ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

4 เหตุผล ทำไมโลกถึง "อิน" กับความรักของคนดัง ?


Lifestyle

พีรชัย พสุทันท์

แชร์

4 เหตุผล ทำไมโลกถึง "อิน" กับความรักของคนดัง ?

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3074

4 เหตุผล ทำไมโลกถึง "อิน" กับความรักของคนดัง ?


ช่วงปลายเดือน ส.ค. 68 การประกาศหมั้นของเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) นักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดัง และทราวิส เคลซี (Travis Kelce) นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลลีก NFL นั้นได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกในเวลาไม่กี่นาที

สวิฟต์ไม่ได้โด่งดังจากเพลงฮิตที่มีเนื้อหาท่วงทำนองติดหูและกินใจผู้ฟังทั่วโลกเท่านั้น แต่การต่อสู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์เพลงของเธอนั้นก็ช่วยผลักดันให้คนดนตรีเรียกร้องสัญญาการทำเพลงที่เป็นธรรม สวิฟต์จึงมีแฟนคลับชาว 'สวิฟตี้ (Swifties)' มากมายผู้คอยสนับสนุนเธออย่างเหนียวแน่น และกลายเป็นไอคอนแห่งยุคสมัยคนหนึ่งไปโดยปริยาย ความนิยมของเธอยังทำให้มหาวิทยาลัยต่างประเทศหลายแห่งเปิดสอนวิชา "สวิฟต์ศาสตร์" โดยเฉพาะ 

ก่อนที่สวิฟต์จะหมั้นหมายกับเคลซีอย่างที่เกริ่นไป เธอก็คบหาดูใจกับเพื่อนศิลปินและนักแสดงชายหลายคน แน่นอนครับว่า ทั้งสื่อและผู้เสพสื่อต่างติดตามความสัมพันธ์ส่วนตัวของสวิฟต์อย่างตามติด และชาวสวิฟตี้เองก็ให้กำลังใจสวิฟต์ทั้งในยามรักดีและรักร้าว ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเด็นต่อยอดจากเรื่องของสวิฟต์-เคลซีอยู่ที่ว่า ทำไมคนเราถึงสนใจความรักความสัมพันธ์ของคนดังหรือผู้มีชื่อเสียงจากวงการต่าง ๆ ทั้งเทศและไทย ?

ภาพประกาศการหมั้นของสวิฟต์และเคลซี เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 68 (ภาพจาก: Instagram @taylorswift และ @killatrav)

จิตวิทยาเบื้องหลังความสนใจที่เรามีต่อความรักของคนดัง

ทุกวันนี้ โลกโซเชียลมีเดียได้ขับเคลื่อนความสนใจของพวกเราในทุก ๆ ประเด็น รวมถึงเรื่องราวและผู้คนจากวงการบันเทิง แต่สุดท้ายแล้ว คนคนหนึ่งจะติดตามข่าวคราวและความสัมพันธ์ส่วนตัวของคนดังหรือไม่นั้น อยู่ที่ความต้องการซึ่งแฝงอยู่ในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ ความต้องการที่ว่าอาจแบ่งประเภทได้คร่าว ๆ  4 แบบดังนี้

1) ความสัมพันธ์ข้างเดียว (parasocial relationships): บางคนรู้สึกผูกพันและสนิทสนมกับไอดอลของตัวเองราวกับเป็น 'เพื่อนคู่ใจ' แม้จะไม่เคยพูดคุยหรือรู้จักกันก็ตาม พอเห็น ‘เพื่อน' ของตัวเองมีแฟนใหม่ แฟนคลับจึงพร้อมที่จะ 'เชียร์' หรือ 'แช่ง' หนุ่มสาวหน้าใหม่ที่เข้ามาในชีวิตไอดอลคนนั้นว่า เหมาะสมกันหรือไม่

2) การหลบหนีจากโลกความเป็นจริง (escapism): บางคนอาจไม่ได้ติดตามศิลปินหรือดาราคนไหนเลย แต่สนใจเรื่องราวความรักของคนเหล่านี้เพียงเพื่อที่จะหา 'สิ่งกวนใจ' ให้ตัวเองได้คิดเรื่องอื่น พร้อมหลบลี้จากความเครียดกับวิถีชีวิตประจำวัน ในแง่นี้ ข่าวความสัมพันธ์ของคนดังจึงเป็นดั่ง 'ความบันเทิง' หากคู่ไหนสมหวังก็ถือว่าเป็นหนังรักโรแมนติก แต่ถ้าเรื่องไหนเกิดฉาวคาวขึ้นมา ก็จะเป็นดรามาละครหลังข่าวดี ๆ แทน

3) การเปรียบเทียบทางสังคม (social comparison): มนุษย์ย่อมอดไม่ได้ที่จะมองคนอื่นแล้วย้อนดูตัวเอง บางคนเห็นคู่รักคนดังก็อาจคิดได้ว่า "แม้จะเจออุปสรรคและแรงกดดัน แต่คนเราก็ยังรักกันได้" บ้างอาจมองว่า ทุกความสัมพันธ์ย่อมมีปัญหา แม้แต่ความรักผู้มีชื่อเสียงก็ไม่เว้น หรือบางคนอาจตั้งบรรทัดฐานความรักโดยอิงจากสิ่งที่เห็นในคู่รักคนดัง

4) ความอยากมีพรรคพวกเพื่อนฝูงหรือชุมชน (tribalism and community): ปกติแล้ว แฟนคลับคนนั้นคนนี้มักรวมตัวกันเป็น 'แฟนดอม (fandom)' ถึงจะติดตามและสนับสนุนไม่เคยขาด แต่แฟนดอมหลายกลุ่มนั้นก็ไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของศิลปินดาราที่ชื่นชอบ ที่สำคัญกว่านั้นคือ เหล่าแฟนคลับก็ช่วยเหลือดูแลกันเองด้วย และอีกกรณีหนึ่งคือ เรื่องราวข่าวคราวของคนดังทำให้ผู้คนทั่ว ๆ ไปหันมาพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น

แฟนคลับอเมริกันฟุตบอลทีม Kansas City Chiefs ชูป้ายหน้าเคลซี ผู้เล่นของทีม และสวิฟต์คู่กัน เมื่อเดือน พ.ย. 67 (ภาพจาก: Jamie Squire/Getty Images/AFP)

ติดตามข่าวคราวความรักของคนดังในดวงใจอย่างไรให้ไม่ทอกซิก ?

ดารา คนดัง และผู้มีอิทธิพลในวงการต่าง ๆ ล้วนเป็น 'บุคคลสาธารณะ (public figures)' ที่ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ได้ แม้จะไม่ต้องถึงกับเป็น 'ต้นแบบผู้เพียบพร้อม' แต่เหล่าคนดังเองก็ต้องประพฤติตัวให้เหมาะสมตามกาลเทศะ อีกด้านหนึ่ง คนทำสื่อ ผู้เสพสื่อ และกลุ่มแฟนคลับก็ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของคนเหล่านี้ โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาใช้ชีวิตนอกเวลางาน เดินห้าง กินข้าว หรือไปเที่ยวเล่นไม่ต่างจากปุถุชนปกติ

กับเรื่องความรักความสัมพันธ์ก็เช่นกัน คนดังสามารถคบหาดูใจกับใครก็ได้ หลายครั้ง คนรักของศิลปินดาราที่เราชอบอาจไม่ถูกใจเรา แต่พวกเขาสามารถคบหาดูใจกับใครก็ได้ตราบใดที่ไม่ไปเป็นมือที่ 3 หรือตกอยู่ในสภาวะอันเป็นพิษ เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ตัวเองไม่ได้รู้จักไอดอลของเราเป็นการส่วนตัว แล้วหันมาใส่ใจตัวเองและคนรอบข้างในชีวิตจริง หากยังมูฟออนไม่ได้ ก็อาจขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์ รวมถึงเลิกติดตามความเคลื่อนไหวของไอดอลคนนั้นบนโลกออนไลน์ครับ

หรือบางคนอาจเป็นแฟนเดนตายของคู่รักคนดังคู่ใดคู่หนึ่ง และยกย่องถึงความรักของพวกเขานั้น แม้คู่รักคนดังหลายคู่จะอยู่กันยืนยาวจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอุปสรรคขวากหนามใด ๆ (เพียงแค่เราอาจจะไม่เคยเห็นเอง) ดังนั้น เราจึงควรติดตามเรื่องราวความรักของคนดังอย่างมีวิจารณญาณ อีกทั้งไม่ควรตั้งมาตรฐานและความคาดหวังกับคนรักของตัวเองโดยอิงจากสิ่งที่คู่รักคนดังแสดงออกในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

คนเราล้วนมีใครสักคนเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิต และการติ่งศิลปินดาราก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างไร แต่ไม่ว่าเราจะรักหรือเชิดชูใคร สิ่งสำคัญอย่างยิ่งก็คือ เราต้องรู้เท่าทันสื่อและติดตามข่าวสารต่าง ๆ อย่างมีสติครับ

รอบรู้เรื่องรักไปกับบทความที่เกี่ยวข้องจาก Thai PBS NOW 

ภาพประกาศการหมั้นของสวิฟต์และเคลซี เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 68 (ภาพจาก: Instagram @taylorswift และ @killatrav)

อ้างอิง

  • A Psychologist Explains Our ‘Parasocial’ Obsession With Celebrity Love, Forbes
  • How did Taylor Swift get so popular? She never goes out of style, The Conversation
  • Parasocial Love: The Psychology Behind Our Obsession with Celebrity Couples, Thoughtlab

ติดตามบทความและเรื่องราวทันทุกกระแสที่ Thai PBS NOW: www.thaipbs.or.th/now

แท็กที่เกี่ยวข้อง

คนดังความรักจิตวิทยาTaylor SwiftTravis Kelce
พีรชัย พสุทันท์

ผู้เขียน: พีรชัย พสุทันท์

ศิษย์เก่าอักษร จุฬาฯ และโปรแกรมปริญญาโททุน EU ด้านวรรณกรรมยุโรปในฝรั่งเศสและกรีซ ผู้ชอบพาตัวเองไป (หลง) อยู่ในกระแสพหุวัฒนธรรม และเปิดเพลง ABBA ประโลมชีวิตทุกครั้งที่เขียนงาน | porrorchor.com

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด