จาก “สภาพอากาศ” ที่แปรปรวนป่วนปั่นในปีนี้ ซึ่งสาเหตุสำคัญก็คือ “โลกร้อน” สู่คำถามอันน่าสนใจว่าแล้วจะเกิดขึ้นหาก “โลกร้อน” ถึง 1.5 องศาเซลเซียส และ 2.0 องศาเซลเซียสตามลำดับ ไปฟังการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพกัน
ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้ให้ความรู้ผ่านเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat ไว้ 5 ข้อดังนี้ว่า
1. พ.ศ. 2567 ถือเป็นปีที่มีอากาศร้อนที่สุดในโลกเท่าที่เคยบันทึกไว้ เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างสุดขั้วเป็นสาเหตุหลัก นอกจากนี้ปี 2567 ยังเป็นปีแรกที่อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม
2. ผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเมื่ออุณหภูมิเกิน 1.5 องศาเซลเซียส
2.1 สภาพอากาศจะรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น เช่น เกิดคลื่นความร้อนและฝนตกหนัก
2.2 เกิดการละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็งส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
2.3 เกิดการหดตัวของน้ำแข็งในทะเลอาร์กติก
2.4 มหาสมุทรที่อุ่นขึ้น ทำให้เกิดพายุบ่อยขึ้นรุนแรงขึ้นและความร้อนของน้ำทะเลจะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลเนื่องจากระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง
2.5 เกิดการพังทลายของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ กระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกอุ่นขึ้นและเกิดการสูญเสียป่าฝนแอมะซอน (Amazon) เพิ่มเติม
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้คนและเศรษฐกิจทั่วโลกแล้วดังเช่นในปี 2022 พื้นที่บางส่วนของแอฟริกาตะวันออกประสบภัยแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปีส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 20 ล้านคนเสี่ยงต่อความหิวโหยอย่างรุนแรง
3. นับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มต้นขึ้น มนุษย์ได้เริ่มเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลในปริมาณมากทำให้มีปริมาณ CO2 ในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าระดับที่เคยพบเห็นในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของโลกมาก
งานวิจัยพบว่า CO2 ที่ปล่อยออกมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล มีลักษณะทางเคมีที่โดดเด่นซึ่งตรงกับชนิดของ CO2 ที่พบมากขึ้นในชั้นบรรยากาศ
4. โอกาสที่อุณหภูมิโลกจะสูงเกิน 2.0 องศาเซลเซียสภายในปี 2050 มีอยู่สูงมาก หากโลกยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับเท่ากับปัจจุบันหรือเพิ่มขึ้น
สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับ 2 ของโลกได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement) โดยจะใช้พลังงานจากฟอสซิลเพิ่มขึ้น
5. มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่าหากภาวะโลกร้อนขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียสหรือมากกว่านั้นจะส่งผลกระทบต่อโลกอย่างรุนแรงมาก ได้แก่
5.1 คนจำนวนมากจะต้องเผชิญ กับอากาศที่ร้อนจัดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น
5.2 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นเนื่องจากธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็งละลาย เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกบางแห่งอาจจะหายไป และอาจจะเกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงในประเทศริมทะเล โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น
5.3 ความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางอาหารจะเพิ่มมากขึ้นในบางภูมิภาค เนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นอาจเกิดความแห้งแล้งอย่างสุดขั้วและอาจเกิดฝนตกหนักอย่างสุดขั้วในบางพื้นที่
5.4 มีโอกาสที่จะเกิดเชื้อโรคที่ไวต่อสภาพอากาศบางชนิดแพร่กระจายไปทุกพื้นที่ เช่น ไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย สูงขึ้น
5.5 สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่กำลังถูกคุกคามจนสูญพันธุ์ เนื่องจากระบบนิเวศที่เปลี่ยนแปลง
5.6 เกิดการสูญเสียแนวปะการังเกือบทั้งหมด
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech