ผลสำรวจโดย "อี เอฟ เอ็ดดูเคชัน เฟิร์ส" (EF Education First) องค์กรนานาชาติที่เชี่ยวชาญเรื่องการฝึกอบรมด้านภาษาและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ที่ได้เปิดเผยดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษ จากการทดสอบผู้ใหญ่ 2.2 ล้านคน ใน 113 ประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ พบว่าประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 101 จาก 113 ประเทศ และรั้งอันดับสุดท้ายจาก 8 ประเทศอาเซียน โดยที่การสำรวจครั้งนี้ไม่มีผลสำรวจของบรูไนและลาว
คะแนนค่าเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ 416 คะแนน ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 502 ก็เท่ากับสรุปผลได้ว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ "ต่ำมาก" ซึ่งถ้าพิจารณาจากกราฟที่มีการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2011 จะเห็นว่าค่าเฉลี่ยของไทย ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย มีเพียงปี 2017 ที่ขึ้นไปเล็กน้อยเท่านั้น
อ่านข่าว ไทยไม่ขยับ คะแนนภาษาอังกฤษต่ำ อันดับ 6 อาเซียน 8 ปี
เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละจังหวัดของไทย พบว่า มี 3 จังหวัดที่มีคะแนนดีกว่าจังหวัดอื่น ๆ ดูได้จากช่องสีเหลืองๆ ที่อยู่บนสุด 3 อันดับ คือ จ.เชียงใหม่ ที่ได้ 464 คะแนน กรุงเทพฯ 457 คะแนน และ จ.ภูเก็ต 456 คะแนน แต่ก็ยังจัดอยู่ในต่ำอยู่ดี
"อีเอฟ เอ็ดดูเคชัน" ระบุว่า การทดสอบนี้ เป็นแบบทดสอบทักษะการอ่านและการฟังภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ เป็นการทดสอบที่ได้มาตรฐานและให้คะแนนอย่างเป็นกลาง ซึ่งออกแบบมาเพื่อจัดประเภทความสามารถทางภาษาของผู้สอบในยกระดับ
เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่มีผู้คนพูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ บางส่วนมองว่า เป็นเพราะการสอน ที่เน้นให้ท่องจำ เน้นทำข้อสอบ ไม่ได้สอนให้สื่อสาร ไม่ได้ให้เด็กใช้จริง ผู้ที่พูดได้สื่อสารคล่องเพราะต้องไปเสียเงินเรียนเพิ่มเอง ทั้ง ๆ ที่ในโรงเรียน เรียนภาษา อังกฤษ 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ก็ยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้
อ่านข่าว "ครูทราย" ผู้ปลดล็อกสอนวิชาภาษาอังกฤษให้น่าจดจำ
บางส่วนก็มองว่าเรื่องนี้อาจต้องมาทบทวนแล้วหรือไม่ เช่นความเห็นนี้ที่มองว่า ถ้าเราทั้งหมดเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลแต่ยังพูดได้งูๆปลาๆ ทั้งเรียนและสอบหนักกว่าเจ้าของภาษา ระบบมันอาจต้องเปลี่ยนแล้วหรือไม่
เรื่องดังกล่าว นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในที่ประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ฝากให้ทางกระทรวงศึกษาธิการ "ตอบสนอง" ต่อกรณีที่มีการเปิดเผยการจัดอันดับดังกล่าว โดยไม่ว่าจะเป็นโครงการอะไร ก็ขอให้ออกมาอย่างเร่งด่วน
ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อเสนอนโยบาย 5 ด้านที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยให้ออกแบบหลักสูตรและวิธีการสอนภาษาอังกฤษใหม่ ปรับหลักสูตรเน้นด้านทักษะการสื่อสาร มากกว่าเน้นแค่เพียงหลักภาษาและไวยากรณ์ และทำให้ห้องเรียนภาษาอังกฤษเป็น "พื้นที่ปลอดภัย" เป็นต้น
ยกระดับการอบรมทักษะภาษาอังกฤษของครูไทย อบรมครูไทยด้านภาษาอังกฤษและเน้นการกระจายงบอบรมครูที่ปัจจุบันกระจุกอยู่กับส่วนกลางทั้งหมด ไปเป็นการให้งบตรงไปที่โรงเรียนและครูแต่ละคนในการซื้อคอร์สพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์ด้านที่ตนเองต้องการพัฒนา
ทำ MOU กับประเทศหรือเมืองอื่น ๆ เพื่อให้มีโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างครูสอนภาษาอังกฤษในต่างประเทศและครูไทยที่สอนภาษาอังกฤษ
รวมทั้ง ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียน โดยพิจารณาจัดสรร "คูปองเปิดโลกเรียนรู้" สำหรับเด็กและเยาวชนในการเรียนรู้นอกห้องเรียน เพิ่มจุดที่ประชาชนได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และข้อสุดท้าย คือ รณรงค์ให้สังคมไม่มีค่านิยมที่ให้ความสำคัญมากเกินไปกับเรื่องสื่อสารภาษาอังกฤษ
อ่านข่าว
"ครูทราย" ผู้ปลดล็อกสอนวิชาภาษาอังกฤษให้น่าจดจำ
ไทยไม่ขยับ คะแนนภาษาอังกฤษต่ำ อันดับ 6 อาเซียน 8 ปี
พบเด็ก ร.ร.ขยายโอกาส กทม.อ่อนภาษาอังกฤษ เหตุครูขาดเทคนิคการสอน











