์ ไม่ควรใช้เตาแก๊ส เทียน หรือเครื่องให้ความร้อนในเต็นท์ เนื่องจากอาจเกิดไฟไหม้ และเกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
• ใช้พื้นที่ปรุงอาหารแยก จัดตั้งพื้นที่ครัวในบริเวณที่มีการระบายอากาศดี ห่างจากเต็นท์อย่างน้อย 3-5 เมตร และมีทาร์ปหรือผ้าใบกันฝนคลุม
• เตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง มีถังดับเพลิงเล็กหรือผ้าห่มดับเพลิง น้ำสะอาดสำหรับดับไฟฉุกเฉิน
• ใช้แสงสว่างที่ปลอดภัย เลือกใช้ไฟฉาย LED หรือตะเกียง LED แทนเทียนหรือตะเกียงน้ำมัน

ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับความปลอดภัย

• สื่อสารกับโลกภายนอก แจ้งแผนการเดินทางให้ญาติมิตรทราบ มีวิทยุสื่อสารหรือเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉิน
• เตรียมแผนการอพยพ วางแผนเส้นทางหนีในกรณีฉุกเฉิน และเตรียมของใช้จำเป็นไว้ในถุงกันน้ำ
• รักษาสุขอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ใช้เจลแอลกอฮอล์ และรักษาอาหารให้สะอาดปลอดภัย
• ไม่ดื่มน้ำจากแหล่งธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการต้มหรือฆ่าเชื้อก่อน

การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การกางเต็นท์ในหน้าฝนเป็นไปอย่างปลอดภัยและสนุกสนาน

กางเต็นท์หน้าฝน…แนะนำจุดกางเต็นท์เดินทางสะดวกสำหรับมือใหม่หัดแคมป์ปิ้ง

1. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานถือเป็นจุดกางเต็นท์ยอดนิยมแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับการแคมป์ปิ้งในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ธรรมชาติจะเผยความงดงามในมิติใหม่ ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รวมทั้งมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม ทั้งทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ การเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ระยะทางราว 190 กิโลเมตร ก็สามารถมากางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ได้

ลานกางเต็นท์ในฤดูฝน
ในช่วงฤดูฝน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจะแสดงเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากฤดูแล้ง ป่าไม้จะเขียวขจีสดใส อากาศเย็นสบาย และน้ำตกต่างๆ จะมีน้ำไหลเต็มตลิ่ง ลานกางเต็นท์หลักของอุทยานตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน ซึ่งมีการจัดเตรียมพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับกางเต็นท์ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการระบายน้ำดี ไม่มีปัญหาน้ำขัง และมีต้นไม้ใหญ่บังแดดบังฝน

สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักแคมป์ปิ้งหน้าฝน

• ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ที่สะอาดและมีน้ำร้อนสำหรับอาบน้ำหลังจากเปียกฝน
• ไฟฟ้าในบริเวณลานกางเต็นท์ ช่วยให้สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้
• ร้านค้าและภัตตาคาร มีจุดบริการอาหารและเครื่องดื่มร้อนสำหรับวันที่อากาศเย็น
• จุดกำบังฝน มีศาลาและอาคารที่สามารถหลบฝนได้ในกรณีที่ฝนตกหนัก
• เส้นทางเดินที่ปลอดภัย มีการจัดทำเส้นทางเดินที่ไม่ลื่นและมีป้ายบอกทางชัดเจน

กิจกรรมพิเศษในหน้าฝน

• ชมน้ำตกป่าละอู ที่จะมีน้ำไหลเต็มและสวยงามที่สุดในรอบปี
• ชมทะเลหมอกยามเช้า บริเวณภูเขาสูงในอุทยาน
• สังเกตการณ์นกและสัตว์ป่า ที่จะออกมาหากินมากขึ้นในช่วงฤดูฝน

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี หรือติดต่อที่ทำการอุทยานโดยตรง

2. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการกางเต็นท์ในฤดูฝน ด้วยพื้นที่ป่าไผ่ขนาดใหญ่และระบบนิเวศที่สมบูรณ์

ลานกางเต็นท์ที่เหมาะสำหรับฤดูฝน อุทยานมีลานกางเต็นท์หลายจุด โดยจุดหลักอยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน ลานกางเต็นท์ได้รับการจัดเตรียมพื้นที่ที่มีการระบายน้ำดี มีพื้นที่กว้างเพียงพอสำหรับการกางเต็นท์และกิจกรรมต่างๆ ในช่วงฤดูฝน บริเวณลานกางเต็นท์จะมีบรรยากาศเย็นสบายมากขึ้น เนื่องจากอยู่ท่ามกลางป่าไผ่ที่ร่มรื่น

ความพิเศษของการแคมป์ปิ้งหน้าฝนที่เขาใหญ่

• ป่าไผ่ที่เขียวขจี ในช่วงฤดูฝน ป่าไผ่จะเขียวสดใสและให้ความเย็นสบายอย่างน่าทึ่ง
• เสียงธรรมชาติที่ผ่อนคลาย เสียงฝนตกในป่าไผ่ เสียงลมใส่ใบไผ่ สร้างบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย
• การพบเห็นช้างป่า ในช่วงฤดูฝน ช้างป่าจะออกมาหากินมากขึ้น อาจมีโอกาสได้เห็นช้างป่าจากระยะไกล
• น้ำตกที่สวยงาม น้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัต จะมีน้ำไหลเต็มตลิ่งและเสียงน้ำตกที่น่าประทับใจ

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีสำหรับมือใหม่

• ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ให้ข้อมูลแนะนำเส้นทางและสภาพอากาศ
• ร้านค้าและร้านอาหาร ในบริเวณใกล้เคียง
• เส้นทางเดินป่าที่ปลอดภัย มีป้ายบอกทางและระยะทางชัดเจน
• บริการรถนำเที่ยวภายในอุทยาน สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเดินไกล

3. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

สวนผึ้งคืออำเภอที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดราชบุรี เหตุที่อำเภอสวนผึ้งกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีสภาพแวดล้อม ป่าไม้ เทือกเขา ที่อุดมสมบูรณ์ แถมเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่ไกล ราว 160 กิโลเมตร ปัจจุบันสวนผึ้งมีลานกางเต็นท์ที่ให้บริการมากมาย ราคาไม่แพง

ลานกางเต็นท์หลากหลายรูปแบบ สวนผึ้งมีลานกางเต็นท์ที่หลากหลาย ทั้งของรัฐและเอกชน แต่ละแห่งจะมีจุดเด่นและบรรยากาศที่แตกต่างกันไป ในช่วงฤดูฝน ลานกางเต็นท์จะมีความสวยงามพิเศษ เนื่องจากธรรมชาติที่เขียวขจีและอากาศที่เย็นสบาย

ลานกางเต็นท์ริมลำธาร หลายลานกางเต็นท์ในสวนผึ้งตั้งอยู่ริมลำธารเล็กๆ ที่มีน้ำไหลตลอดปี ในช่วงฤดูฝน ลำธารจะมีน้ำไหลเต็มตลิ่ง เสียงน้ำไหลเซาะกรวดก้อนหิน สร้างบรรยากาศที่สงบและน่าประทับใจ นักแคมป์ปิ้งสามารถนำน้ำจากลำธารมาใช้ได้ (หลังการต้ม) และเพลิดเพลินกับการแช่เท้าในน้ำใสเย็น

ลานกางเต็นท์วิวภูเขา บางลานกางเต็นท์จะตั้งอยู่บริเวณที่มีวิวภูเขา โดยเฉพาะยามเช้าที่จะมีทะเลหมอกลอยระหว่างยอดเขา ในช่วงฤดูฝน ทัศนียภาพจะสวยงามมากขึ้น เนื่องจากมีเมฆก้อนใหญ่ลอยอยู่ระหว่างยอดเขา

สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับหน้าฝน

• ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ที่สะอาดและมีน้ำร้อน
• ไฟฟ้าในบริเวณลานกางเต็นท์
• ร้านค้าและร้านอาหาร ใกล้เคียง
• จุดกำบังฝน ศาลาและพื้นที่มุงหลังคา
• ที่จอดรถปลอดภัย และไม่ขังน้ำ

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานราชบุรี หรือติดต่อลานกางเต็นท์โดยตรง

4.ลานกางเต็นท์ จังหวัดชลบุรี

ชลบุรีเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่อยู่ในการนึกถึงของนักท่องเที่ยวเสมอ และสำหรับสายแคมป์ปิ้ง จังหวัดชลบุรีก็มีพื้นที่รองรับกิจกรรมกางเต็นท์ด้วยเช่นกัน แถมยังมีสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย ทั้งกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา หรือแนวกางเต็นท์ใกล้ริมอ่างเก็บน้ำ รวมไปถึงแนวบีชแคมป์ (Beach Camp) กางเต็นท์บริเวณริมหาด ก็มีจุดบริการให้เลือกมากมาย

การกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา ชลบุรีมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง เช่น  อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด, อุทยานแห่งชาติเอราวัณ, และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ ที่มีลานกางเต็นท์ท่ามกลางป่าไผ่และป่าเบญจพรรณ ในช่วงฤดูฝน บริเวณป่าเขาจะมีความเย็นสบายและอากาศที่สดชื่น

การกางเต็นท์ใกล้ริมอ่างเก็บน้ำ ชลบุรีมีอ่างเก็บน้ำหลายแห่ง เช่น ช่องมะเฟือง อ่างเก็บน้ำหนองน้ำเขียว ที่มีลานกางเต็นท์ริมน้ำ ในช่วงฤดูฝน อ่างเก็บน้ำจะมีน้ำเต็มตลิ่ง ทิวทัศน์สวยงาม และมีลมเย็นสบายจากผิวน้ำ

ลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำนองปลาไหล ลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำนองปลาไหลเป็นจุดที่นิยมมาก เนื่องจากมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตกดิน ในช่วงฤดูฝน จะมีเมฆก้อนใหญ่ลอยอยู่บนผิวน้ำ สร้างภาพที่น่าประทับใจ

บีชแคมป์ (Beach Camp) กางเต็นท์บริเวณริมหาด ชลบุรีมีหาดยาวหลายแห่ง เช่น หาดบางแสน หาดแหลมแท่น ที่มีลานกางเต็นท์ริมหาด ในช่วงฤดูฝน แม้จะมีฝนตกบ้าง แต่ก็จะมีช่วงเวลาที่ท้องฟ้าใสและสวยงาม โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ขึ้นและตก

ลานกางเต็นท์หาดบางแสน หาดบางแสนมีลานกางเต็นท์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดี มีการระบายน้ำที่ดี ไม่มีปัญหาน้ำขัง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในช่วงฤดูฝน จะมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าปกติ ทำให้ได้บรรยากาศที่เงียบสงบและส่วนตัวมากขึ้น

ลานกางเต็นท์เกาะเสม็ด เกาะเสม็ด (ในพื้นที่ที่อนุญาต) มีลานกางเต็นท์ริมหาดที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่ในเกาะส่วนตัว ในช่วงฤดูฝน แม้จะมีฝนตกบ้าง แต่ก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างไปจากฤดูแล้ง

กิจกรรมสำหรับฤดูฝน

• ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในช่วงที่ฟ้าใส
• ถ่ายรูปเมฆสวยงาม ที่มีรูปทรงต่างๆ
• เดินชายหาดยามเช้า หลังฝนตกค่ำคืน
• ดูดาวในคืนที่ฟ้าใส หลังฝนตก
• ตกปลา ในอ่างเก็บน้ำ

ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการกางเต็นท์หน้าฝน

• ตรวจสอบสภาพอากาศ ก่อนเดินทางเสมอ
• เตรียมอุปกรณ์กันฝน ให้ครบครัน
• เลือกลานกางเต็นท์ที่มีระบายน้ำดี และไม่ขังน้ำ
• มีแผนสำรอง ในกรณีที่ฝนตกหนัก
• จองล่วงหน้า เนื่องจากในช่วงฤดูฝนอาจมีสถานที่ปิดชั่วคราว

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ ททท.สำนักงานชลบุรี และพัทยา หรือติดต่อลานกางเต็นท์โดยตรง

สถานที่ทั้งสี่แห่งนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นกิจกรรมกางเต็นท์ในช่วงฤดูฝน ด้วยความสะดวกสบายในการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และความปลอดภัยที่เหมาะสม

ปัจจุบันกิจกรรม “กางเต็นท์หน้าฝน” กลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิต มีสถานที่รองรับทั่วประเทศ เรียกว่าธรรมชาติสวย ๆ อยู่ไกล ขอเพียงแค่ออกเดินทางไปสัมผัส แล้วหน้าฝนนี้จะมีความพิเศษสำหรับคุณมากยิ่งขึ้น