บล็อกเชนคืออะไร ? คนไทยกำลังให้ความสนใจจนติดคำค้นหา Google Trends หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับนโยบาย “แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” ของพรรคเพื่อไทย โดยจะสามารถใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ผ่านระบบ “บล็อกเชน” วันนี้ Thai PBS Sci And Tech พาผู้อ่านไปรู้จักเทคโนโลยีบล็อกเชนให้มากขึ้น ว่าคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และใช้อย่างไร
บล็อกเชนเป็นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบกระจายศูนย์ ที่ไม่ต้องมีตัวกลาง ไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ก้าวข้ามจุดอ่อนของฐานข้อมูลแบบเดิม ๆ หรือแบบรวมศูนย์ที่ต้องอาศัยตัวกลางรวมศูนย์ข้อมูล ซึ่งหากตัวกลางเกิดล้มเหลว ก็ล้มเหลวทั้งหมด บล็อกเชน จึงไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ เพราะมีการเก็บไว้หลายสำเนา
บล็อกเชน ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในรูปแบบเอกสารงานวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยด้วยห่วงโซ่ของบล็อก ที่มีการเข้ารหัสลับ (Chain of cryptographically secured blocks) ในปี พ.ศ. 2535 โดยทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์
ก่อนนำมาพัฒนาเพื่อการใช้งานโดยโปรแกรมเมอร์ที่ไม่เปิดชื่อและใช้นามแฝงว่า “ซาโตชิ นากาโมโตะ” สาเหตุที่ซาโตชิ นากาโมโตะไม่ยอมเปิดเผยตัว เนื่องจากเขาต้องการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาทำการพัฒนาระบบเงินดิจิทัลที่มีการกระจายศูนย์โดยสมบูรณ์ มีความปลอดภัยสูงและไม่อยู่ใต้อำนาจของบุคคล หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลขึ้นอยู่กับความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้งาน
วิธีการทำงานของบล็อกเชน คือ ถ้าเราจะบันทึกธุรกรรมภายในของเราในฐานข้อมูลแบบกระจาย ทุกคนที่อยู่ในสายโซ่เดียวกัน (Chain) แต่ละคนก็จะมีการบันทึกข้อมูลลงในบล็อกที่มีการเข้ารหัสไว้พร้อม ๆ กันในฐานข้อมูลของแต่ละคน ซึ่งเราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลที่บันทึกรายการใดถูกต้อง
ดังนั้นในแต่ละสายโซ่ Chain จะต้องมีผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมรายการนั้น ซึ่งแต่ละครั้งจะมีผู้ตรวจสอบความถูกต้องได้เพียงคนเดียว ซึ่งผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องนั้น เราจะเรียกว่า Miners ซึ่งการมี Miner คนเดียว ย่อมไม่สามารถไว้ใจได้ ดังนั้นในระบบบล็อกเชน จึงถูกออกแบบให้มี Miner จำนวนมาก เข้ามาแย่งกันทำหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องของรายการ
โดยในแต่ละครั้งจะมี Miner เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับฉันทามติให้เป็นผู้ตรวจสอบและยืนยันธุรกรรม ผ่านหลักฐานการทำงาน ดังนั้นการที่ Miner จะสามารถเป็นผู้ตรวจสอบรายการได้สำเร็จ Miner จะต้องมีทรัพยากรการคำนวณที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในสายโซ่ (Chain) ด้วยกลไกนี้ ทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชน มีความปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือสูง
บล็อกเชน สามารถประยุกต์ได้ในหลายเรื่อง เช่น การออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ให้ปลอมแปลงได้ แก้ปัญหาเรื่อง โฉนดปลอม โฉนดทับซ้อน เป็นต้น บล็อกเชน ยังสามารถนำไปใช้สร้างธุรกิจใหม่ ๆ ได้แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
บล็อกเชน ใช้วิทยาการเข้ารหัสข้อมูลและเทคโนโลยีฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ในการบันทึกข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม ซึ่งหากเรานำปริมาณข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ Internet of Things มาใช้บันทึกข้อมูลด้วยเทคโนโลยีฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ ก็จะพบว่ามีรายการข้อมูลธุรกรรมที่จะต้องบันทึก เป็นจำนวนหลายล้านครั้ง
โดยเมื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้จะช่วยให้ไม่ต้องอาศัยพลังของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่แต่สามารถประมวลผลผ่านแพลตฟอร์มขนาดเล็ก ๆ จำนวนมากที่จะเข้ามาช่วยกันประมวลผลให้การบันทึกธุรกรรมมีความปลอดภัย ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ จึงทำให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน กับอุตสาหกรรมบริการทางการเงินและยังพัฒนาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกด้วย
ชมคลิปเพิ่มติม
• รู้จัก "บล็อกเชน" ให้มากขึ้น ผ่านคลิปนี้
https://thaip.bs/uEipXB4
• คิดยกกำลังสอง: ใช้บล็อกเชนอย่างไร…ให้เกิดผล?
https://thaip.bs/jdESm1l
ข้อมูลจาก
• รายการคิดยกกำลังสอง ไทยพีบีเอส
• www.depa.or.th/th/article-view/blockchain-change
• www.depa.or.th/th/article-view/blockchain-electronic
-----------------------------
.
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ #ThaiPBSSciAndTech
🌎 "รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก" ไปกับ Thai PBS Sci & Tech • วิทยาศาสตร์ • เทคโนโลยี นวัตกรรม • ดาราศาสตร์ • Media Literacy • Cyber Security • Tips & Tricks • Trends