ย้อนรอยไทย "เจ้าภาพกีฬาซีเกมส์"

ซีเกมส์ 2025 ประเทศไทยได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง โดยเป็นการได้รับสิทธิเป็นครั้งที่ 7 ซึ่งถือเป็นประเทศที่ได้รับสิทธิการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์มากที่สุด ไปดูกันว่า ที่ผ่านมา การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ของประเทศไทย มีเรื่องราวใดที่น่าสนใจบ้าง

ประเทศไทย “เจ้าภาพกีฬาซีเกมส์” 7 ครั้ง มีครั้งใดบ้าง ?

ประเทศไทยได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ทั้งหมด 7 ครั้ง โดยหนแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2502 ในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นชื่อเดิมของกีฬาซีเกมส์ ต่อมาได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 พ.ศ. 2510

ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาแหลมทองครั้งที่ 1

ผ่านไปอีก 8 ปี ประเทศไทยได้รับสิทธิอีกครั้งในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 8 พ.ศ. 2518 ก่อนที่ใน พ.ศ. 2528 ประเทศไทยจะได้รับสิทธิอีกหน ซึ่งกีฬาแหลมทองถูกเปลี่ยนเป็นชื่อ กีฬาซีเกมส์ จากนั้นผ่านไปอีก 10 ปี ประเทศไทยก็ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 18 พ.ศ. 2538 และเป็นครั้งแรกที่จัดแข่งขันที่จังหวัดเชียงใหม่ และในปี พ.ศ. 2550 ประเทศไทยก็ได้รับเกียรติในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 24 โดยครั้งนั้น ได้รับการจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา

สำหรับซีเกมส์ครั้งล่าสุด ครั้งที่ 33 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย ครั้งนี้มี 3 จังหวัดเป็นแม่งานใหญ่ นั่นคือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา ทว่าจังหวัดสงขลา ได้รับการยกเลิกการใช้สถานที่แข่งขันไปเสียก่อน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่

ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเป็นเจ้าภาพอีกครั้้ง

ทำเนียบ “เจ้าภาพกีฬาซีเกมส์” นอกจากประเทศไทย มีประเทศใดอีกบ้าง ?

นอกจากประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์มา 7 ครั้ง ยังมีประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์เช่นกัน ได้แก่

มาเลเซีย 6 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2508, 2514, 2520, 2532, 2544, 2560
อินโดนีเซีย 4 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2522, 2530, 2540, 2554
สิงคโปร์ 4 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2516, 2526, 2536, 2558
ฟิลิปปินส์ 4 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2524, 2534, 2548, 2562
พม่า 3 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2504, 2512, 2556
เวียดนาม 2 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2546, 2564
บรูไน 1 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2542
ลาว 1 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2552
กัมพูชา 1 ครั้ง คือในปี พ.ศ. 2566

ประเทศไทย “เจ้าภาพกีฬาซีเกมส์” และเป็นเจ้าเหรียญทองร่วมด้วย

ประเทศไทยในซีเกมส์ ถือเป็นชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยประเทศไทยครองความเป็นเจ้าเหรียญทองในซีเกมส์ถึง 13 ครั้ง โดยใน 13 ครั้ง เป็นเจ้าเหรียญทองในฐานะเจ้าภาพซีกมส์ถึง 6 ครั้ง ได้แก่

ปี พ.ศ. 2502 เป็นเจ้าภาพกีฬาแหลมทองครั้งที่ 1 และเป็นเจ้าเหรียญทอง 35 เหรียญ จาก 12 ชนิดกีฬา
ปี พ.ศ. 2510 เป็นเจ้าภาพกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 และเป็นเจ้าเหรียญทอง 77 เหรียญ จาก 16 ชนิดกีฬา
ปี พ.ศ. 2518 เป็นเจ้าภาพกีฬาแหลมทองครั้งที่ 8 และเป็นเจ้าเหรียญทอง 80 เหรียญ จาก 18 ชนิดกีฬา
ปี พ.ศ. 2528 เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 13 และเป็นเจ้าเหรียญทอง 92 เหรียญ จาก 18 ชนิดกีฬา
ปี พ.ศ. 2538 เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 18 และเป็นเจ้าเหรียญทอง 157 เหรียญ จาก 28 ชนิดกีฬา
ปี พ.ศ. 2550 เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 24 และเป็นเจ้าเหรียญทอง 183 เหรียญ จาก 43 ชนิดกีฬา

ไทยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 24 ที่โคราช

ประเทศไทย “เจ้าภาพกีฬาซีเกมส์” และเกร็ดที่น่าสนใจ

กรุงเทพมหานคร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่ใช้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาซีเกมส์มากแห่งหนึ่ง แต่เมืองที่ได้รับการจัดกีฬาซีเกมส์มากที่สุดคือ กัวลาลัมเปอร์ ประทศมาเลเซีย ด้วยจำนวน 6 ครั้ง คือ ซีเกมส์ครั้งที่ 3 ปี พ.ศ. 2508, ซีเกมส์ครั้งที่ 6 ปี พ.ศ. 2514, ซีเกมส์ครั้งที่ 9 ปี พ.ศ. 2520, ซีเกมส์ครั้งที่ 15 ปี พ.ศ. 2532, ซีเกมส์ครั้งที่ 21 ปี พ.ศ. 2544, และซีเกมส์ครั้งที่ 29 ปี พ.ศ. 2560
ซีเกมส์ส่วนใหญ่มักใช้สถานที่จัดในเมืองหลวงของประเทศเจ้าภาพ แต่ในปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 18 ประเทศไทยที่ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพ ไม่ได้ใช้เมืองหลวงของประเทศเหมือนที่เคยเป็นมา แต่เลือกใช้จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ในการจัดซีเกมส์ในครั้งนั้น โดยเป็นครั้งแรกที่กีฬาซีเกมส์ไม่ได้ถูกจัดขึ้นในเมืองหลวง
ในซีเกมส์ครั้งที่ 24 ถือเป็นครั้งที่ประเทศไทยได้รับการเป็นเจ้าภาพหนที่ 6 และสามารถทำเหรียญทองได้มากที่สุดในทุก ๆ ครั้งที่ได้รับเป็นเจ้าภาพ อยู่ที่จำนวน 183 เหรียญ โดยถือเป็นท็อป 3 ของประเทศเจ้าภาพ ที่สามารถทำเหรียญทองได้มากที่สุดตลอดกาล รองจาก อินโดนีเซีย ที่ทำไว้ 194 เหรียญ ในซีเกมส์ครั้งที่ 19 ที่กรุงจาการ์ตา และเวียดนาม ที่ทำไว้ 205 เหรียญ ในซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย

อ่านบทความอื่น ๆ

รวมเรื่องราว "เหรียญทองซีเกมส์ไทย" ในความทรงจำ

ต้องติดตามกันว่า ประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 หลังจากที่ห่างเหินไปกว่า 18 ปี จะสามารถทำผลงานคว้าเหรียญทองได้จำนวนที่เท่าไร และนักกีฬาไทยจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน 9 – 20 ธันวาคม 2568 นี้ มีคำตอบรออยู่อย่างแน่นอน