ค้นพบความลับของอาหารไทยสองเมนูยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและคนไทยต่างก็หลงรัก พร้อมเทคนิคการทำแบบละเอียดทุกขั้นตอนที่จะทำให้คุณเข้าใจถึงรายละเอียดของการทำอาหารที่ดี วันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสกับโภชนปัญญาของอาหารไทยผ่านการเรียนรู้วิธีทำผัดไทยและผัดกะเพราแบบมืออาชีพ
ผัดไทยคืออาหารไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักมากที่สุด เป็นเมนูที่แทนความเป็นไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ ผัดไทยเป็นอาหารจานที่มีเครื่องปรุงเยอะมาก และแต่ละอย่างล้วนมีรายละเอียดที่น่าสนใจ
เริ่มต้นจากส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้ ได้แก่ เส้นผัดไทยหรือเส้นจันท์ที่ต้องแช่น้ำก่อนใช้ กุ้งสดที่ต้องมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ กุ้งแห้งที่ต้องล้างน้ำก่อนผัด หอมแดงที่ต้องซอยหนาไม่ใช่บาง เต้าหู้ กุยช่าย ถั่วงอก หัวปลี และถั่วลิสงที่ต้องมาจากแหล่งที่มีคุณภาพ
สิ่งที่ทำให้ผัดไทยพิเศษคือ "มันกุ้งปรุง" ซึ่งต้องทำจากการบีบหัวกุ้งเพื่อเอาเฉพาะมัน โดยกุ้งที่เลือกใช้ต้องเป็นกุ้งธรรมชาติที่ไม่เลี้ยง จับด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง และไม่ใส่ฟอร์มาลีน การเลือกวัตถุดิบแบบนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่เราได้กินมีคุณภาพและปลอดภัย
"สามเกลอ" คือหัวใจสำคัญของอาหารไทยหลายเมนู ประกอบด้วย รากผักชี กระเทียม และพริกไทย เมื่อนำมาตำรวมกันจะเกิดรสชาติอุมามิธรรมชาติที่หอมกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นกระเทียมเด่นจนเกินไป แต่กลับมีความหอมนุ่มๆ ที่กลมกล่อม
การทำสามเกลอต้องใช้ครกตำให้ละเอียด แรงพอสมควรแต่ไม่แรงเกินไป สามเกลอนี้ไม่ได้ใช้แค่กับผัดไทย แต่สามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย เช่น ผัดผัก หมักหมู หมักเนื้อ ผัดกุ้ง หรือผัดหมึกกระเทียม เป็นเครื่องปรุงที่มีประโยชน์มาก
สามเกลอจะถูกนำไปผัดร่วมกับมันกุ้งเพื่อทำ "มันกุ้งปรุง" ที่จะใช้เป็นเครื่องปรุงสำหรับผัดไทย การผัดมันกุ้งกับสามเกลอจะทำให้ได้กลิ่นหอมเย้ายวนมาก จนอยากให้ทีวีมีกลิ่นได้ เพราะมันหอมจริงๆ
น้ำตาลที่ใช้ในการทำอาหารไทยก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะ "น้ำตาลไม่ขัดขาว" หรือน้ำตาลที่ไม่ได้ผ่านการขัดสีขาว มีสีแทนธรรมชาติ ให้รสหวานที่กลมกล่อมและมีแร่ธาตุมากกว่าน้ำตาลขาวทั่วไป
การปรุงมันกุ้งต้องปรุงรสจัดกว่าปกติ ทั้งเค็มและหวาน เพราะเป็นเครื่องปรุงที่จะใช้ผสมกับอาหาร ไม่ได้เอามากินโดยตรง มันกุ้งปรุงที่ทำเสร็จสามารถเก็บไว้ในกระปุกใส่ตู้เย็นได้อย่างน้อยสองอาทิตย์ แต่ในความเป็นจริงมันจะหมดก่อนเพราะอร่อยมากจนต้องตักมาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย
น้ำตาลมะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่สำคัญในผัดไทย ให้รสหวานที่มีเอกลักษณ์และกลมกล่อม ร่วมกับน้ำมะขามเปียกที่ให้รสเปรี้ยว และน้ำปลาที่ให้รสเค็ม ทำให้ผัดไทยมีรสชาติที่ครบทุกรส
การทำอาหารไทยให้อร่อยไม่ได้อยู่ที่การปรุงอย่างเดียว แต่การเตรียมวัตถุดิบก็สำคัญมาก เริ่มจากการหั่นหอมแดง ต้องซอยหนาไม่ใช่บาง เพราะจะนำไปผัด ถ้าซอยบางจะไหม้หมด ส่วนถ้าจะเอาไปเจียวจึงควรซอยบาง แต่สำหรับผัดไทยต้องซอยหนาแน่นอน
กุยช่ายต้องหั่นให้มีความยาวพอดีคำ ไม่ให้ยาวเกินช้อน เพราะเรากินผัดไทยด้วยช้อนและส้อม ไม่ใช่ตะเกียบ ถ้ายาวเกินไปจะทานไม่สะดวก กุ้งสดต้องปอกเปลือก นำไส้ออก และผ่าหลัง เมื่อลงไปทอด กุ้งจะเด้งงอตัวสวยงาม
กุ้งแห้งต้องล้างน้ำก่อนนำไปผัด เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตากที่ไหน มีความสะอาดแค่ไหน หลังจากล้างแล้วต้องผัดด้วยไฟเบา เพราะกุ้งแห้งมันแห้งอยู่แล้ว ถ้าใช้ไฟแรงจะไหม้ทันที เมื่อผัดจนกรอบแล้วจึงนำขึ้น
ผัดกะเพราเป็นอาหารไทยที่คนไทยชอบมากที่สุด เป็นเมนูที่เราสั่งเมื่อไปร้านอาหารตามสั่งแล้วคิดอะไรไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นกะเพราหมูสับ กะเพราทะเล หรือกะเพราผสม ต่างก็มีเสน่ห์ที่ทำให้คนติดใจ รสชาติของผัดกะเพราที่ดีต้องเป็นแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน บางคนชอบเผ็ดมาก บางคนชอบไม่เผ็ด บางคนชอบกลมกล่อมไม่เค็มมากและไม่หวานมาก แต่โดยทั่วไปแล้วกะเพราที่ดีต้องมีรสเผ็ดเค็มเป็นหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำกะเพราคือต้องใช้วัตถุดิบสดๆ โดยเฉพาะกระเทียมและพริก ต้องซอยหรือสับสดใหม่ทุกครั้ง ไม่ใช่ตำไว้ล่วงหน้า เพราะพริกและกระเทียมที่ตำไว้นานจะมีกลิ่นช้ำๆ ไม่หอม ไม่สดชื่น ทำให้กะเพราไม่อร่อย
สำหรับหมูที่ใช้ทำผัดกะเพรา ต้องเลือกหมูสับที่มีมันอยู่บ้าง ไม่ใช่หมูแดงล้วน เพราะจะทำให้กะเพราแห้งเกินไป การหั่นหมูแบบฉีกเล็กน้อยจะทำให้เนื้อหมูฟูขึ้นเมื่อลงไปผัด มีเนื้อสัมผัสที่ดีกว่าการสับให้ละเอียดเกินไป หากต้องการเพิ่มความชุ่มฉ่ำ สามารถเพิ่มกุ้งและหมึกสับลงไปด้วย สำหรับหมึกต้องเลือกที่สดและไม่โดนน้ำ ปลาหมึกที่ดีต้องไม่แช่น้ำ เพราะจะทำให้เนื้อเปื่อยและบวมน้ำ ถ้าหมึกเละแสดงว่าไม่สดแล้ว หลังจากทำความสะอาดปลาหมึก ต้องลอกเยื่อออก จากนั้นบั้งหมึกเพื่อไม่ให้เหนียว แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ เมื่อลงไปผัด หมึกจะหดตัวม้วนสวยงาม มีลวดลายซิกแซกที่น่ากิน
ใบกะเพราหรือโหระพาเป็นพืชตระกูลโหระพาที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีสรรพคุณช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ใครที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ การกินกะเพราจะช่วยบรรเทาอาการได้ กะเพรามีหลายแบบ มีทั้งสีเขียวและสีแดง บางคนบอกว่าแดงจะฉุนกว่า หอมกว่า แต่จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับว่ากะเพราปลูกที่ไหน เก็บเมื่อไหร่ เก็บในฤดูกาลใด หน้าร้อนหรือฤดูฝน สิ่งสำคัญคือควรเลือกกะเพราที่ปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง และไม่ใช้ปุ๋ยเคมี
การเตรียมกะเพราต้องซื้อมาเป็นก้าน แล้วนั่งเด็ดใบออกมาทีละใบ ส่วนที่เป็นก้านแข็งไม่ควรนำมาใช้ เพราะเคี้ยวไม่ได้ กะเพราที่ดีต้องใช้เป็นจำนวนมากในการผัด ต้องใส่ให้เพียงพอจึงจะอร่อย
กะเพราที่ถูกต้องต้อง "ฮัดชิ่ว" หรือการจาม คือการผัดด้วยไฟแรงอย่างรวดเร็ว เริ่มจากการใส่น้ำมันลงในกระทะให้ร้อน จากนั้นใส่กระเทียมที่ซอยสดๆ ลงไปผัดให้หอม ระวังอย่าให้ไหม้
ไข่ดาวเป็นของคู่หูที่ขาดไม่ได้ของผัดกะเพรา แต่ไข่ดาวแบบธรรมดาไม่เหมือนกับไข่ดาวแบบร้านอาหาร ความลับอยู่ที่การทอดในน้ำมันมากและไฟแรง
การทอดไข่ดาวแบบฟูต้องใช้น้ำมันร้อนจัด ตักน้ำมันร้อนราดลงบนตัวไข่ ทำให้ไข่ฟูขึ้นมา ขอบข้างนอกจะกรอบ แต่ข้างในยังนุ่ม ไข่แดงยังเยิ้มอยู่ เทคนิคนี้ต้องใช้ความชำนาญและความกล้า เพราะน้ำมันร้อนมากและอาจกระเด็น ไข่ดาวที่ทอดได้สมบูรณ์จะมีความฟู กรอบนอก นุ่มใน เมื่อทานคู่กับผัดกะเพราและข้าวสวยร้อนๆ รสชาติจะกลมกล่อมลงตัว หากรู้สึกว่าจืดไปหรือต้องการรสชาติเพิ่มเติม ก็มีน้ำปลาพริกไว้เติมได้ตามชอบ
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้อาหารไทยอร่อยและมีคุณภาพคือการเลือกวัตถุดิบจากแหล่งที่ดี เมื่อเราทำอาหารเอง เราสามารถเลือกได้ว่ากุ้งมาจากไหน มาจากพังงาหรือที่อื่น ใครเป็นคนจับ ใช้เครื่องมือจับอะไร กุ้งจากพังงาเป็นที่รู้จักว่าใช้เครื่องมือจับปลาที่ถูกต้อง จับขึ้นมาแล้วไม่ใส่ฟอร์มาลีน ทำให้เรามั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย นี่คือความแตกต่างระหว่างการสั่งอาหารกับการทำเอง เราเลือกไม่ได้ว่าจะได้กินอะไรเมื่อสั่ง แต่ถ้าทำเองเราเลือกทุกอย่างได้
การเดินทางสายกลางคือ เมื่อไหนที่เราเลือกได้ เราก็เลือก เมื่อไหนที่เลือกไม่ได้ เราก็กิน แต่สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจและตั้งคำถามว่า "อะไรมาจากไหน" และ "เอาอะไรให้เรากิน" เพราะสิ่งเหล่านี้สำคัญมากสำหรับผู้บริโภค
"โภชนปัญญา" คือความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่เรากิน ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่รวมถึงที่มาของวัตถุดิบ วิธีการปลูก การจับ การเก็บเกี่ยว กระบวนการผลิต และผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การทำอาหารทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าอาหารที่เราได้กินมีดีเทลเยอะแค่ไหน ตั้งแต่การเลือกกุ้งที่ไม่มีฟอร์มาลีน การเลือกผักที่ปลูกแบบอินทรีย์ การเลือกน้ำตาลที่ไม่ขัดขาว การใช้มันกุ้งที่บีบสดๆ ทุกขั้นตอนล้วนมีความหมายและมีผลต่อคุณภาพของอาหาร เมื่อเรารู้แล้ว เราจะเลือกให้ตัวเองได้ และเราจะไปเลือกให้คนที่เรารักได้ เราจะเริ่มตั้งคำถามมากขึ้นเมื่อไปกินอาหารข้างนอก เริ่มใส่ใจในรายละเอียด และเริ่มเลือกร้านที่ใส่ใจในวัตถุดิบเหมือนกับที่เราทำเอง
อาหารไทยมีความหลากหลายมาก ไม่ใช่แค่ผัดไทยและผัดกะเพรา ยังมีอีกมากมายทั้งแกง ยำ ต้ม ผัด ทอด อบ นึ่ง แต่ละภาคของไทยก็มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ถั่วที่ใช้ในผัดไทยอาจมาจากบ้านถิ่นเชียงใหม่
การเลือกกินอาหารไทยให้หลากหลายจะช่วยสนับสนุนเกษตรกรและผู้ผลิตในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ การใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ปลูกแบบอินทรีย์ จับด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง จะช่วยให้ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น
การทำอาหารไทยเองอาจจะดูยุ่งยาก ต้องเตรียมของเยอะ แต่เมื่อได้ลองทำแล้วจะพบว่ามันคุ้มค่ามาก ทั้งในแง่ของรสชาติที่ดีกว่า คุณภาพที่มั่นใจได้ และประสบการณ์ที่ได้รับ การได้เรียนรู้วิธีทำอาหาร ได้เห็นดีเทลของแต่ละขั้นตอน ได้เข้าใจว่ากว่าจะได้กินจานหนึ่งต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทำให้เราเห็นคุณค่าของอาหารมากขึ้น เราจะไม่ทิ้งอาหารง่ายๆ เราจะเลือกกินอย่างมีสติมากขึ้น เมื่อเรารู้แล้ว เราจะเลือกให้ตัวเองได้ เราจะไปเลือกให้คนที่เรารักได้ นี่คือเสน่ห์ของการทำอาหารที่นอกเหนือจากรสชาติ มันคือการดูแลตัวเองและคนที่เรารักอย่างแท้จริง
อาหารไทยทั้งผัดไทยและผัดกะเพราเป็นมากกว่าแค่อาหารอร่อยๆ จานหนึ่ง มันคือมรดกทางวัฒนธรรม เป็นภูมิปัญญาที่สะสมมานาน และเป็นสิ่งที่เราควรภูมิใจและสืบทอด การเรียนรู้วิธีทำอาหารไทยทำให้เราเข้าใจถึงความพิถีพิถันในการเตรียม รายละเอียดของแต่ละขั้นตอน และความสำคัญของการเลือกวัตถุดิบที่ดี มันทำให้เราเห็นคุณค่าของอาหารมากขึ้น และเริ่มตั้งคำถามว่า "อะไรมาจากไหน" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2568 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
ค้นพบความลับของอาหารไทยสองเมนูยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและคนไทยต่างก็หลงรัก พร้อมเทคนิคการทำแบบละเอียดทุกขั้นตอนที่จะทำให้คุณเข้าใจถึงรายละเอียดของการทำอาหารที่ดี วันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสกับโภชนปัญญาของอาหารไทยผ่านการเรียนรู้วิธีทำผัดไทยและผัดกะเพราแบบมืออาชีพ
ผัดไทยคืออาหารไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักมากที่สุด เป็นเมนูที่แทนความเป็นไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ ผัดไทยเป็นอาหารจานที่มีเครื่องปรุงเยอะมาก และแต่ละอย่างล้วนมีรายละเอียดที่น่าสนใจ
เริ่มต้นจากส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้ ได้แก่ เส้นผัดไทยหรือเส้นจันท์ที่ต้องแช่น้ำก่อนใช้ กุ้งสดที่ต้องมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ กุ้งแห้งที่ต้องล้างน้ำก่อนผัด หอมแดงที่ต้องซอยหนาไม่ใช่บาง เต้าหู้ กุยช่าย ถั่วงอก หัวปลี และถั่วลิสงที่ต้องมาจากแหล่งที่มีคุณภาพ
สิ่งที่ทำให้ผัดไทยพิเศษคือ "มันกุ้งปรุง" ซึ่งต้องทำจากการบีบหัวกุ้งเพื่อเอาเฉพาะมัน โดยกุ้งที่เลือกใช้ต้องเป็นกุ้งธรรมชาติที่ไม่เลี้ยง จับด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง และไม่ใส่ฟอร์มาลีน การเลือกวัตถุดิบแบบนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่เราได้กินมีคุณภาพและปลอดภัย
"สามเกลอ" คือหัวใจสำคัญของอาหารไทยหลายเมนู ประกอบด้วย รากผักชี กระเทียม และพริกไทย เมื่อนำมาตำรวมกันจะเกิดรสชาติอุมามิธรรมชาติที่หอมกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นกระเทียมเด่นจนเกินไป แต่กลับมีความหอมนุ่มๆ ที่กลมกล่อม
การทำสามเกลอต้องใช้ครกตำให้ละเอียด แรงพอสมควรแต่ไม่แรงเกินไป สามเกลอนี้ไม่ได้ใช้แค่กับผัดไทย แต่สามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย เช่น ผัดผัก หมักหมู หมักเนื้อ ผัดกุ้ง หรือผัดหมึกกระเทียม เป็นเครื่องปรุงที่มีประโยชน์มาก
สามเกลอจะถูกนำไปผัดร่วมกับมันกุ้งเพื่อทำ "มันกุ้งปรุง" ที่จะใช้เป็นเครื่องปรุงสำหรับผัดไทย การผัดมันกุ้งกับสามเกลอจะทำให้ได้กลิ่นหอมเย้ายวนมาก จนอยากให้ทีวีมีกลิ่นได้ เพราะมันหอมจริงๆ
น้ำตาลที่ใช้ในการทำอาหารไทยก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะ "น้ำตาลไม่ขัดขาว" หรือน้ำตาลที่ไม่ได้ผ่านการขัดสีขาว มีสีแทนธรรมชาติ ให้รสหวานที่กลมกล่อมและมีแร่ธาตุมากกว่าน้ำตาลขาวทั่วไป
การปรุงมันกุ้งต้องปรุงรสจัดกว่าปกติ ทั้งเค็มและหวาน เพราะเป็นเครื่องปรุงที่จะใช้ผสมกับอาหาร ไม่ได้เอามากินโดยตรง มันกุ้งปรุงที่ทำเสร็จสามารถเก็บไว้ในกระปุกใส่ตู้เย็นได้อย่างน้อยสองอาทิตย์ แต่ในความเป็นจริงมันจะหมดก่อนเพราะอร่อยมากจนต้องตักมาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย
น้ำตาลมะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่สำคัญในผัดไทย ให้รสหวานที่มีเอกลักษณ์และกลมกล่อม ร่วมกับน้ำมะขามเปียกที่ให้รสเปรี้ยว และน้ำปลาที่ให้รสเค็ม ทำให้ผัดไทยมีรสชาติที่ครบทุกรส
การทำอาหารไทยให้อร่อยไม่ได้อยู่ที่การปรุงอย่างเดียว แต่การเตรียมวัตถุดิบก็สำคัญมาก เริ่มจากการหั่นหอมแดง ต้องซอยหนาไม่ใช่บาง เพราะจะนำไปผัด ถ้าซอยบางจะไหม้หมด ส่วนถ้าจะเอาไปเจียวจึงควรซอยบาง แต่สำหรับผัดไทยต้องซอยหนาแน่นอน
กุยช่ายต้องหั่นให้มีความยาวพอดีคำ ไม่ให้ยาวเกินช้อน เพราะเรากินผัดไทยด้วยช้อนและส้อม ไม่ใช่ตะเกียบ ถ้ายาวเกินไปจะทานไม่สะดวก กุ้งสดต้องปอกเปลือก นำไส้ออก และผ่าหลัง เมื่อลงไปทอด กุ้งจะเด้งงอตัวสวยงาม
กุ้งแห้งต้องล้างน้ำก่อนนำไปผัด เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตากที่ไหน มีความสะอาดแค่ไหน หลังจากล้างแล้วต้องผัดด้วยไฟเบา เพราะกุ้งแห้งมันแห้งอยู่แล้ว ถ้าใช้ไฟแรงจะไหม้ทันที เมื่อผัดจนกรอบแล้วจึงนำขึ้น
ผัดกะเพราเป็นอาหารไทยที่คนไทยชอบมากที่สุด เป็นเมนูที่เราสั่งเมื่อไปร้านอาหารตามสั่งแล้วคิดอะไรไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นกะเพราหมูสับ กะเพราทะเล หรือกะเพราผสม ต่างก็มีเสน่ห์ที่ทำให้คนติดใจ รสชาติของผัดกะเพราที่ดีต้องเป็นแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน บางคนชอบเผ็ดมาก บางคนชอบไม่เผ็ด บางคนชอบกลมกล่อมไม่เค็มมากและไม่หวานมาก แต่โดยทั่วไปแล้วกะเพราที่ดีต้องมีรสเผ็ดเค็มเป็นหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำกะเพราคือต้องใช้วัตถุดิบสดๆ โดยเฉพาะกระเทียมและพริก ต้องซอยหรือสับสดใหม่ทุกครั้ง ไม่ใช่ตำไว้ล่วงหน้า เพราะพริกและกระเทียมที่ตำไว้นานจะมีกลิ่นช้ำๆ ไม่หอม ไม่สดชื่น ทำให้กะเพราไม่อร่อย
