นายอำเภอฝาง สั่งพักงาน "ผู้ใหญ่บ้าน" สอบปมเส่วยสัญชาติ

วันที่ 18 ก.ย.2568 ว่าที่ร้อยตรีนพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ แถลงกรณีข่าวเกี่ยวกับการเรียกรับเงินจากชาวบ้านรายละ 4,000 บาท เพื่อดำเนินการเรื่องเพิ่มชื่อในทะเบียน ทร. 14 ตามมติของคณะรัฐมนตรี วันที่ 29 ต.ค.2567 ซึ่งความเป็นจริงมีค่าใช้จ่ายเพียง 160 บาท แบ่งเป็นค่าขึ้นทะเบียนบ้าน ทร.14 จำนวน 100 บาท และค่าทำบัตรประชาชน 60 บาท

นายอำเภอฝาง ระบุว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเรียกผู้ใหญ่บ้านที่ถูกร้องเรียนมาให้ถ้อยคำ เบื้องต้นผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวยังให้การปฏิเสธ โดยระบุว่าไม่มีการเรียกรับเงิน แต่ทางทีมตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดและน่าเชื่อได้ว่ามีมูล จึงออกคำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านในระหว่างการสอบสวน เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย และป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ไปยุ่งเหยิงกับพยาน

ด้านนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว หากพบผู้กระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

สำหรับการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลฯ ตามมติ ครม.วันที่ 29 ต.ค.2567 มีกลุ่มเป้าหมาย 480,000 คนทั่วประเทศ แบ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน จำนวน 340,000 คน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรของบุคคลกลุ่มที่ 1 อีกจำนวน 140,000 คน

ทั้งนี้ เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าหลักเกณฑ์รับคำขอมีสถานะ จำนวน 88,524 คน ซึ่งข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2568 มีผู้ยื่นคำขอรวมกว่า 57,000 คน ในจำนวนนี้ได้รับการอนุมัติแล้ว 32,000 คน และขาดคุณสมบัติกว่า 4,000 คน

อ่านข่าว : กต.ซัด "กัมพูชา" ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ยั่วยุบ้านหนองหญ้าแก้ว 

สื่อนอกวิจารณ์ "ฮุน มาเนต" ปกครองกัมพูชาล้มเหลว-อยู่ใต้เงาฮุน เซน