"ภาคภูมิ" ส่งหนังสือขอนายกฯ สั่ง"ออกราชการ"

อาชญากรรม
20 ก.พ. 67
15:46
7,383
Logo Thai PBS
"ภาคภูมิ" ส่งหนังสือขอนายกฯ สั่ง"ออกราชการ"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ภาคภูมิ" รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ส่งหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอความเป็นธรรม และ ขอให้สั่งให้ "ออกราชการ" สู้คดี เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์

วานนี้ (19 ก.พ.2567) พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย โพสต์เฟซบุ๊ก ภาคภูมิ พิศมัย พร้อมระบุถึงกรณีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และขอให้สั่งให้ออกจากราชการ ลงวันที่ 12 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาดังนี้

กราบเรียน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ตามที่ปรากฎข่าวตามสื่อมวลชนต่าง ๆ อันอาจทำให้สังคมเข้าใจได้ว่า มีความขัดแย้งภายในองค์กรของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติระหว่างผู้บังคับบัญชาระดับสูง และหรือ เจ้าพนักงานตำรวจบางรายที่อาจส่อไปในทางปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งยังอยู่ระหว่างกระบวนการด้านการสืบหาข้อเท็จจริงตามระเบียบราชการ แต่ยังคงมีการปฏิบัติหน้าที่

อ่านข่าว : "พล.ต.ต.ไพโรจน์" ยื่น ป.ป.ช.สอบทีมทำคดี "เว็บพนันมินนี่" ผิด ม.157 

ในการนี้ กระผม พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งเป็นคณะทำงานชุดของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.และตามเหตุผลข้างต้น หากมีการร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงอีก ก็เกรงจะก่อให้เกิดความขัดแย้งตามที่เป็นข่าวอีก และอาจมีผลต่อการดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องที่ข้าพเจ้าได้รับการกล่าวหา จึงมีความจำเป็นร้องขอความเป็นธรรมมายังท่านในฐานะประธานกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ อันเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในสายงานตามระเบียบการปฏิบัติราชการ และมิได้มีส่วนได้เสียใด ๆ

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการในส่วนการพิจารณาข้อกล่าวหาใดต่อกระผมหรือบุคคลใด ที่อาจมีตามระเบียบราชการและส่งผลทางอาญา ต้องกระทำไปภายใต้ตามกฎหมายบัญญัติไว้โดยชอบและหลักนิติธรรม กล่าวคือ กระบวนการในชั้นสืบสวนสอบสวนต้องไม่มีการนำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปั้นแต่งพยานหลักฐานใด ๆ เพื่อที่จะมุ่งหวังดำเนินคดีกับบุคคลใด และต้องไม่มีการมุ่งหวังประโยชน์อันมิชอบทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยเฉพาะบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่นั้น จะต้องเป็นผู้ปราศจากข้อขัดแย้งในงานหรือโดยส่วนตัว หรืออาจมีความมุ่งหวังใดแอบแฝง เพื่อมีผลให้ร้ายต่อบุคคลต่าง ๆ โดยขัดต่อหลักนิติธรรม

อ่านข่าว : "บิ๊กโจ๊ก" ยืนยันไม่เกี่ยวข้องเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ 

กระผม เป็นข้าราชการผู้หนึ่งที่เชื่อว่า ตนได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและเสียประโยชน์ของกลุ่ม บุคคลบางกลุ่มที่จะถูกดำเนินคคี อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายของกระผมเพื่อให้ไม่สามารถดำเนินการทางคดีต่อไปได้ ท้ายสุด กระผมถูกตั้งเรื่องดำเนินคดี ตามสำนวนคดีอาญาที่ ๔๖๘/๒๕๖๖ ของสถานีตำรวจภูธรทุ่งมหาเมฆ และสำนวนคดีอาญาที่ ๗๒๔/๒๕๖๖ ของกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ๑ ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่า เป็นผลมาจากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวหรือไม่ โดยกระผมพร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และสิทธิหน้าที่ในฐานะผู้ต้องหาตามที่กฎหมายบัญญัติรับรองสิทธิไว้ และพึงได้รับการปฏิบัติจากเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องภายใต้หลักกฎหมาย และหลักนิติธรรม

อ่านข่าว : อสส.ขอ ตร.คุ้มครอง "อธิบดีอัยการ" ถูกผู้ต้องหาคดีมินนี่คุกคาม 

กระผมยังเคารพในกระบวนการยุติธรรมของท่าน อัยการ ศาล ไม่มีเจตนาล่วงเกินหรือเจตนาทำให้บุคคลใดหรือองค์กรใดได้รับความเสียหาย หากแต่เชื่อว่า กระบวนการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ สามารถทำได้ตามกระบวนการของกฎหมายและย่อมต้องสามารถตรวจสอบความถูกต้องโปร่งใสใต้ในฐานะของประชาชนคนหนึ่งที่จะใช้สิทธิปกป้องและต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมต่อไป

อ่านข่าวอื่น ๆ 

อัยการสั่งฟ้อง 14 ผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ 

"พล.ต.ต.ไพโรจน์" ยืนยันไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน "เครือข่ายมินนี่" 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง