สำรวจคุณค่าและนวัตกรรมของอาหารหมัก ซึ่ง ดร.อานง ใจแน่น ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ให้เห็นว่าอาหารหมักเป็นทั้งภูมิปัญญาการถนอมอาหารที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และเป็นแหล่งของจุลินทรีย์มีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโพรไบโอติกส์ ที่ได้จากกระบวนการหมัก ทำให้วัตถุดิบธรรมดากลายเป็นอาหารที่อร่อยและดีต่อร่างกาย
เมนูจากเชฟ: ถอดรหัสรสชาติและสุขภาพ
"โอชะล้านนา” เมนูจาก เชฟแตงโม (ร้านแสร้งว่า Thai Modern Cuisine):
ได้แรงบันดาลใจจากปลาส้ม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารของภาคเหนือ เชฟได้นำปลาเพี้ยมาหมักแบบดั้งเดิม จากนั้นนำไป Smoke ด้วยถ่านและเครื่องหอม ก่อนนำไปทอดให้กรอบ เสิร์ฟพร้อมข้าวแต๋นและน้ำแตงโม สร้างรสชาติที่ซับซ้อนและมีมิติมากขึ้น สะท้อนความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นผสมผสานกับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่
"Rice Bowl สลัด" เชฟก้อย (ร้านทานคลีน):
เชฟก้อยนำเสนอเมนู ตอบรับกระแสสุขภาพที่เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมนูนี้โดดเด่นด้วยการใช้ โคจิ (Koji) ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ในการหมักเนื้อหมูแบบ Slow Cook ทำให้หมูนุ่มและได้รสชาติอูมามิ นอกจากนี้ยังใช้ คอมบูชะ (Kombucha) ในสลัดผักดองที่ทำจากผักหัวอย่างไชเท้า เป็นการผสมผสานวัตถุดิบจากธรรมชาติและเทคนิคการหมักเพื่อสร้างสรรค์อาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ
อาหารหมัก จึงไม่ใช่แค่การถนอมอาหาร แต่เป็นงานศิลปะที่ใช้ "เวลา" และจุลินทรีย์สร้างสรรค์รสชาติที่ซับซ้อนและลึกซึ้ง พร้อมกับมอบประโยชน์ต่อสุขภาพ ทุกคำของอาหารหมักล้วนเป็นบทสนทนาระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นว่า เราไม่ได้กินแค่รสชาติ แต่เรากินกระบวนการของธรรมชาติ ซึ่งเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับรากเหง้าทางวัฒนธรรมและการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน
เตรียมอิ่มท้อง อิ่มใจ และได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของ "วัฒนธรรมที่กินได้" ไปพร้อมกันในรายการ Cook Culture วันอาทิตย์ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 08.00 - 08.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
สำรวจคุณค่าและนวัตกรรมของอาหารหมัก ซึ่ง ดร.อานง ใจแน่น ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ให้เห็นว่าอาหารหมักเป็นทั้งภูมิปัญญาการถนอมอาหารที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และเป็นแหล่งของจุลินทรีย์มีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโพรไบโอติกส์ ที่ได้จากกระบวนการหมัก ทำให้วัตถุดิบธรรมดากลายเป็นอาหารที่อร่อยและดีต่อร่างกาย
เมนูจากเชฟ: ถอดรหัสรสชาติและสุขภาพ
"โอชะล้านนา” เมนูจาก เชฟแตงโม (ร้านแสร้งว่า Thai Modern Cuisine):
ได้แรงบันดาลใจจากปลาส้ม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารของภาคเหนือ เชฟได้นำปลาเพี้ยมาหมักแบบดั้งเดิม จากนั้นนำไป Smoke ด้วยถ่านและเครื่องหอม ก่อนนำไปทอดให้กรอบ เสิร์ฟพร้อมข้าวแต๋นและน้ำแตงโม สร้างรสชาติที่ซับซ้อนและมีมิติมากขึ้น สะท้อนความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นผสมผสานกับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่
"Rice Bowl สลัด" เชฟก้อย (ร้านทานคลีน):
เชฟก้อยนำเสนอเมนู ตอบรับกระแสสุขภาพที่เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมนูนี้โดดเด่นด้วยการใช้ โคจิ (Koji) ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ในการหมักเนื้อหมูแบบ Slow Cook ทำให้หมูนุ่มและได้รสชาติอูมามิ นอกจากนี้ยังใช้ คอมบูชะ (Kombucha) ในสลัดผักดองที่ทำจากผักหัวอย่างไชเท้า เป็นการผสมผสานวัตถุดิบจากธรรมชาติและเทคนิคการหมักเพื่อสร้างสรรค์อาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ
อาหารหมัก จึงไม่ใช่แค่การถนอมอาหาร แต่เป็นงานศิลปะที่ใช้ "เวลา" และจุลินทรีย์สร้างสรรค์รสชาติที่ซับซ้อนและลึกซึ้ง พร้อมกับมอบประโยชน์ต่อสุขภาพ ทุกคำของอาหารหมักล้วนเป็นบทสนทนาระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นว่า เราไม่ได้กินแค่รสชาติ แต่เรากินกระบวนการของธรรมชาติ ซึ่งเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับรากเหง้าทางวัฒนธรรมและการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน
เตรียมอิ่มท้อง อิ่มใจ และได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของ "วัฒนธรรมที่กินได้" ไปพร้อมกันในรายการ Cook Culture วันอาทิตย์ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 08.00 - 08.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
แท็กที่เกี่ยวข้อง: