เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน ก.ย.2563 หลังพบว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่รัฐบาลได้คลายล็อกดาวน์ เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองไทย การชุมนุมเเละการลาออกของ รมว.คลัง ขณะเดียวกันยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและการว่างงานที่เกิดจากผลกระทบ COVID-19
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวลดลง และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตปรับตัวลดลงทุกรายการ และยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำและรายได้ในอนาคต ที่สำคัญยังส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
นอกจากนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจระหว่างวันที่ 17-25 ต.ค. 2563 ว่า ปีนี้คาดว่าบรรยากาศจะไม่คึกคักมากนัก เพราะมีคนกินเจเพียงแค่ 39% คนไม่กินเจที่มีมากถึง 61% ทำให้เม็ดเงินใช้จ่ายตลอดเทศกาลอยู่ที่ 46,967 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 0.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มียอดใช้จ่าย 46,549 ล้านบาท ถือเป็นอัตราเติบโตต่ำสุดรอบ 13 ปี โดยประชาชนมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 11,400 บาท
สาเหตุที่ทำให้เทศกาลกินเจปีนี้เงียบเหงา เนื่องจากคนส่วนใหญ่ประสบปัญหาหนี้สิน หลังเศรษฐกิจชะลอตัวจากการแพร่ระบาด COVID-19 กระทบต่อการท่องเที่ยว กินเจหรือจับจ่ายใช้สอย บางคนยังกลัวว่าจะตกงานตามภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งราคาอาหารเจสูงขึ้น ทำให้คนไม่อยากกินราคาก็ปรับขึ้น จากการสำรวจพบว่ามากกว่าครึ่งราคาเเพง
แท็กที่เกี่ยวข้อง: