“ร่องมรสุม” พาดผ่านเป็นคำคุ้นเคยที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ฝนตกอย่างหนักหน่วง
Thai PBS ชวนรู้จัก “ร่องมรสุม” ให้มากขึ้น เหตุใดจึงทำให้ฝนตกหนักแม้ใกล้ผ่านช่วงหน้าฝนมาแล้วก็ตาม และควรรับมืออย่างไรในช่วงที่ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทย
ร่องมรสุมเกิดจากอะไร ?
ร่องมรสุม มีอีกชื่อว่า ร่องความกดอากาศต่ำ มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษหลายชื่อ เช่น Intertropical Convergence Zone, Equatorial Trough, Monsoon Trough มีความหมายถึงโซนหรือแนวแคบ ๆ ที่ลมค้าหรือลมเทรด (Trade Wind) ซึ่งเป็นลมประจำปีในเขตร้อนที่จะพัดอยู่ทั้ง 2 ซีกโลก ถือเป็นลมระดับใหญ่ชนิดหนึ่ง
ทำความเข้าใจอย่างง่าย ๆ ลมค้าเป็นลมขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นลมประจำฤดู พัดจากทิศตะวันออกไปตะวันตก ธรรมชาติที่ทิศทางลมแรงนี้เอง ที่ทำให้เกิดการเดินเรือค้าขายจากตะวันออกสู่ตะวันตก หรือก็คือจากยุโรปไปยังแอฟริกา จึงได้มีการตั้งชื่อสายลมประจำปีนี้ว่า ลมค้า หรือ Trade Wind ซึ่งมีความหมายรวมนิยามทั้งการเป็นเส้นทางเดินเรือและการค้าขาย
ทั้งนี้ ลมค้าจะแบ่งเป็นลมค้าที่พัดในแนวนอนของซีกโลกเหนือ และลมค้าที่พัดในนอนแนวของซีกโลกใต้ โดยลมค้าเหล่านี้ถือเป็นลดประจำฤดู ซึ่งมีชื่ออีกเรียกว่าลมมรสุม (Monsoon) และบริเวณตรงกลางเส้นศูนย์สูตรที่ลมค้าจาก 2 ซีกโลกพัดมาบรรจบกัน จึงมีชื่อเรียกว่า “ร่องมรสุม” นั่นเอง
ร่องมรสุมส่งผลอย่างไร ? ทำไมทำให้ฝนตกหนัก ?
ร่องมรสุม มักมีลักษณะเป็นแนวพาดขวางในทิศตะวันออก-ตะวันตก มักจะอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรโดยจะเลื่อนขึ้นลงได้ตามแนวโคจรของดวงอาทิตย์ การที่ร่องมรสุมเกิดจากการบรรจบกันของลมค้าทางเหนือและใต้ ทำให้บริเวณพื้นที่ที่มีความกดอากาศต่ำ ลมพัดแรงเข้าสู่ศูนย์กลาง เกิดการยกตัวของอากาศ หากบริเวณนั้นมีความชื้นสูง จะเกิดการก่อตัวของเมฆและฝน เป็นผลให้เกิดเมฆมาก เกิดฝนตกหนักและหนาแน่นจนถึงพายุฟ้าคะนองได้
ลักษณะของร่องมรสุมที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่ร่องมรสุมพาดผ่านนั่นเอง ในส่วนของประเทศไทยโดยปกติแล้วร่องมรสุมจะค่อย ๆ เข้ามาจากภาคใต้ในช่วงเดือนเมษายน - ตุลาคม ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนกลางของประเทศไทยนั่นเอง
จากนั้นร่องมรสุมจะเคลื่อนผ่านไปทางเหนือ จึงเกิดฝนทิ้งช่วงในช่วงเดือนกรกฎาคม ก่อนที่ในช่วงเดือนสิงหาคมร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาอีกครั้ง ทำให้เกิดฝนตกหนัก จนถึงเดือนธันวาคมนั่นเองที่ร่องมรสุมที่เคลื่อนผ่านประเทศไทยและเข้าสู่หน้าหนาว อย่างไรก็ตาม การเลื่อนขึ้นลงของร่องมรสุมจะเป็นไปตามแนวโคจรของดวงอาทิตย์ที่อาจจะล่าช้าได้ราว 1 – 2 เดือน
การเคลื่อนของร่องมรสุมในแต่ละปีจึงอาจห่างกันได้ และทำให้เกิดภัยพิบัติที่ทุกคนจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือ

ร่องมรสุมรับมืออย่างไร ?
ร่องมรสุมถือเป็นสาเหตุสำคัญของฝนตกหนักรวมถึงน้ำท่วมถือเป็นภัยพิบัติที่ต้องรับมือ กรมอุตุนิยมวิทยาจะมีการประกาศเพื่อเตือนภัย ทั้งระดับของการเตรียมตัวและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นชุดความรู้เพื่อรับมือร่องมรสุมควรใช้ชีวิตอย่างไรในช่วงเวลานี้ และควรเตรียมตัวอย่างไรไว้บ้าง
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับร่องมรสุมอยู่เสมอ โดยติดตามประกาศเตือนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่หรือกรมอุตุนิยมวิทยา ผ่านเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องเดินทางด้วยเรือในบริเวณชายฝั่งควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
พกอุปกรณ์กันฝนอยู่เสมอ ร่มและเสื้อกันฝนคือของ 2 ชิ้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่ฝนตกบ่อย ควรพกติดตัวไว้เสมอเมื่อต้องออกจากบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เปียกฝน ซึ่งอาจนำไปสู่อาการเจ็บป่วยได้
ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ฝนตกทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะป่วยได้ง่ายขึ้น หากเปียกฝนควรอาบน้ำสระผมเพื่อลดโอกาสที่จะเป็นป่วย ล้างมืออย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่เกิดได้ง่าย
จดหมายเลขโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน
โทร. 1784 สายด่วนแจ้งเตือน สาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
โทร. 1146 ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท สอบถามเส้นทางน้ำท่วม
โทร. 1460 กรมชลประทาน สอบถามข้อมูลน้ำในเขื่อน
โทร. 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
โทร. 1677 เครือข่ายอาสาสมัครวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน
โทร. 1111 กด 5 ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) สายด่วนรับแจ้ง-เตือนภัยน้ำท่วม
โทร. 1193 ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วม
โทร. 1182 กรมอุตุนิยมวิทยา
ศึกษาแนวทางการอพยพและแผนปฏิบัติกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินของหมู่บ้าน หรือชุมชน โดยแต่ละหน่วยงานท้องถิ่นจะมีแผนการอพยพและจุดรวมพลที่ช่วยให้สามารถให้ความช่วยเหลือได้ง่ายยิ่งขึ้น
จัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็น ได้แก่ ถุงยังชีพ ประกอบไปด้วยน้ำสะอาด อาหารสำเร็จรูป หรือยาที่จำเป็นที่ช่วยให้สามารถยังชีพได้ 3 – 5 วัน นอกจากนี้ยังควรเตรียมอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ไฟฉาย แบตเตอรี่สำรอง โทรศัพท์มือถือ กรณีการติดต่อขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน
ร่องมรสุมถือเป็นสาเหตุสำคัญของฝนที่ตกหนักตามธรรมชาติ การเข้าใจและเตรียมตัวรับมืออย่างดีจะช่วยให้การมาของร่องมรสุมไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจได้
อ้างอิง
- กรมอุตุนิยมวิทยา



















