ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นายกฯ สั่ง "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" ช่วยงาน 60 วัน รอผลสอบ ยันไม่ใช่ลงโทษ

การเมือง
20 มี.ค. 67
16:23
2,117
Logo Thai PBS
นายกฯ สั่ง "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" ช่วยงาน 60 วัน รอผลสอบ ยันไม่ใช่ลงโทษ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน คำสั่งให้ "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์- พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" ช่วยราชการสำนักนายกฯ ไม่ใช่การลงโทษ แต่เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการที่มีความเป็นกลาง ชี้ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ หากปราศจากมลทินสามารถกลับมาทำหน้าที่ได้อย่างสง่างาม

วันนี้ (20 มี.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้ามาช่วยที่สำนักนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. รักษาการ ว่า

อย่างที่ทราบมีประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เรื่องคดีความทั้งหลาย ซึ่งต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปข้างหน้า ไม่มีการแทรกแซง แต่ต้องย้ำว่า ทั้ง 2 ท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นเป็นไปได้ด้วยความสะดวก ดูแลประชาชนได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการก้าวก่าย จึงมีการโอนทั้ง 2 ท่านมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เป็นระยะเวลา 60 วัน เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบเรื่องที่มีข้อขัดแย้งทุกเรื่อง ทุกคดีที่มีการกล่าวโทษกัน ให้แล้วเสร็จ

โดยภายในวันนี้ตนจะมีการลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจำนวน 3 คน ทั้งนี้การแต่งตั้ง โอนย้ายมีผลทันที และยืนยันว่า เป็นการย้ายเป็นการชั่วคราว ไม่ได้เป็นการลงโทษ ทุกอย่างขั้นตอน เงินเดือนทุกอย่างยังเหมือนเดิม

สำหรับคณะกรรมการสอบสอนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย เป็นตำรวจ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และตัวแทนสำนักเลขาฯ

นายกฯ ยังระบุว่า การเรียกทั้ง 2 คน เข้ามาพูดคุยเมื่อช่วงเช้าก็เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว และอธิบายพูดคุยว่า จะปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงที่เข้ามาช่วยราชการ ซึ่งทั้ง 2 ท่าน รับปากจะพยายามไม่พูดอะไรอีกให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่มีการแทรกแซง พร้อมทั้งไม่ให้ลูกน้องทั้ง 2 ฝ่ายออกมาพูดอะไรอีกแล้ว

"ซึ่งคิดว่าแต่ละท่านก็เป็นผู้ใหญ่พอแล้ว ท่านรู้ว่าควรจะพูด หรือไม่พูดอะไร ซึ่งก็มีการแถลงข่าวไปแล้ว ตอนนี้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าแล้ว อย่าให้มีการก้าวก่าย ล็อบบี้ดีกว่า ทั้งนี้หลังการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วก็จะมีการพูดคุยเพื่อให้นโยบายต่อเลย ส่วนการหารือกระบวนการทำงานคณะกรรมการจะไปหารือกันเอง ตนไม่อยากแทรกแซงหรือชี้นำ"

อ่านข่าว : “บิ๊กต่าย” เป็นใคร? หลังนายกฯ ให้รักษาการ ผบ.ตร.

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ความขัดแย้งในแวดวงตำรวจจะเรียบร้อย นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ไม่ได้สบายใจที่ต้องทำอย่างนี้ แต่เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำเพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้เดินไปข้างหน้าได้ มีหน้าที่ในการดูแลประชาชน พร้อมเชื่อว่าทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากครบ 60 วันแล้ว ผลการพิจารณาออกมา แล้วกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีการแทรกแซงก็จะพิจารณาโอนย้ายกลับมาได้

นายกฯ ยังกล่าวว่า หลังจากแจ้งรายชื่อคณะกรรมการให้กับทั้ง 2 ท่านทราบ แน่นอนว่ามีความไม่สบายใจ แต่ก็ยอมรับและถือว่าคนที่จะมาเป็นกรรมการฯ นั้นมีความเป็นกลาง และไม่ได้ตั้งธงว่าต้องตัดสินออกมาเป็นอย่างไร วันนี้ต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

การทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แถวสอง แถวสามที่อาจจะเข้าข้างใครคนใดคนหนึ่งอาจจะทำให้การทำงานไม่เต็มสภาพ นี่คือสิ่งสำคัญมากกว่า

ดังนั้นการเอาคู่ขัดแย้งมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ทุกฝ่ายจะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ปัญหาพี่น้องสำคัญที่สุด อาทิ บ่อนการพนัน หนี้สิน ฯลฯ

อ่านข่าว : "บิ๊กต่อ" ท้าเปิดชื่อย่อตำรวจ "ต." ถูกโยงเส้นเงินเว็บพนัน

เมื่อถามว่า มีการพูดถึง "นายพล ต." ทำไมถึงเจาะจงเป็นคนนี้ ไม่เป็นคนอื่น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากไปพูดต่อ จะเป็นการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม อย่างที่บอกไม่อยากให้ปรากฏชื่อพวกนี้ขึ้นมา กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมย้ำว่าไม่ได้สบายใจที่ทำแบบนี้ แต่ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอาผู้ที่มีความขัดแย้งออกไปก่อน ให้กระบวนการยุติธรรมเดินต่อ เชื่อว่าวันนี้ทุกคนเข้าใจว่า ทำไมถึงต้องมีวันนี้เกิดขึ้น

สำหรับการประชุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที 21 มี.ค.นี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้เรียกประชุมกับ รอง ผบ.ตร. , รักษาการ ผบ.ตร. , ผู้ช่วยฯ ผู้บัญชาการภาค และผู้บัญชาการทั้งหลายเพื่อชี้แจงนโยบาย แต่ไม่มีการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าสื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงอยู่แล้ว ซึ่งตนก็พูดตรงไปตรงมาที่สุด มาอยู่ตรงนี้เพื่อดูแลประชาชน ไม่อยากให้ข้าราชการแถวสองแถวสามต้องเข้าข้างฝ่ายใด

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไปดีกว่า ทั้ง 2 ท่าน ก็จะได้สบายใจว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวน สอบสวนอะไรแล้ว เพราะถูกโยกมาช่วยงานที่สำนักนายกฯ แล้ว ไม่มีใครกล่าวหาท่านได้ว่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

ทำแบบนี้ก็เพื่อปกป้องท่านทั้ง 2 ด้วย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการลงโทษ ท่านทั้ง 2 ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เมื่อท่านผ่านการถูกตรวจสอบไม่มีมลทินแล้วก็จะสามารถกลับเข้ามาได้อย่างสง่างาม

เปิดคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

1. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ

2. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ

3. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการ และเลขานุการ

ทั้งนี้เป็นคณะการชุดเดิมที่เคยตรวจสอบกรณีบุคค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ทนาย "บิ๊กโจ๊ก" ยันทำบุญ 2 แสน เงินส่วนตัว อ้างเส้นทางเงินเว็บพนันโยงบิ๊ก ตร.

"บิ๊กโจ๊ก" เผยยังไม่รู้ตั้งจเรฯ สอบวินัย มั่นใจไม่ได้ทำผิด

ออกหมายเรียก "บิ๊กโจ๊ก" มารับทราบข้อกล่าวหา คดีฟอกเงินเว็บพนัน 21 มี.ค.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง