ฟุตบอลลีกยุโรปกลับมาเปิดฤดูกาลฟาดแข้งกันอีกครั้ง เรื่องหนึ่งในโลกกีฬาฟุตบอล ที่เชื่อว่า นักฟุตบอลหลายต่อหลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง นั่นคือ การได้รับโทษ “โดนแบน” หรือถูกสั่งห้ามลงสนามแข่ง
Thai PBS รวบรวมเหล่านักฟุตบอลระดับซูเปอร์สตาร์ที่ถูกโทษโดนแบนห้ามแข่งขัน มีใครที่เคยเป็นข่าวใหญ่กันบ้าง ไปติดตามกัน
ดิเอโก มาราโดนา นักเตะมากพรสวรรค์ ที่มาพร้อมกับการโดนแบน
สำหรับโลกลูกหนัง ชื่อ ดิเอโก มาราโดนา คือนักฟุตบอลพรสวรรค์ ที่สร้างชื่อเสียงระดับตำนาน เขาคือกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ผู้พาขุนพลทัพฟ้าขาว คว้าแชมป์โลกในปี 1986 ทว่าในความเก่งกาจของนักเตะหมายเลข 10 คนนี้ เรื่องราวชีวิตนอกสนามของเขา กลับมีวิถีที่สุดขั้ว
หลังจบฟุตบอลโลก 1986 มาราโดนาถูกตรวจพบว่าเสพโคเคน ขณะที่เจ้าตัวเล่นฟุตบอลในลีกอิตาลี ส่งผลให้ถูกลงโทษโดนแบน ต้องพักการเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 15 เดือน ต่อมาในศึกฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา มาราโดนาหวังจะพาทีมฟ้าขาวกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ให้ได้อีกครั้ง แต่กลับถูกตรวจพบว่า เจ้าตัวใช้สารอีเฟดรีน ซึ่งเป็นสารต้องห้าม ทำให้ถูกส่งตัวกลับและต้องออกจากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนั้นในทันที
แต่ไม่ว่าพฤติกรรมนอกสนามของมาราโดนาจะเป็นเช่นไร เมื่อไรก็ตามที่นักเตะฉายา “เสือเตี้ย” ลงสนาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาคือสีสันและความสนุกแห่งโลกฟุตบอล ทุกวันนี้แม้ตัวจะจากไป แต่มาราโดนายังเป็นตำนานในใจแฟนฟุตบอลอยู่เสมอ
เอริก คันโตนา ตำนานโดนแบนจากท่ากระโดดกังฟูคิก
เขาคือหนึ่งในตำนานหมายเลข 7 แห่งทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับ เอริก คันโตนา หรือนิกเนมที่แฟนฟุตบอลเรียกติดปากว่า “ก็องโต้” นี่คือกัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ในยุครุ่งเรือง ช่วงทศวรรษที่ 90 ทว่าในความเป็นผู้นำ คันโตนาก็มีความ “เดือด” ตามสไตล์ศิลปินลูกหนัง
ครั้งหนึ่งในแมตช์ที่แฟนปีศาจแดงจดจำได้เป็นอย่างดี เป็นฤดูกาลที่แมนฯ ยูไนเต็ดกำลังคับเคี่ยวแย่งแชมป์ลีกกับทีมแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในช่วงปี 1994-1995 แมนฯ ยูไนเต็ดมีแมตช์ต้องลงเตะกับทีมคริสตัล พาเลซ ปรากฎว่าในระหว่างเกม คันโตนาไปไล่เตะ ริชาร์ด ชอว์ กองหลังของทีมคู่แข่ง จนกรรมการชักใบแดง ไล่เจ้าตัวออกจากสนาม
ขณะที่คันโตนากำลังจะเดินกลับเข้าห้องแต่งตัว จู่ ๆ แฟนบอลคริสตัล พาเลซ นามว่า แมทธิว ซิมม่อนส์ ที่ยืนอยู่ข้างสนาม เกิดตะโกนด่าคันโตนาว่า “ไอ้ลูกกระ***ฝรั่งเศส”
เท่านั้นล่ะ คันโตนา ตรงเข้าไปกระโดดถีบแฟนบอลดังกล่าวอย่างจัง ภายหลังเหตุการณ์นั้น คันโตนาถูกลงโทษจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ด้วยการโดนแบน 8 เดือน พร้อมปรับเงิน 1 หมื่นปอนด์ นอกจากนี้ยังถูกดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย และถูกลงโทษจำคุก 2 เดือน แต่ถือเป็นความผิดครั้งแรก จึงทำให้เจ้าตัวได้รับการอุทธรณ์ ให้ต้องทำงานช่วยชุมชนเป็นเวลา 20 ชั่วโมง
การโดนแบนครั้งนั้น ทำให้คันโตนาหมดสิทธิ์ลงช่วยแมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก และทีมแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก็สามารถเฉือนคว้าแชมป์ไปได้สำเร็จ ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในวงการฟุตบอลอังกฤษและฟุตบอลลีกระดับโลกที่ยังคงได้รับการพูดถึงมาจนปัจจุบัน
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ไม่ยอมตรวจปัสสาวะจนถูกโดนแบน
อีกหนึ่งสตาร์แห่งทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในช่วงปี 2003 ที่เจ้าตัวลงเล่นให้กับต้นสังกัดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฟอร์ดินานด์ไม่ยอมเข้าตรวจสารกระตุ้นตามกำหนดการที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน ของแมนฯ ยูไนเต็ด โดยอ้างว่า ออกไปช้อปปิง แล้วกลับมาไม่ทัน
เหตุการณ์นั้น ทำให้เขาถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษลงโทษ “โดนแบนยาว” เป็นเวลา 8 เดือน โดยห้ามลงสนามในการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการ ส่งผลให้เฟอร์ดินานด์ไม่สามารถลงช่วยต้นสังกัดแมนฯ ยูไนเต็ด จนสิ้นสุดฤดูกาล แถมยังไม่สามารถไปร่วมทีมชาติอังกฤษ ลงเตะในศึกยูโร 2004 อีกด้วย
เวลาผ่านไปราว 3 ปี เฟอร์ดินานด์เคยออกมาเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เขายอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง เพราะหลังจากนั้นเพียงสองวัน เขาได้ลองไปตรวจสอบหาสารกระตุ้นดูอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่พบสารต้องห้ามแต่อย่างใด
ริโอ เฟอร์ดินานด์โดนแบน 8 เดือน และกลับมาในแมตช์ที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องเจอกับทีมคู่รักคู่แค้นอย่างลิเวอร์พูลพอดิบพอดี โดยสามารถช่วยให้ทีมปีศาจแดงเอาชนะลิเวอร์พูลในศึกแดงเดือดครั้งนั้นไปได้ 2 – 1
ยอดกองหน้าที่พ่วงฉายา “จอมโดนแบน” หลุยส์ ซัวเรซ
หนึ่งในกองหน้าระดับโลก ต้องมีชื่อของ หลุยส์ ซัวเรซ ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งสูงสุดของโลก แต่นอกเหนือจากความเป็นนักล่าประตูของซัวเรซแล้ว เจ้าตัวยังเป็นกองหน้าที่ขยันถูกโทษโดนแบนคนหนึ่ง
ในปี 2010 หลุยส์ ซัวเรซ ค้าแข้งกับสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในลีกฮอลแลนด์ เขาเคยมีวีรกรรมกัดคอ ออตแมน บัคคอล นักฟุตบอลของสโมสรพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น จนทำให้ซัวเรซโดนแบนถึง 7 นัด พร้อมโดนปรับเงินอีกจำนวนหนึ่ง
ตัดภาพมาตอนที่ซัวเรซเล่นให้กับทีมลิเวอร์พูล เจ้าตัวเคยถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ สั่งปรับเงิน 40,000 ปอนด์ พร้อมกับโดนแบนห้ามลงสนามอีก 8 นัด จากกรณีมีปัญหาและพูดจาเชิงเหยียดสีผิวใส่ ปาทริซ เอวรา นักเตะของแมนฯ ยูไนเต็ด จากนั้นซัวเรซยังเคยโดนแบนอีก 1 นัด และโดนปรับอีก 20,000 ปอนด์ โทษฐานชูนิ้วกลางใส่แฟนบอลของทีมฟูแล่ม
อีกหนึ่งวีรกรรมที่หลุยส์ ซัวเรซ สร้างเป็นตำนานเอาไว้ คือการกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังของสโมสรเชลซี งานนั้นโดนแบนไปอีก 10 นัด กระทั่งในฟุตบอลโลก 2014 ซัวเรซก็ได้สร้างตำนาน “การกัด” อีกครั้ง ในแมตช์ที่อุรุกวัยพบกับอิตาลี เจ้าตัวกัดเข้าที่ไหล่ของ จอร์จิโอ คิเอลลินี กองหลังทีมชาติอิตาลี จนโดนแบนจาก FIFA ผู้จัดงานฟุตบอลโลก ห้ามยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมฟุตบอลเป็นเวลา 4 เดือน พร้อมกับโดนแบนในทีมชาติอีก 9 นัดด้วยกัน
แม้จะมีปัญหาเรื่อพฤติกรรม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยความทุ่มเท และผลงานในสนามของหลุยส์ ซัวเรซ ทำให้เขายังเป็นที่ยอมรับ และเป็นที่รักของเหล่าบรรดาแฟนบอลของทีมที่เคยสังกัดด้วยอย่างมากมาย
ซานโดร โตนาลี่ ดาวรุ่งที่โดนแบนจากการเล่นพนัน
อีกหนึ่งนักเตะดาวรุ่งทีมชาติอิตาลี ด้วยพรสวรรค์และฝีเท้าระดับคุณภาพ ทำให้ ซานโดร โตนาลี่ ก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเตะระดับบิ๊กเนมในเวลาอันรวดเร็ว
ทว่าในช่วงเวลาที่เจ้าตัวย้ายจากทีมเอซี มิลาน ในอิตาลี มาสู่ ทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โตนาลี่กลับถูกข้อหาเล่นพนันฟุตบอลแบบผิดกฎหมายเมื่อสมัยที่เจ้าตัวยังค้าแข้งในอิตาลีบ้านเกิด ซึ่งโตนาลี่ก็ยอมรับในความผิด และต้องถูกลงโทษโดนแบน ห้ามเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 10 เดือน พร้อมกับเข้ารับการบำบัดการติดการพนันอีกด้วย
ถือเป็นโชคร้ายของโตนาลี่ เนื่องจากโทษโดนแบนครั้งนั้น ส่งผลให้เขาไม่สามารถลงเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่อย่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ตลอดทั้งฤดูกาล 2023-2024 รวมทั้งอดช่วยทีมชาติอิตาลี ลงแข่งขันในศึกฟุตบอลยูโร 2024 อีกด้วย
พอล ป็อกบา มิดฟิลด์อัจฉริยะที่โดนแบนยาว 4 ปี
สำหรับโลกลูกหนังยุคใหม่ แฟนฟุตบอลต่างรู้จักชื่อ พอล ป็อกบา เป็นอย่างดี นี่คือมิดฟิลด์อนาคตไกลที่สร้างผลงานในระดับสโมสรและทีมชาติฝรั่งเศสอย่างมากมาย
ทว่าในปี 2024 ในขณะที่เจ้าตัวลงเล่นให้กับต้นสังกัด ทีมยูเวนตุส ในลีกอิตาลี กองกลางจอมเปลี่ยนสีผมคนนี้ ถูกสุ่มตรวจหาสารกระตุ้นในร่างกาย และพบว่ามีสารชื่อ DHEA (Dehydroepiandrosterone) อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นสารต้องห้ามในวงการกีฬา เนื่องจากช่วยทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงกว่าปกติ
ในเวลาต่อมา ป็อกบาถูกหน่วยงานต่อต้านการใช้สารต้องห้ามของอิตาลี หรือ NADO ร้องต่อศาล ให้ถูกโดนแบนจากวงการฟุตบอลเป็นเวลาถึง 4 ปีด้วยกัน
ภายหลังเกิดข่าวใหญ่โดนแบน ป็อกบารู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะออกมาเคลื่อนไหว และพยายามยื่นอุทธรณ์ความผิดไปยังศาลกีฬาโลก จากนั้นจึงมีคำพิพากษา ป็อกบาถูกลดโทษ จาก 4 ปี เหลือเพียง 18 เดือน โดยศาลระบุว่า การมีสาร DHEA ในร่างกายของป็อกบา เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ เนื่องจากการบริโภคอาหารเสริม ที่ได้รับการแนะนำโดยแพทย์ที่เขาเคยเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บนั่นเอง
ปัจจุบัน พอล ป็อกบา พ้นโทษแบนเป็นที่เรียบร้อย หลายฝ่ายต่างให้กำลังใจ จากนักตะค่าตัวท็อปของโลก กลายเป็นนักเตะที่ไม่มีสังกัด กระทั่งล่าสุด เจ้าตัวได้รับการเซ็นสัญญาจากทีมโมนาโก ในลีกของฝรั่งเศส โดยได้รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ราวสัปดาห์ละ 75,000 ยูโร ซึ่งแม้จะเทียบไม่ได้กับค่าเหนื่อยในอดีตที่เขาเคยได้รับ แต่ทั้งหมดคือ “โอกาส” ในการได้กลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งหนึ่งของเขา ซึ่งในวันที่เซ็นสัญญากัน ป็อกบาถึงกับร่ำไห้ออกมา พร้อมกับคำกล่าว "ขอบคุณจริง ๆ สำหรับความเชื่อใจ"
ทุกชีวิตอาจเคยพบกับความผิดพลาด และคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้รับ “โอกาส” แต่เหนือไปกว่านั้น คือการมุ่งมั่น กลับมาทำให้โอกาสที่ได้รับนั้น กลายเป็นความหวัง ความสำเร็จ ที่ดีกว่าเดิม…
Did You Know
ที่ผ่านมา ในโลกฟุตบอล เคยมีนักเตะที่ได้รับโทษโดนแบนยาวตลอดชีวิต เขาคือ โอลาฟูร์ กอตต์สคาลค์สัน ซึ่งเป็นผู้รักษาประตูของทีมทอร์คีย์ ยูไนเต็ด เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 2005 โอลาฟูร์ หลีกเลี่ยงการตรวจสอบสารกระตุ้น เนื่องจากเขาติดโคเคน ก่อนจะหายตัวไปจากสโมสร
ต่อมา โอลาฟูร์ ยอมรับผิดในการกระทำของเขา และแสดงความเสียใจต่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้น กระทั่งในเดือนมิถุนายน ปี 2005 คณะกรรมการวินัยอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ได้สั่งลงโทษแบนผู้รักษาประตูจากทีมทอร์คีย์ ยูไนเต็ดรายนี้ จากการแข่งขันฟุตบอลอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลให้เขาไม่ได้เล่นฟุตบอลอีกเลยนับตั้งแต่นั้น…