EN

แชร์

Copied!

ตรวจสอบแล้ว : คลิป “สนามบินเทลอาวีฟ” ถูกถล่มหนัก แท้จริงสร้างจาก AI

18 มิ.ย. 6816:47 น.
รอบโลก#ข่าวปลอม
ตรวจสอบแล้ว : คลิป “สนามบินเทลอาวีฟ” ถูกถล่มหนัก แท้จริงสร้างจาก AI

อย่าเพิ่งเชื่อ ! คลิปวิดีโออ้างภาพของ "สนามบินเทลอาวีฟ" ท่าอากาศยานนานาชาติ เบน กูเรียน ประเทศอิสราเอล ถูกถล่มเสียหายหนัก ตรวจสอบพบเป็นเพียงภาพที่สร้างจาก AI เท่านั้น

หลังจากอิสราเอลโจมตีอิหร่าน เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ได้มีคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ทางสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก แต่มีหนึ่งในคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นการถล่มสนามบินของอิสราเอล โดยโพสต์ดังกล่าวระบุข้อความว่า เป็น “สนามบินอิสราเอลเละมาก” อย่างไรก็ตาม Thai PBS Verify พบว่า เป็น “ข่าวปลอม” ที่มีลักษณะของการบิดเบือน เนื่องจากเป็นเพียงภาพที่ถูกสร้างด้วย AI เพียงเท่านั้น (ลิงก์บันทึก)

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาข่าวปลอมจาก : Youtube

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงคลิปปลอมที่สร้างจากเอไอ

ผู้ใช้บัญชียูทูบรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอระบุข้อความว่า “สนามบินอิสราเอลเละมาก” โดยวิดีโอดังกล่าวมีความยาว 13 วินาที เป็นคลิปวิดีโอเศษซากปรักหักพังของอาคารผู้โดยสารของสนามบิน ซึ่งมีข้อความภาษาฮิบรูระบุว่า “เทลอาวีฟ”

เราตรวจสอบภาพดังกล่าวกับเครื่องมือตรวจสอบภาพจาก Google Lens พบว่า วิดีโอดังกล่าว ถูกโพสต์ครั้งแรกโดยช่อง TikTok ของผู้ใช้ชื่อ “3amelyonn” ที่ได้โพสต์คลิปดังกล่าวไว้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าชมไปกว่า 1.3 ล้านครั้ง (ลิงก์บันทึก)

ขณะที่เนื้อหาของช่อง TikTok ดังกล่าว พบว่าส่วนใหญ่เป็นการสร้างภาพ AI ที่เน้นภาพความเสียหายของสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของอิสราเอล

นอกจากนี้เมื่อเราทำการตรวจสอบผ่านเครื่องมือตรวจสอบภาพ Hivemoderation.com ยืนยันว่า คลิปดังกล่าวถูกสร้างขึ้นจาก AI

ผลการตรวจสอบคลิปด้วยเครื่องมือตรวจสอบ AI พบว่า 99.2% ถูกสร้างจาก AI

นักวิชาการระบุข้อสังเกตคลิปสร้างจาก AI

ดร. วีระ สอิ้ง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ระบุว่า ปัจจุบันวิดีโอมีค่อนข้างที่จะเยอะ โดยเฉพาะที่ถูกสร้างจาก AI ซึ่งคลิปดังกล่าวนั้น หากถามว่ามองด้วยตาเปล่า แล้วจะสามารถตอบได้ว่า จริงหรือปลอมก็ถือเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก แต่สิ่งที่สามารถทำให้แยกแยะได้ คือการนำวิดีโอเหล่านี้เข้าไปตรวจสอบ ว่าเป็นวิดีโอจริงหรือไม่ โดยการใช้ AI ตรวจจับ เพราะวิดีโอที่มีการสร้างมานั้นจะมีความถี่ที่แตกต่างกันกับวิดีโอที่ถ่ายจากมือถือหรือกล้องทั่วไป (ลิงก์บันทึก)

ดร. วีระ สอิ้ง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ขณะที่คลิปดังกล่าวหากสังเกตก็จะพบว่า คลิปดังกล่าวมีความผิดปกติในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นตึกด้านหลัง ที่มีการแต่งเติมไม่มีความธรรมชาติ หรือเป็นการถูกจัดองค์ประกอบภาพให้อยู่แค่เฉพาะบริเวณนั้น หรือหากมองในส่วนของกรณีเป็นเหตุระเบิด เหตุใดเครื่องบินที่จอดอยู่ในคลิปจึงยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ส่วนรถที่อยู่ในคลิปก็ยังเห็นว่ายังไม่ได้มีความเสียหายเกิดขึ้น และยังคงสามารถวิ่งไปมาได้ตามปกติ ซึ่งการที่จะสังเกตภาพที่สร้างจาก AI นั้น จำเป็นที่จะต้องมองซ้ำไปเรื่อย ๆ ทีละจุด ไม่ว่าจะเป็นการดูพื้นหลัง หรือการสังเกตวัตถุภายในภาพ เพื่อจะสังเกตว่า ภาพนั้นเป็นภาพจริงหรือภาพที่ถูกสร้างมาจาก AI ซึ่งจะต้องใช้ร่วมกันกับการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือตรวจสอบภาพจาก AI เพื่อให้ได้ผลการตรวจสอบที่ชัดเจนที่สุด

