EN

แชร์

Copied!

ยุคใหม่ตำรวจ CIB เสริมอาวุธด้วย AI ลดภาระงาน 70% เพิ่มเวลาล่าอาชญากร

25 ก.ย. 6819:20 น.
ยุคใหม่ตำรวจ CIB เสริมอาวุธด้วย AI ลดภาระงาน 70% เพิ่มเวลาล่าอาชญากร

สารบัญประกอบ

    ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดผลงาน AI ที่ช่วยในการทำงานของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคาดการณ์หลังจากนี้ AI จะลดภาระงานลง 70 % และเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ให้กลับมาทำคดีต่าง ๆ ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

    กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จัดงาน “CIB AI DAY 2025” เมื่อ AI คืออาวุธใหม่ของ CIB โดยเป็นการแสดงผลงานการประกวด Template Prompt จากทุกกองบังคับการ จำนวน 82 ผลงาน ครอบคลุม 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ งานอำนวยการ งานสืบสวน และงานสอบสวน

    พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันอาชญากรรมมีการพัฒนาไปอยู่ตลอดเวลา ตำรวจสอบสวนกลางจึงเห็นความสำคัญของ AI เนื่องจาก AI เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และก็ถือเป็นอาวุธที่ร้ายแรงหากไปอยู่ในมือของอาชญากร ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องพัฒนาตนเองด้วยการนำ AI มาใช้ในการทำงานด้วยเช่นเดียวกัน

    พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

    ทั้งนี้ CIB มองเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ด้วยการติดอาวุธให้กับตำรวจสอบสวนกลาง ผ่านการอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้เกิดความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของ AI ซึ่งหลังจากที่ได้เรียนรู้ ก็ได้มีการจัดเวทีดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้แสดงศักยภาพ โดยเฉพาะการนำ AI มาใช้กับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานสืบสวน สอบสวน หรืองานอำนวยการให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สามารถบริการให้กับประชาชนได้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม AI ถือเป็นเครื่องมือที่จะมาทำงานแทนคนในเรื่องง่าย ๆ และนำคนมาตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งจริง ๆ แล้ว AI นั้นสามารถนำมาปรับใช้กับทุกหน้างาน ซึ่งจะทำให้สามารถลดภาระงานลงไปได้ราวร้อยละ 70 และจะนำคนที่ภาระงานลดลงไปร้อยละ 70 เหล่านั้น มาช่วยบริการประชาชน ทั้งในเรื่องการทำคดีต่าง ๆ ซึ่งตนมองว่า การใช้ AI จะเข้ามามีประโยชน์มากกว่าการเดินเอกสารอย่างที่เคยปฏิบัติที่ผ่านมา

    สำหรับผลงานที่น่าสนใจ ได้แก่
    1.iJustice: Chatbot ซึ่งเป็น AI ที่ช่วยพูดคุยกับผู้เสียหายคดีทางเพศ โดยอิงหลักจิตวิทยา เพื่อสรุปข้อมูลนำมาใช้ในการสืบสวนต่อไป ซึ่ง AI ดังกล่าว สามารถให้ข้อมูลกับเหยื่อทั้งในเรื่องการพูดคุยปรึกษาเรื่องของข้อกฎหมาย รวมถึงการให้ข้อมูลการเข้าแจ้งความในเบื้องต้นอีกด้วย

    iJustice: Chatbot ซึ่งเป็น AI ที่ช่วยพูดคุยกับผู้เสียหายคดีทางเพศ

    2.AI Check URL ต้านภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็น AI ที่ใช้สำหรับการตรวจสอบ URL ว่า URL ที่พบเป็นมิจฉาชีพหรือไม่โดย AI ดังกล่าวมีลักษณะเป็น Chatbot ประชาชนทั่วไปสามารถนำข้อมูลจาก URL ที่พบ หรือบันทึกภาพหน้าจอที่ปรากฏภาพของ URL ส่งเข้ามาที่ LINE Chatbot ดังกล่าวเพื่อทำการค้นหาในคลังข้อมูลที่เชื่อมต่อกับระบบแจ้งความออนไลน์ เพื่อตรวจสอบว่า URL เหล่านั้นเคยปรากฏในฐานข้อมูลหรือไม่

    พ.ต.อ. พันธุ์ล้าน ปฐมพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ กลุ่มงานสนับสนุนคดีเทคโนโลยี

    3.Detective Assistant: ซึ่งเป็น AI Chatbot ที่ช่วยรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลสืบสวน โดย AI ดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อเป็น AI Chatbot ที่ทำหน้าที่หลักในการ “ช่วยรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลสืบสวน” ให้พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมเอกสารจำนวนมากได้ด้วยการทำงานเพียงไม่กี่นาทีเพียงเท่านั้น ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ และทำให้เจ้าหน้าที่มีเวลาในการทำงานอื่นเพิ่มมากขึ้นจากงานเอกสาร
    4.AI ในการตรวจสอบเครื่องหมายการค้า ที่สามารถถ่ายภาพของสินค้า ส่งเข้ามาเพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งจะค้นหาโดยอัตโนมัติ ว่าสินค้าดังกล่าวจัดจำหน่ายหรือนำเข้าโดยบริษัทใด เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

    ตัวอย่างสินค้าไม่ได้มาตรฐาน

    นอกจากจะได้ผลงานที่โดดเด่นหลายชิ้นจากการประกวด ในครั้งนี้ยังได้ผลลัพธ์ชัดเจนที่ได้จากการประกวดนั้น พบว่าสามารถช่วยลดขั้นตอนการทำงานได้ 60.58% และลดเวลาทำงานได้ถึง 85.81% ซึ่งผลงานที่โดดเด่นจะถูกรวบรวมในระบบ e-Learning เพื่อเป็นคลังความรู้กลางต่อไป

    สารบัญประกอบ