EN

แชร์

Copied!

CIB ผุดไอเดียช่วยงานตำรวจ ผสานใช้ AI พูดคุยกับเหยื่อคดีทางเพศสู่การเสริมเกาะป้องกันก่อนท่องโลกออนไลน์

1 ต.ค. 6820:48 น.
CIB ผุดไอเดียช่วยงานตำรวจ ผสานใช้ AI พูดคุยกับเหยื่อคดีทางเพศสู่การเสริมเกาะป้องกันก่อนท่องโลกออนไลน์
จากภัยแฝงในโลกออนไลน์สู่อาชญากรรมทางเพศที่เหยื่อไม่กล้าส่งเสียง “iJustice” หนึ่งในไอเดียผลิตภัณฑ์ AI จากงาน “CIB AI DAY 2025” และเครื่องมือ AI อื่น ๆ ที่พัฒนาโดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB กำลังพลิกบทบาทเทคโนโลยีให้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย พลังสนับสนุน และเกราะป้องกันประชาชนในโลกยุคดิจิทัล

เมื่ออาชญากรรมพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง การทำงานของตำรวจก็ต้องปรับตัวให้ทันเกม ในโลกที่เทคโนโลยีกลายเป็นทั้งเครื่องมือและอาวุธ หาก AI ตกอยู่ในมือคนผิด ย่อมสร้างความเสียหายมหาศาล แต่นั่นเองคือโอกาสสำคัญในการยกระดับการทำงานของตำรวจให้ก้าวทันภัยคุกคามยุคใหม่

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ผุดไอเดียจัดงาน “CIB AI DAY 2025” เมื่อ AI คืออาวุธใหม่ของ CIB เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา โดยเป็นการแสดงผลงานการประกวด Template Prompt จากทุกกองบังคับการ จำนวน 82 ผลงาน ครอบคลุม 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ งานอำนวยการ งานสืบสวน และงานสอบสวน โดยผ่านการให้ความรู้อบรมทักษะด้าน AI กับทุกกองบังคับการพร้อมให้บุคคลากรได้นำเสนอไอเดีย เพื่อต่อยอดพัฒนาการนำมาใช้จริงในอนาคต ภายใต้หลักการสำคัญในการใช้ AI คือ Trust but Verify ทุกผลลัพธ์จาก AI ต้องผ่านการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่เสมอ โดยผลลัพธ์จากการทดลองพบว่า AI ช่วยลดขั้นตอนการทำงานได้ 60.58% และลดเวลาทำงานได้ถึง 85.81% 

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ AI จากไอเดียที่น่าจับตาสู่การเป็นเครื่องมือใช้งานจริงในอนาคตจากโครงการดังกล่าว ได้แก่

  • iJustice: Chatbot พูดคุยกับผู้เสียหายคดีทางเพศ โดยอิงหลักจิตวิทยา
  • AutoDoc: ระบบอัตโนมัติช่วยสร้างเอกสารและข้อความติดต่อ
  • CIB Carpool with AI: ระบบช่วยจัดการรถภารกิจแบบทันที
  • Detective Assistant: Chatbot ช่วยรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลสืบสวน
  • Project “องคต”: AI ตอบคำถามนักสืบด้วยภาษามนุษย์
  • CIB Little Cop: AI สร้างการ์ตูนเตือนภัยประชาชน

“iJustice” Chatbot รองรับเหยื่อคดีทางเพศ เพื่อส่งต่อสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างปลอดภัย

ในปัจจุบัน มีผู้เสียหายจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับคดีทางเพศ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนึ่งในไอเดียที่น่าสนใจของ ผลิตภัณฑ์ AI CIB All Day 2025 จึงมีการพัฒนา “iJustice” Chatbot ทาง Line ขึ้นมาในฐานะเครื่องมือช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อเป็นตัวกลางในการพูดคุย ให้คำแนะนำ และส่งเสริมความมั่นใจแก่ผู้เสียหายในการตัดสินใจดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไป 

โดย iJustice ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพูดคุยในช่วงเริ่มต้น และนำเสนอทางเลือกที่เหมาะสมแก่ผู้เสียหาย เช่น การพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ การติดต่อจิตแพทย์ หรือการเข้าถึงการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย

พ.ต.อ. ภานุภัท กิตติพันธ์ ผกก.1 บก.ปอท. ตัวแทนผู้นำเสนอโปรเจกชิ้นนี้ กล่าวว่า “เราไม่ได้ทำตัวนี้ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียว มีการปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของกรมสุขภาพจิตเองหรือว่านักจิตวิทยา มีการทดสอบโดยการที่นักจิตวิทยาได้ทดสอบด้วยตัวเองเป็นคนที่ต้องการคำปรึกษาในหลาย ๆ มุม หลาย ๆ มิติ หลาย ๆ รูปแบบ พบว่าประมาณ 80% ของการตอบคำถาม 80-90% ในปัจจุบัน มีการให้คำแนะนำที่อยู่ภายใต้ Standard ของกรมสุขภาพจิตจริง ๆ ณ ปัจจุบันผมเชื่อว่าตัว iJustice เองอาจจะยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จะมีการพัฒนาต่อยอดต่อไปเพื่อให้ได้ออกมาใช้งานได้จริง ๆ”

ขั้นตอนการสนทนาเชิงปลอดภัยกับผู้เสียหายของ iJustice

1. ยืนยันตัวตนและความยินยอมของผู้เสียหาย แจ้งสิทธิ์ ความเป็นส่วนตัว และสิทธิ์หยุดสนทนาได้ทุกเมื่อ

2. เลือกหัวข้อที่ผู้เสียหายต้องการพูดคุย

ㆍ ต้องการเล่าเหตุการณ์

ㆍ อยากรู้ว่าควรแจ้งความไหม

ㆍ อยากปรึกษาด้านจิตใจ

ㆍ อยากรู้สิทธิทางกฎหมาย

3. NLP เข้าใจคำพูดเชิงจิตวิทยา AI ตอบกลับด้วยหลักจิตวิทยา TRAUMA-INFORMED

ㆍ ใช้ภาษาที่ไม่ตัดสิน (non-judgmental)

ㆍ สร้างความรู้สึกปลอดภัย (safety)

ㆍ แสดงความเข้าใจ (empathy)

ㆍ เน้นการให้พลัง (empowerment)

4.ระบบแนะนำทางเลือก

ㆍติดต่อสายด่วน/นักจิตวิทยา

ㆍแนะนำขั้นตอนทางกฎหมาย (เข้าใจง่าย ไม่ขับซ้อน)

ㆍแนะนำแหล่งช่วยเหลืออื่น (เช่น NGO หรือแหล่งพักพิง)

5.บันทึกบทสนทนาอย่างไม่ระบุตัวตน /ปิดการสนทนาอย่างอบอุ่น

ㆍ แสดงความขอบคุณ

ㆍเปิดช่องทางกลับมาพูดคุยได้ตลอด

ภาพบทสนทนา ตัวอย่างการทดลองใช้งานกับ Chatbot iJustice

หากผู้ใช้งานถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงทางด้านจิตใจ ระบบจะแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่พนักงานทันที

นอกจากนี้ พ.ต.อ. ภานุภัท ยังเสริมว่า เนื่องจากมาตรฐานการรับรู้ ความเชื่อ อคติ และแนวคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การรณรงค์หรืออบรมให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าใจและมีท่าทีที่เหมาะสมต่อผู้เสียหายอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก อย่างไรก็ตาม หากใช้ระบบ AI ที่ออกแบบมาจากมาตรฐานกลาง ซึ่งได้รับการกลั่นกรองจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน ก็จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำในการตอบสนองและให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ ความคิดฟุ้งหรือการสรุปผลเกินความจำเป็นของ AI ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด หรือทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นการออกแบบ AI เพื่อใช้งานในบริบทอ่อนไหวเช่นนี้ จึงต้องมีการควบคุมและพัฒนาอย่างรอบคอบ โดยมีผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบมาตรฐานอย่างใกล้ชิด

AI Check URL ต้านภัยไซเบอร์ Chatbot เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันก่อนคลิก !

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เกิดขึ้นในวงกว้าง ที่มีประชาชนทุกเพศทุกวัยตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะจากการถูกหลอกผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Facebook, TikTok และสุดท้ายมักจบลงที่การสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งคนร้ายใช้เป็นช่องทางในการส่งลิงก์ปลอมหรือแอบอ้างข้อมูลต่าง ๆ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ จากงาน AI CIB All Day 2025 ที่น่าสนใจคือมีการพัฒนา Chatbot บน LINE ที่ช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ URL หรือเว็บไซต์ต้องสงสัยได้ง่ายและรวดเร็ว

ประชาชนสามารถคัดลอกลิงก์ หรือแคปหน้าจอที่มี URL ต้องสงสัย แล้วส่งเข้ามาทาง LINE Chatbot ระบบจะดึงข้อมูล URL อัตโนมัติและตรวจสอบกับฐานข้อมูลของ Thai Police Online หรือระบบแจ้งความออนไลน์ ว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเคยถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) หรือมีประวัติพฤติกรรมหลอกลวงหรือไม่ นอกจากนี้ AI ภายในระบบยังถูกออกแบบให้สามารถตรวจจับรูปแบบ URL ที่ผิดปกติ เช่น การเติมตัวเลข สัญลักษณ์ หรืออักขระที่เลียนแบบเว็บไซต์จริง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ

หากพบความเสี่ยง ระบบจะแจ้งเตือนทันที พร้อมแสดงภาพตัวอย่างของหน้าเว็บไซต์ที่ถูกส่งมาเพื่อให้ผู้ใช้เห็นภาพชัดเจน ลดโอกาสตกเป็นเหยื่อของเว็บไซต์ปลอมและการฉ้อโกงออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางการใช้เทคโนโลยี AI มาเสริมเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนในชีวิตประจำวัน

พ.ต.อ. พันธุ์ล้าน ปฐมพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ กลุ่มงานสนับสนุนคดีเทคโนโลยี กล่าวว่า ในอนาคตจะรวบรวมฐานข้อมูลเพื่อขยายข้อมูลรายชื่อลิงก์มิจฉาชีพ ในขณะเดียวกันการที่มีประชาชนเข้ามาใช้งานมาก ๆ ก็สามารถทำให้ฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน โดยสามารถนำลิงก์จากทุกแพลตฟอร์มมาตรวจสอบได้ เช่น เพจ Facebook รวมถึงเว็บไซต์ที่น่าสงสัย

ขั้นตอนเพียงแค่ส่งลิงก์ URL ที่สงสัยหรือบันถึงภาพหน้าจอ URL ส่งไปใน Chatbot ระบบจะทำการตรวจสอบโดยอัตโนมัติว่า

  • ลิงก์ดังกล่าวเคยอยู่ในฐานข้อมูลแบล็กลิสต์หรือไม่
  • มีลักษณะต้องสงสัย เช่น ใช้ อักขระแปลก ๆ ตัวเลขสลับ หรือชื่อเว็บที่คล้ายของจริง (เช่น faceb00k[.]com แทน facebook.com)

หากตรวจพบความผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนทันทีว่ามีความเสี่ยง พร้อมแนะนำแนวทางการดำเนินการต่อ 

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ AI เช่น “iJustice” ที่พัฒนาโดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เป็นเพียงต้นแบบหรือเดโม่ที่อยู่ในขั้นทดลองและพัฒนาต่อยอดเท่านั้น ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้งานจริงในขณะนี้ โดยมีการเน้นย้ำว่าผลลัพธ์จาก AI ต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ก่อนใช้งาน เพื่อความถูกต้องและความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงต้องมีการพัฒนาและควบคุมอย่างรอบคอบเพื่อรองรับบริบทที่อ่อนไหว เช่น การช่วยเหลือเหยื่อคดีทางเพศและการป้องกันภัยไซเบอร์ในโลกดิจิทัลในอนาคต

แท็กที่เกี่ยวข้อง