ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปักหมุดเทศกาล ‘แซนโฎนตา’ สารทเดือนสิบชาวไทย-เขมร


Lifestyle

พีรชัย พสุทันท์

แชร์

ปักหมุดเทศกาล ‘แซนโฎนตา’ สารทเดือนสิบชาวไทย-เขมร

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3128

ปักหมุดเทศกาล ‘แซนโฎนตา’ สารทเดือนสิบชาวไทย-เขมร


ทุกปี ชาวไทย-เขมรในหลายพื้นที่จะไหว้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษในเทศกาล ‘แซนโฎนตา’ 

เมืองไทยเรามีวันสารทหลัก ๆ อยู่ 2 วัน คือ ‘สารทไทย’ ที่ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 และ ‘สารทจีน’ ซึ่งจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 ตามปีปฏิทินทางจันทรคติจีน และอาจนับวัน ‘ฮาโลวีน’ สำหรับพี่น้องคริสตชนในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีด้วยก็ได้ หลัก ๆ แล้วประเพณีวันสารทเหล่านี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้คนทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษและดวงวิญญาณต่าง ๆ ที่คอยปกปักรักษา และแซนโฎนตาเองก็เป็นวันสารทอีกวันหนึ่งที่มีการสืบสานกระทำต่อกันมาในไทย 

Thai PBS จึงขอพาทุกคนมาทำความรู้จักแซนโฎนตาแบบคร่าว ๆ พร้อมชี้พิกัดงานเทศกาลแซนโฎนตาที่นักท่องเที่ยวสามารถไปสัมผัสด้วยตัวเองครับ

บรรยากาศเทศกาลแซนโฎนตา ปี 2567 (ภาพจาก: Facebook เพจขุขันธ์ทูเดย์)

แซนโฎนตา กับพิธีกรรมแห่งความผูกพันในครอบครัวชาวไทย-เขมร

ไงแซนโฎนตา เป็นภาษาเขมร ประกอบด้วย 3 คำ คือ ‘ไง’ ที่แปลว่า วัน ‘แซน’ อันหมายถึงการเซ่นไหว้หรือการบวงสรวง และ ‘โฎนตา’ ที่แปลว่า ตายายปู่ย่า แซนโฎนตา จึงเป็นวันไหว้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษและคนในครอบครัวที่ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง และแซนโฎนตา – หรือที่บางคนอาจเรียกว่า ‘สารทเขมร’ – จะตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี โดยปี 2568 นี้ จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 

เช่นเดียวกับความเชื่อเบื้องหลังวันสารทในวัฒนธรรมอื่น ๆ แซนโฎนตาเป็นวันที่ยมบาลได้ปลดปล่อยวิญญาณให้กลับขึ้นมาบนโลกมนุษย์เพื่อเยี่ยมเยียนพร้อมรับส่วนบุญส่วนกุศลจากลูกหลานและญาติพี่น้อง ในแง่หนึ่ง แซนโฎนตาจึงสะท้อนให้เห็นถึงความกตัญญูของคนเป็นที่มีต่อครอบครัวผู้ล่วงลับของตัวเอง และในโอกาสเดียวกันนี่เอง สมาชิกในครอบครัวที่อยู่ห่างไกล ก็จะได้กลับมาแสดงความเคารพแก่พ่อแม่และผู้เฒ่าผู้แก่คนอื่น ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมทำนุบำรุงพุทธศาสนา จึงเรียกพิธีกรรมโดยรวมว่า ‘บ็อนแซนโฎนตา’

ชาวบ้านกำลังเตรียมขนม เพื่อประกอบประเพณีแซนโฎนตาที่จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2567 (ภาพจาก: จับตารอบทิศ – 3 ต.ค. 67)

ตามธรรมเนียมดั้งเดิม บ็อนแซนโฎนตากินเวลา 17 วัน คือตั้งแต่วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 10 ไปจนถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งแต่ละท้องถิ่นอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันไป แต่พิธีกรรมสำคัญ ๆ ของแซนโฎนตา ได้แก่

1) วันเบ็ณฑ์ตู๊จ ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 10 (หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ตามความเชื่อในบางพื้นที่) หลัก ๆ แล้ว ชาวบ้านจะเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่บ้านและนำภัตตาหารพร้อมเครื่องปัจจัยธรรมไปถวายพระสงฆ์ที่วัด ถือเป็นประกาศให้ทั้งคน พระ ยมบาล และดวงวิญญาณได้รับรู้ว่า งานบุญแซนโฎนตาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

2) วันกันซ็อง ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 (หรือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ตามความเชื่อในบางพื้นที่) คําว่า ‘กัน’ หมายถึง ปฏิบัติ และ ‘ซ็อง’ หมายถึง พระสงฆ์ ชาวบ้านจะไปถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์สามเณรที่วัด พร้อมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันกันซ็องไปจนถึงวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ผู้คนในชุมชนจะจัดเวรกันไปเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพระและทำบุญที่วัด ‘ทุกวัน’ โดยถือเป็นการพักหลังฤดูฝนไปในตัวหลังจากที่เพาะปลูกพืชพันธุ์เสร็จแล้ว รอเพียงเวลาเก็บเกี่ยวเท่านั้น

ชาวบ้านกำลังเตรียมสำรับ เพื่อประกอบประเพณีแซนโฎนตาที่จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2567 (ภาพจาก: จับตารอบทิศ – 3 ต.ค. 67)

3) วันแซนโฎนตา ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 นับเป็นวันสารทใหญ่ ทุกคนต้องกลับมาหาครอบครัวที่บ้านเกิดเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง พิธีกรรมวันแซนโฎนตาแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงเช้าที่เรียกว่า ‘ฉลองซ็อง’ หรือการทำบุญแด่พระสงฆ์ที่วัดหลังจบช่วงกันซ็อง และช่วงบ่ายซึ่งเป็นการเซ่นไหว้บรรพบุรุษตามชื่อ ‘แซนโฎนตา’ โดยของไหว้มักจะประกอบไปด้วยสิ่งเหล่านี้ 

  • กรวยดอกไม้ 5 กรวย หรือที่เรียกว่าขันธ์ 5 ใส่พานพร้อมทั้งเงินทองของมีค่า
  • เสื้อผ้าใหม่ ผ้าโสร่ง และผ้าซิ่นไหมที่ยังไม่ได้ใช้ 1 สำรับพร้อมแป้งหอม น้ำหอม น้ำอบ หวี กระจก
  • สำรับกับข้าวต่าง ๆ 1 สำรับ อาจมีเป็ดต้ม 1 ตัว ไก่ต้ม 1 ตัว หรืออาจมีหัวหมูด้วยตามแต่ฐานะ
  • ขนมต่าง ๆ ได้แก่ ขนมข้าวต้มห่อด้วยใบมะพร้าวอ่อน ขนมข้าวต้มหมู ข้าวต้มมัด ขนมเทียน ขนมใส่ไส้ ขนมกันเตรือม ขนมกันตางราง ขนมนางเล็ด ขนมไข่หงส์ ขนมข้าวเกรียบ ขนมข้าวพอง
  • ผลไม้ต่าง ๆ โดยขาดมะพร้าวอ่อนและกล้วยน้ำว้าสุกไม่ได้
  • น้ำดื่ม สุรา และเครื่องดื่มอื่น ๆ ตามแต่เห็นสมควร
  • เทียน 2 เล่ม จุดไว้ไม่ให้ดับ
  • กระถางธูปและธูปไว้สำหรับจุดเวลาเซ่นและจะใช้ปักไว้ตามจานอาหารด้วย

หลังเซ่นไหว้ดวงวิญญาณเรียบร้อยแล้ว ลูกหลานและผู้น้อยก็จะพูดคุยกับพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ อาจนำมะพร้าว ข้าวสารเหนียว ขนม ขนมต้ม พร้อมเงินจำนวนหนึ่งมอบให้ผู้เฒ่าผู้แก่เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที กิจกรรมนี้เรียกว่า ‘จูนโฎนตา’ โดยคำว่า ‘จูน’ หมายถึง ส่ง ไหว้ หรือมอบ พอพลบค่ำ ครอบครัวจะประกอบพิธี ‘กันเจอโฎนตา’ หรือกระเชอยายตา ไปทำพิธีสวดมนต์ที่วัดแห่งเดียวกับที่บรรพบุรุษเคยไปทำบุญเป็นประจำเมื่อตอนมีชีวิตอยู่ ด้วยเชื่อว่าดวงวิญญาณจะไปรอที่วัดแห่งเดิม พอพิธีสวดมนต์เสร็จสิ้น ก็อาจมีการเป่าขี่พร้อมขับลำนำแฝงคติสอนใจให้ผู้เฒ่าผู้แก่ฟัง ส่วนชายหนุ่มนั้นจะร้องรำเจรียงซันตู๊จ (เพลงตกเบ็ด) เกี้ยวพาราสี และใช้กล้วยขนมข้าวต้มเป็นเหยื่อผูกไม้เรียวยาวเล็ก ๆ เป็นคันเบ็ดจีบหญิงสาวไปด้วย

ตัวอย่างของเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ประเพณีแซนโฎนตาที่จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2567 (ภาพจาก: จับตารอบทิศ – 3 ต.ค. 67)

4) วันจะกันเจอโฎนตา ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ชาวบ้านจะกลับไปที่วัดอีกครั้งเพื่อทำบุญให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ พร้อเทอาหารในกระเชอให้ผีบรรพบุรุษกินอีกครั้งก่อนกลับยมโลก อีกทั้งชาวบ้านจะต้องเตรียม ‘บายเบ็ณฑ์’ หรือ ‘พลี’ สำหรับการบวงสรวงซึ่งทำจากข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้าปรุงพิเศษ หลังจบงานก็จะนำบายเบ็ณฑ์ไปหว่านในไร่นาเพื่อความอุดมสมบูรณ์ และอุทิศส่วนกุศลให้ผีบรรพบุรุษ คล้ายกับการกรวดน้ำนั่นเอง

ชาวบ้านทำบุญที่วัด ประเพณีแซนโฎนตาที่จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2566 (ภาพจาก: นักข่าวพลเมือง – ข่าวค่ำ – 21 ต.ค. 66)

พิกัดงานแซนโฎนตา 2568 เทศกาลสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในไทย

การเซ่นไหว้บรรพบุรุษแซนโฎนตายังคงพบได้ในจ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษเป็นหลัก เนื่องจากยังคงมีชาวไทย-เขมรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และยังคงสืบทอดรักษาธรรมเนียมเก่าแก่เอาไว้ แม้แต่สถานศึกษาเองก็เป็นสื่อกลางช่วยถ่ายทอดพิธีกรรมให้คงอยู่ทั้งในระดับชุมชนและประเทศ เช่น โรงเรียนบ้านตรำดม ต.ตรำดม อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนรู้จักขั้นตอนการเตรียมแซนโฎนตาในช่วงเวลาที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในปี 2564 หรือย้อนไปในปี 2559 มีการเผยแพร่วิทยานิพนธ์จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ศึกษาบทบาทและการประกอบสร้างของแซนโฎนตาในจ.สุรินทร์ โดยเฉพาะ

บรรยากาศเทศกาลแซนโฎนตาในอ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 2559 (ภาพจาก: นักข่าวพลเมือง – ข่าวเที่ยง – 13 พ.ย. 59)

ปัจจุบัน แซนโฎนตายังเป็น ‘เทศกาลท่องเที่ยว’ ให้ผู้คนจากทั่วสารทิศได้มาสัมผัส นอกจากจะช่วยสืบสานประเพณีของชาวไทย-เขมรให้คงอยู่ต่อไปแล้ว ก็ยังสร้างมนต์เสน่ห์เฉพาะของชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเมืองไทยอีกด้วย

หากพูดถึงเทศกาลงานบุญแซนโฎนตาที่มีชื่อเสียง ก็คงจะเป็นงานในจ.บุรีรัมย์ และอ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ โดยปกติแล้ว ชาวเมืองจะแห่ขบวนของเซ่นไหว้ และทำพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองก่อนวันแซนโฎนตาจริง เพื่อไม่ให้กระทบกับพิธีกรรมดั้งเดิมที่ครอบครัวชาวไทย-เขมรปฏิบัติกันมาในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10  

บรรยากาศเทศกาลแซนโฎนตาในอ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 2559 (ภาพจาก: นักข่าวพลเมือง – ข่าวเที่ยง – 13 พ.ย. 59)

ปี 2568 นี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และเทศบาลตำบลเมืองขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ กำหนดจัดงานประเพณีแซนโฎนตาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 ตรงกัน นอกจากนี้ งานของอ.ขุขันธ์จะจัดเป็นเทศกาลใหญ่นาน 9 วัน ระหว่างวันที่ 15-23 กันยายน 2568 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: เพจขุขันธ์ทูเดย์ ส่วนรายละเอียดของงานประเพณีแซนโฎนตาที่จ.สุรินทร์นั้น จะประกาศให้ทราบภายหลัง โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook: องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์

ทั้งหมดนี้คือเกร็ดความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับประเพณีแซนโฎนตาของพี่น้องชาวไทย-เขมรครับ แม้จะมีคำศัพท์ที่ไม่คุ้นหูและขั้นตอนบางอย่างที่แตกต่างออกไป แต่แก่นหลักของแซนโฎนตาคือการแสดงความเคารพต่อครอบครัว – ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และวายชนม์ไปแล้ว – ไม่ต่างจากวันสารทของผู้คนเชื้อชาติอื่น ๆ อีกทั้งประเพณีแซนโฎนตายังสะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยโอบรับคนทุกกลุ่มและทุกความเชื่อเสมอมา จนกลายเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สามารถต่อยอดและสร้างประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชนได้

ติดตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้องจากเครือ Thai PBS

ประเพณีแซนโฎนตาที่จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2566 (ภาพจาก: นักข่าวพลเมือง – ข่าวค่ำ – 21 ต.ค. 66)

อ้างอิง

  • แซนโฎนตา, คลังข้อมูลชุมชน
  • "ประเพณีเดือน 10 : ประเพณีแซนโฎนตา", มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ
  • ประเพณีแซนโฎนตาบูชาบรรพบุรุษ จังหวัดสุรินทร์: การประกอบสร้างและบทบาทของประเพณีประดิษฐ์ [วิทยานิพนธ์ โดย สารภี ขาวดี, คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]
  • ไงแซนโฎนตา (สารทชาวไทยเชื้อสายเขมร), พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์
  • Facebook: องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์
  • Facebook: เพจขุขันธ์ทูเดย์

ติดตามบทความและเรื่องราวทันทุกกระแสที่ Thai PBS NOW: www.thaipbs.or.th/now

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ประเพณีภาคอีสานแซนโฎนตาไทย-กัมพูชาวันสารทเดือนสิบ
พีรชัย พสุทันท์

ผู้เขียน: พีรชัย พสุทันท์

ศิษย์เก่าอักษร จุฬาฯ และโปรแกรมปริญญาโททุน EU ด้านวรรณกรรมยุโรปในฝรั่งเศสและกรีซ ผู้ชอบพาตัวเองไป (หลง) อยู่ในกระแสพหุวัฒนธรรม และเปิดเพลง ABBA ประโลมชีวิตทุกครั้งที่เขียนงาน | porrorchor.com

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด