ชาวปากีสถานฉลองหลังหยุดยิงกับอินเดีย

บรรยากาศในเมืองละฮอร์ของปากีสถานเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ มีทั้งการจุดดอกไม้ไฟสวยงาม มีวงดนตรีบรรเลงเพลง ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข หลังจากที่ปากีสถานและอินเดียตกลงที่หยุดยิงภายหลังจากที่ความขัดแย้งระลอกใหม่ปะทุขึ้น

เช่นเดียวกับชาวปากีสถานในแคชเมียร์ที่อยู่ใต้การปกครองของปากีสถาน ร่วมกันเดินขบวนชุมนุมเพื่อเป็นเกียรติแก่กองทัพและทหารปากีสถาน ภายหลังเริ่มหยุดยิงกับอินเดีย

การชุมนุมเช่นนี้ยังจัดขึ้นในหลายเมือง รวมถึงเมืองการาจี ที่ประชาชนต่างร่วมตะโกนและถือป้ายข้อความว่า กองทัพปากีสถานจงเจริญ

ปากีสถานเริ่มกลับสู่ภาวะปกติแม้ยังวิตกสงคราม

ขณะที่บรรยากาศในเมืองชายแดนในแคชเมียร์ ฝั่งที่ปากีสถานปกครอง ร้านค้าต่างๆ เริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง แม้ว่าประชาชนบางส่วนจะยังคงกังวลและลังเลที่จะออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งเจ้าของธุรกิจบางราย ยืนยันว่า จะกลับมาเปิดทำธรุกิจอีกครั้ง แต่คิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าสถานการณ์จะกลับมาปกติ แต่ชี้ว่าปัญหาเรื่องข้อขัดแย้งแคชเมียร์ควรจะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม

ภาพเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่ปากีสถานและอินเดียตกลงที่จะหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและในทันที ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศหันหน้าพูดคุยกัน โดยมีสหรัฐฯ เป็นกลางตัวกลาง

ด้านมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ข้อตกลงนี้มีขึ้นหลังจากตนและ เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร่วมเจรจาอย่างเข้มข้นกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียและปากีสถาน ซึ่งรวมถึงผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ พร้อมทั้งระบุว่า อินเดียและปากีสถานจะเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่เป็นปัญหาด้วย

ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานออกมายืนยันการหยุดยิงเช่นกัน พร้อมเปิดเผยว่ามีกว่า 30 ประเทศมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการทูต ซึ่งรวมถึงตุรกี ซาอุดีอาระเบีย อังกฤษ และสหรัฐฯ

เช่นเดียวกับปลัดกระทรวงต่างประเทศอินเดียที่ระบุว่า อินเดียตกลงหยุดยิงและยุติปฏิบัติการทางทหาร ทั้งทางบก อากาศ และทะเล

"ทรัมป์" เสนอช่วยหาทางออกแคชเมียร์

ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุผ่านทรูธโซเชียล ชื่นชมภาวะความเป็นผู้นำของอินเดียและปากีสถานหลังจากยุติการใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งประกาศว่า สหรัฐฯ จะเพิ่มปริมาณการค้ากับทั้งสองประเทศ และจะทำงานร่วมกับทั้งอินเดียและปากีสถานเพื่อหาทางออกในประเด็นข้อขัดแย้งแคชเมียร์

ชาวอินเดียทยอยสำรวจความเสียหายการสู้รบ

ส่วนบรรยากาศในแคชเมียร์ ฝั่งที่อินเดียปกครอง ประชาชนในพื้นที่เริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงตลาดและร้านค้าต่างๆ ที่เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยคนในพื้นที่ หวังว่าผู้คนจะทยอยกลับเข้าเมืองหลังจากอพยพหนีการสู้รบออกไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ประชาชนทยอยเข้าสำรวจความเสียหายของบ้านเมืองหลังทั้งสองฝ่ายเริ่มหยุดยิง

สถานการณ์การสู้รบในแคชเมียร์ ทั้งในฝั่งอินเดียและปากีสถาน เริ่มคลี่คลายลงแม้ว่าหลังจากที่มีการประกาศหยุดยิง ทั้งสองฝ่ายยังคงต่างออกมากล่าวโทษกันไปมาว่าอีกฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลงหยุดยิงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเพิ่งบรรลุข้อตกลงไปได้ ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มสงบลง หลังจากทั้งสองประเทศยืนยันปฏิบัติตามมาตรการหยุดยิง หลังการต่อสู้ที่ยืดเยื้อมากว่า 4 วันสังหารชีวิตผู้คนใน 2 ประเทศไปแล้วเกือบ 70 คน

อินเดียยันพร้อมโต้หากปากีสถานละเมิดหยุดยิงซ้ำ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอินเดีย เปิดเผยว่าอินเดียจะตอบโต้หากยังคงเกิดการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำอีกครั้ง ท่ามกลางการจับตามองจากหลายฝ่าย ขณะเดียวกันยังมีการเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ที่อินเดียเปิดปฏิบัติการซินดูร์ ได้สังหารผู้ก่อการร้ายไปแล้วมากกว่า 100 คน และยังโจมตีศูนย์กลางการก่อการร้าย 9 แห่งในปากีสถานด้วย ซึ่งภายใต้ปฏิบัติการดังกล่าวทหารอินเดียถูกสังหารไป 5 นาย ขณะที่ฝั่งปากีสถานระบุว่า สูญเสียกำลังพลประมาณ 35-40 นาย

ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานในรอบนี้เกิดขึ้นหลังเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวที่เมืองพาฮาลแกมในแคชเมียร์ ฝั่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นเหตุโจมตีในแคชเมียร์ครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 หลังมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตมากถึง 26 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู จุดชนวนความขัดแย้งระลอกใหม่กับปากีสถานที่อินเดียกล่าวหาว่าคอยให้ท้ายกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุรุนแรง แม้ปากีสถานจะออกมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

อ่านข่าว :

ผู้นำสหรัฐฯ เผย "อินเดีย-ปากีสถาน" ยอมหยุดยิง มีผลทันที

"อินเดีย" ปิดสนามบิน 32 แห่งระงับเที่ยวบินพาณิชย์ถึง 15 พ.ค.

"ปากีสถาน" ตอบโต้ "อินเดีย" มุ่งเป้าโจมตีฐานทัพ-คลังเก็บขีปนาวุธ