สำหรับท่าอากาศยานเบน กูเรียน ของอิสราเอล ยังคงปิดให้บริการผู้โดยสารขาออกทั้งหมด และจะยังคงปิดต่อไปจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม (ลิงก์บันทึก)

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงเรดาห์การบินที่พบว่าพื้นที่ของอิสราเอลไม่มีการจราจรทางอากาศแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน สายการบินหลักทั้งสามแห่งของอิสราเอลได้ย้ายฝูงบินออกจากประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของอิหร่าน (ลิงก์บันทึก)

ด้าน กระทรวงการท่องเที่ยวอิสราเอลรายงานว่า เหตุรุนแรงดังกล่าวส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวราว 40,000 คน ถูกห้ามไม่ให้เข้าประเทศ สายการบินต่าง ๆ ยกเลิกเที่ยวบินจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม ทำให้ผู้เดินทางต้องตัดสินใจว่า จะรอหรือหาทางเลี่ยงที่มีค่าใช้จ่ายสูงผ่านประเทศเพื่อนบ้าน

กระบวนการตรวจสอบ

  • วิเคราะห์เนื้อหาเบื้องต้น

    • สังเกตลักษณะภาพ เช่น องค์ประกอบของภาพ ความสมจริง ความเคลื่อนไหว และตำแหน่งของวัตถุต่าง ๆ เพื่อค้นหาความผิดปกติ

  • ตรวจสอบย้อนกลับ (Reverse Image Search)

    • ใช้เครื่องมือ Google Lens ค้นหาว่าภาพถูกโพสต์ครั้งแรกเมื่อใด ที่ไหน และโดยใคร พบว่าคลิปต้นฉบับถูกเผยแพร่ครั้งแรกใน TikTok เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 68

  • ใช้เครื่องมือ AI ตรวจสอบที่มา

    • ใช้ระบบตรวจจับภาพปลอมจาก AI เช่น Hivemoderation.com พบว่าผลการตรวจสอบมีความเป็นไปได้ 99.2% ว่าเป็นสื่อที่ถูกสร้างขึ้นจาก AI

  • การยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ

    • ดร. วีระ สอิ้ง นักวิชาการด้านวิศวกรรม ให้ข้อมูลเสริมเกี่ยวกับความถี่ของภาพ AI ที่แตกต่างจากวิดีโอจริง รวมถึงเทคนิคการสังเกตองค์ประกอบที่ผิดปกติในภาพ

ผลกระทบจากการได้รับข้อมูลเท็จ

  • กระตุ้นความหวาดกลัวและตื่นตระหนก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งหรือความรุนแรง
  • บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อจริง และลดความสามารถของประชาชนในการรับรู้ข้อเท็จจริง

  • สร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อข่าวปลอมถูกแชร์ซ้ำ

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อความขัดแย้ง โดยเฉพาะในบริบทของความขัดแย้งระหว่างประเทศ ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

  • ลดทอนความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI เมื่อนำมาใช้ในทางที่ผิด

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

  • อย่าแชร์ทันที
    หากยังไม่ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้

  • ตรวจสอบกับแหล่งทางการ
    เช่น สำนักข่าวระดับชาติ, หน่วยงานรัฐ หรืออ่านรูปแบบการตรวจสอบข่าวลักษณะนี้จากเว็บไซต์ Thai PBS Verify

  • ใช้เครื่องมือตรวจสอบฟรี
    เช่น Google Lens หรือ Hive AI

  • สังเกตความสมจริง
    เช่น ความผิดปกติของภาพ พฤติกรรมที่ไม่สมเหตุสมผลของคนหรือสิ่งของในวิดีโอ

  • ตั้งคำถาม
    เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์อะไร? อาจใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์ ปลุกปั่น หรือให้เข้าใจผิดหรือไม่

  • รายงานต่อแพลตฟอร์ม
    เช่น Facebook, YouTube หรือ TikTok เพื่อช่วยจำกัดการแพร่กระจาย