“ถ้าเผื่อเราไม่ทำตอนนี้ สถานการณ์ของปัญหาของประเทศจะเกิดขยายตัวมากยิ่งขึ้น น่าจะมีปัญหากว่า ถ้าเราไม่ทำ”
ข้อความข้างต้นคือส่วนหนึ่งของถ้อยแถลงจาก “พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. และผู้บัญชาการทหารบกในเวลานั้น ได้กล่าวเอาไว้ หลังทำการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการของ “ทักษิณ ชินวัตร” ในวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ถือเป็นการรัฐประหารที่ลงมือสำเร็จเป็นครั้งที่ 12 นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475
Thai PBS ขอชวนผู้อ่านทุกท่านย้อนเวลากลับไปยังอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองไทย ร่วมไล่เรียงลำดับเวลาขัดแย้ง สำรวจฉากทัศน์ของการเมืองในยุคนั้นว่ามีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก่อนที่การรัฐประหารจะเริ่มขึ้น
ก่อนรัฐประหาร สัญญาณแห่งความขัดแย้ง
ก่อนที่การรัฐประหารจะเกิดขึ้น ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยได้ก่อตัวและทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ ความขัดแย้งดังกล่าวเกิดจากกระแสความไม่พอใจในการบริหารประเทศของของรัฐบาลทักษิณ ตั้งแต่ในช่วงกลางปี 2547 โดยมีเหตุการณ์สำคัญที่เป็นชนวนนำไปสู่การรัฐประหาร ดังนี้
- กันยายน 2548 จุดเริ่มต้นการเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวเริ่มต้นขึ้นจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล จัดการชุมนุมทางการเมืองภายใต้ชื่อ "เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร" โจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลทักษิณ โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชันและผลประโยชน์ทับซ้อน ต่อมากระแสการต่อต้านขยายเป็นวงกว้างในช่วงต้นปี 2549 สืบเนืองจากการขายหุ้นชินคอร์ปให้กับกลุ่มเทมาเส็กของสิงคโปร์
- 9 กุมภาพันธ์ 2549 ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กลุ่มพันธมิตรถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว หลังจากนั้นได้มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทักษิณตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ หลายครั้ง มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก สร้างแรงกดดันจนทำให้ทักษิณ ตัดสินใจประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 เมษายน 2549
- 2 เมษายน 2549 การเลือกตั้งที่ไม่เป็นผล แม้ว่าพรรคไทยรักไทยของทักษิณจะชนะการเลือกตั้ง ทักษิณประกาศว่าได้รับคะแนนเสียงมากถึง 16 ล้านเสียง แต่ความคัดแย้งยังคงอยู่ พร้อมกับข้อครหาในเรื่องความโปร่งใสของการเลือกตั้ง กลุ่มพันธมิตรประกาศไม่ยอมรับการเลือกตั้ง และจะชุมนุมต่อจนกว่าจะได้รับนายกที่มาจากการแต่งตั้ง
- 8 พฤษภาคม 2549 การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะ เนื่องจากกระบวนการจัดการเลือกตั้งและการหันคูหามิชอบ และสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองยิ่งเข้าสู่ทางตันมากยิ่งขึ้น
- สิงหาคม 2549 ข่าวลือรัฐประหาร สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองยังคงดำเนินต่อไป พร้อมข่าวลือเรื่องการรัฐประหารที่แพร่สะพัด สืบเนื่องจากกรณีคาร์บอมบ์เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2549 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พล.อ.สนธิ ก็ได้ให้คำยืนยันว่าจะไม่มีการปฏิวัติ หลังจากนั้นในเดือนกันยายน ทักษิณได้เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ไทม์ไลน์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 วันยึดอำนาจ
ในวันที่ 19 กันยายน 2549 ก่อนเกิดการรัฐประหาร สถานการณ์เริ่มมีความตึงเครียดถึงขีดสุดท่ามกลางกระแสรัฐประหารที่ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ในเวลาดังกล่าวทักษิณเดินทางไปนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
- ช่วงเช้า มีคำสั่งจากทักษิณ เรียกผู้นำทุกเหล่าทัพทุกเข้าประชุมกับคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบ ปรากฏว่าไม่มีผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ยกเว้น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ข่าวลือเรื่องการรัฐประหารมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าที่เคย
- ช่วงเย็น - ช่วงค่ำ มีรายงานข่าวเรื่องการเคลื่อนกำลังทหารและรถถังจากหน่วยทหารในต่างจังหวัด เช่น กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ปราจีนบุรี) และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ลพบุรี) เข้าสู่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นกองกำลังดังกล่าว ได้เข้าควบคุมสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ถนนราชดำเนิน สะพานมัฆวานรังสรรค์ แยกเกียกกาย สนามม้านางเลิ้ง
- เวลาประมาณ 22.15 น. สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทักษิณ ซึ่งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ติดต่อกลับมายังประเทศไทย และมีคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 พร้อมสั่งย้าย พล.อ.สนธิ ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้าผู้ปฏิบัติตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยังไม่ทันจะแถลงการจบสัญญาณของสถานีก็ถูกตัดไปเสียก่อน
- เวลาประมาณ 23.50 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยได้ออกอากาศสดจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 พร้อมเปิดเพลงมาร์ชราชวัลลภก่อนเข้ารายการ หลังจากนั้น พล.ต.ประพาศ ศกุนตนาค โฆษกกองทัพบกในขณะนั้น ได้อ่าน ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 1 ระบุถึงเหตุผลความจำเป็นในการเข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศ เน้นย้ำเรื่องปัญหาความแตกแยกในสังคม การทุจริตประพฤติมิชอบ และการกระทำที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่เข้ามาเป็นผู้บริหารแผ่นดิน ประกาศดังกล่าวทำให้การทำหน้าที่ของรัฐบาลสิ้นสุดลงทันที
หลังรัฐประหาร จุดเปลี่ยนการเมืองไทย
แม้ว่าการรัฐประหารของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกินขึ้น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างผลกระทบต่อสถานการณ์การเมืองไทย สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครคาดคิดให้เกิดขึ้นอีกหลายเหตุการณ์ตามมา
- 30 พฤษภาคม 2550 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค 111 คน เป็นเวลา 5 ปี
- 23 ธันวาคม 2550 จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง โดยพรรคพลังประชาชน ได้รับคะแนนเสียงข้างมาก จึงนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยมี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี
- 25 พฤษภาคม 2551 กลุ่มพันมิตรชุมนุมใหญ่ มีจุดประสงค์ในการขับไล่รัฐบาล เพราะมองว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับทักษิณ
- 9 กันยายน 2551 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้าดำรงตำแหน่งแทน
- 24 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม กลุ่มพันธมิตรยังคงชุมนุมต่อเนื่อง โดยมีการยกระดับการชุมนุมด้วยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง
- 2 ธันวาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ในข้อหาทุจริตการเลือกตั้ง ส่งผลให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
- 15 ธันวาคม 2551 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม จัดตั้งรัฐบาลผสม ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ
- มีนาคม 2553 การชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภา
- 19 พฤษภาคม 2553 เหตุการณ์บานปลายสู่ความรุนแรง เกิดเหตุเผาอาคารหลายแห่งในกรุงเทพฯ มีการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมใน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
- 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยที่นำโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้ง ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเป็นพรรคที่มีส่วนผสมของพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน
- พฤศจิกายน 2556 การชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลและเสนอให้มี “การปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง”
- 7 พฤษภาคม 2557 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบ
- 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในนาม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศ รัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองประเทศ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่เหตุการณ์ทางการเมืองบางส่วนที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จะเห็นได้ว่าความวุ่นวายของการเมืองไทยไม่ได้มีทีท่าจะลดลาวาศอกลงแม้แต่น้อย มีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ และใช้เวลาเพียงแค่ 8 ปี (19 กันยายน 2549 - 22 พฤษภาคม 2557) การรัฐประหารก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งก็ยังคงส่งผลสืบเนื่องมายังเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ ในทศวรรษต่อมาเช่นเดียวกัน
ติดตามอ่านเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร
- รัฐประหาร "รัฐบาลทักษิณ" 19 กันยายน 2549 จากวันโค่นอำนาจ สู่วันคืนแผ่นดินเกิด
- 33 ปี รัฐประหาร รสช. ศึกชิงอำนาจที่นำไปสู่ “พฤษภาทมิฬ”
- สถิติรัฐประหารทั่วโลก ปี 2493-2565 ไทยติดอันดับ 2 ทำสำเร็จมากที่สุด
- "ทักษิณ ชินวัตร" กราบแผ่นดินครั้งแรก หลังลี้ภัยในต่างแดน จากเหตุรัฐประหาร
อ้างอิง
- เกิดอะไรขึ้นบ้างก่อน-หลัง “รัฐประหาร 19 ก.ย.49” จากปรากฎการณ์ไล่ทักษิณ ถึง ผลไม้พิษ คมช., มติชน สุดสัปดาห์
- รัฐประหาร 19 กันยายน 2549, ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า