สำหรับหมูที่ใช้ทำผัดกะเพรา ต้องเลือกหมูสับที่มีมันอยู่บ้าง ไม่ใช่หมูแดงล้วน เพราะจะทำให้กะเพราแห้งเกินไป การหั่นหมูแบบฉีกเล็กน้อยจะทำให้เนื้อหมูฟูขึ้นเมื่อลงไปผัด มีเนื้อสัมผัสที่ดีกว่าการสับให้ละเอียดเกินไป หากต้องการเพิ่มความชุ่มฉ่ำ สามารถเพิ่มกุ้งและหมึกสับลงไปด้วย สำหรับหมึกต้องเลือกที่สดและไม่โดนน้ำ ปลาหมึกที่ดีต้องไม่แช่น้ำ เพราะจะทำให้เนื้อเปื่อยและบวมน้ำ ถ้าหมึกเละแสดงว่าไม่สดแล้ว หลังจากทำความสะอาดปลาหมึก ต้องลอกเยื่อออก จากนั้นบั้งหมึกเพื่อไม่ให้เหนียว แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ เมื่อลงไปผัด หมึกจะหดตัวม้วนสวยงาม มีลวดลายซิกแซกที่น่ากิน
ใบกะเพราหรือโหระพาเป็นพืชตระกูลโหระพาที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีสรรพคุณช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ใครที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ การกินกะเพราจะช่วยบรรเทาอาการได้ กะเพรามีหลายแบบ มีทั้งสีเขียวและสีแดง บางคนบอกว่าแดงจะฉุนกว่า หอมกว่า แต่จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับว่ากะเพราปลูกที่ไหน เก็บเมื่อไหร่ เก็บในฤดูกาลใด หน้าร้อนหรือฤดูฝน สิ่งสำคัญคือควรเลือกกะเพราที่ปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง และไม่ใช้ปุ๋ยเคมี
การเตรียมกะเพราต้องซื้อมาเป็นก้าน แล้วนั่งเด็ดใบออกมาทีละใบ ส่วนที่เป็นก้านแข็งไม่ควรนำมาใช้ เพราะเคี้ยวไม่ได้ กะเพราที่ดีต้องใช้เป็นจำนวนมากในการผัด ต้องใส่ให้เพียงพอจึงจะอร่อย
กะเพราที่ถูกต้องต้อง "ฮัดชิ่ว" หรือการจาม คือการผัดด้วยไฟแรงอย่างรวดเร็ว เริ่มจากการใส่น้ำมันลงในกระทะให้ร้อน จากนั้นใส่กระเทียมที่ซอยสดๆ ลงไปผัดให้หอม ระวังอย่าให้ไหม้
ไข่ดาวเป็นของคู่หูที่ขาดไม่ได้ของผัดกะเพรา แต่ไข่ดาวแบบธรรมดาไม่เหมือนกับไข่ดาวแบบร้านอาหาร ความลับอยู่ที่การทอดในน้ำมันมากและไฟแรง
การทอดไข่ดาวแบบฟูต้องใช้น้ำมันร้อนจัด ตักน้ำมันร้อนราดลงบนตัวไข่ ทำให้ไข่ฟูขึ้นมา ขอบข้างนอกจะกรอบ แต่ข้างในยังนุ่ม ไข่แดงยังเยิ้มอยู่ เทคนิคนี้ต้องใช้ความชำนาญและความกล้า เพราะน้ำมันร้อนมากและอาจกระเด็น ไข่ดาวที่ทอดได้สมบูรณ์จะมีความฟู กรอบนอก นุ่มใน เมื่อทานคู่กับผัดกะเพราและข้าวสวยร้อนๆ รสชาติจะกลมกล่อมลงตัว หากรู้สึกว่าจืดไปหรือต้องการรสชาติเพิ่มเติม ก็มีน้ำปลาพริกไว้เติมได้ตามชอบ
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้อาหารไทยอร่อยและมีคุณภาพคือการเลือกวัตถุดิบจากแหล่งที่ดี เมื่อเราทำอาหารเอง เราสามารถเลือกได้ว่ากุ้งมาจากไหน มาจากพังงาหรือที่อื่น ใครเป็นคนจับ ใช้เครื่องมือจับอะไร กุ้งจากพังงาเป็นที่รู้จักว่าใช้เครื่องมือจับปลาที่ถูกต้อง จับขึ้นมาแล้วไม่ใส่ฟอร์มาลีน ทำให้เรามั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย นี่คือความแตกต่างระหว่างการสั่งอาหารกับการทำเอง เราเลือกไม่ได้ว่าจะได้กินอะไรเมื่อสั่ง แต่ถ้าทำเองเราเลือกทุกอย่างได้
การเดินทางสายกลางคือ เมื่อไหนที่เราเลือกได้ เราก็เลือก เมื่อไหนที่เลือกไม่ได้ เราก็กิน แต่สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจและตั้งคำถามว่า "อะไรมาจากไหน" และ "เอาอะไรให้เรากิน" เพราะสิ่งเหล่านี้สำคัญมากสำหรับผู้บริโภค
"โภชนปัญญา" คือความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่เรากิน ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่รวมถึงที่มาของวัตถุดิบ วิธีการปลูก การจับ การเก็บเกี่ยว กระบวนการผลิต และผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การทำอาหารทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าอาหารที่เราได้กินมีดีเทลเยอะแค่ไหน ตั้งแต่การเลือกกุ้งที่ไม่มีฟอร์มาลีน การเลือกผักที่ปลูกแบบอินทรีย์ การเลือกน้ำตาลที่ไม่ขัดขาว การใช้มันกุ้งที่บีบสดๆ ทุกขั้นตอนล้วนมีความหมายและมีผลต่อคุณภาพของอาหาร เมื่อเรารู้แล้ว เราจะเลือกให้ตัวเองได้ และเราจะไปเลือกให้คนที่เรารักได้ เราจะเริ่มตั้งคำถามมากขึ้นเมื่อไปกินอาหารข้างนอก เริ่มใส่ใจในรายละเอียด และเริ่มเลือกร้านที่ใส่ใจในวัตถุดิบเหมือนกับที่เราทำเอง
อาหารไทยมีความหลากหลายมาก ไม่ใช่แค่ผัดไทยและผัดกะเพรา ยังมีอีกมากมายทั้งแกง ยำ ต้ม ผัด ทอด อบ นึ่ง แต่ละภาคของไทยก็มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ถั่วที่ใช้ในผัดไทยอาจมาจากบ้านถิ่นเชียงใหม่
การเลือกกินอาหารไทยให้หลากหลายจะช่วยสนับสนุนเกษตรกรและผู้ผลิตในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ การใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ปลูกแบบอินทรีย์ จับด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง จะช่วยให้ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น
การทำอาหารไทยเองอาจจะดูยุ่งยาก ต้องเตรียมของเยอะ แต่เมื่อได้ลองทำแล้วจะพบว่ามันคุ้มค่ามาก ทั้งในแง่ของรสชาติที่ดีกว่า คุณภาพที่มั่นใจได้ และประสบการณ์ที่ได้รับ การได้เรียนรู้วิธีทำอาหาร ได้เห็นดีเทลของแต่ละขั้นตอน ได้เข้าใจว่ากว่าจะได้กินจานหนึ่งต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทำให้เราเห็นคุณค่าของอาหารมากขึ้น เราจะไม่ทิ้งอาหารง่ายๆ เราจะเลือกกินอย่างมีสติมากขึ้น เมื่อเรารู้แล้ว เราจะเลือกให้ตัวเองได้ เราจะไปเลือกให้คนที่เรารักได้ นี่คือเสน่ห์ของการทำอาหารที่นอกเหนือจากรสชาติ มันคือการดูแลตัวเองและคนที่เรารักอย่างแท้จริง
อาหารไทยทั้งผัดไทยและผัดกะเพราเป็นมากกว่าแค่อาหารอร่อยๆ จานหนึ่ง มันคือมรดกทางวัฒนธรรม เป็นภูมิปัญญาที่สะสมมานาน และเป็นสิ่งที่เราควรภูมิใจและสืบทอด การเรียนรู้วิธีทำอาหารไทยทำให้เราเข้าใจถึงความพิถีพิถันในการเตรียม รายละเอียดของแต่ละขั้นตอน และความสำคัญของการเลือกวัตถุดิบที่ดี มันทำให้เราเห็นคุณค่าของอาหารมากขึ้น และเริ่มตั้งคำถามว่า "อะไรมาจากไหน" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2568 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง: