ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จุดจบ "รวมไทยสร้างชาติ" ดีเอ็นเอลุงตู่ "ช็อกมินต์" รสขมภูมิใจไทย

การเมือง
18:32
1,036
จุดจบ "รวมไทยสร้างชาติ" ดีเอ็นเอลุงตู่ "ช็อกมินต์" รสขมภูมิใจไทย
อ่านให้ฟัง
08:15อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ฟาดกันยับ “รวมไทยสร้างชาติ” ศึกนักการเมือง 2 สายพันธุ์ กลุ่มของ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ซึ่งหากนับกองหนุนยามนี้ ยังไม่รู้ตัวเลขแท้จริงว่า เหลือหลักสิบหรือหลักหน่วย ส่วนกลุ่ม “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรคฯ และ รมช.พาณิชย์ ที่กำลังจะยกโขยง ย้ายสังกัดไปซบ “พรรคโอกาสใหม่” ปล่อยตัวเลขถามทาง เมื่อช่วงดึกวันที่ 9 มิ.ย.ว่า มี 21 คน

โดยมี สส.กลุ่มใต้ จ. ชุมพร 3 คน คือ “ลูกช้าง” สุพล จุลใส สส.ชุมพร พี่ชายของ “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส อดีต สส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรค รทสช.ปัจจุบัน รวมทั้ง “วิชัย สุดสวาสดิ์” และสันต์ แซ่ตั้ง ร่วมลงชื่อยื่น นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี โดยระบุว่า ยังขาดความรู้ความสามารถใน การบริหารงาน

แต่เครื่องยังไม่ทันติด “วิชัย” ก็ออกมาชี้แจงทันที ไม่ได้ร่วมลงชื่อ ทั้ง ๆ ที่มีลายเซ็นอยู่ในลำดับ 5 ถัดจาก ”ปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ทำเอากองเชียร์พรรคดีเอ็นเอ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใจแกว่ง ทั้งที่ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เคยนั่งจิบกาแฟกับ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ และพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ อดีตรองเลขาฯพรรค รทสช. ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ ด้วยกัน

ไม่แปลกหาก พิชชารัตน์ (สกุลเดิม ทองประพาฬ) จะชักชวนสมาชิกพรรค รทสช. ให้ไปรวมกับ “โอกาสใหม่” พรรคที่น้องสาวคือ “ภัทรานันท์ ทองประพาฬ” มีชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคฯ

แต่ศึกพรรคแตกครั้งนี้ มีหรือที่ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชาชาติไทย อดีตผู้ยิ่งใหญ่แห่งค่ายสีฟ้า ปชป.จะปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย

เมื่อเลขาฯ “ขิง” เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์กับรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ในหลายช่วงตอนที่น่าสนใจ เช่น ดูก่อนว่าเอกสารจริงหรือไม่ มี สส.หลายคนออกมาปฏิเสธแล้ว โดยเฉพาะ สส.ชุมพรทั้ง 3 คน ...ต้องเช็กก่อนว่าจริงหรือเปล่า และในเนื้อความของเอกสารมีการด่าว่ารัฐมนตรีของพรรคไม่มีความรู้ไม่มีความสามารถและขาดจริยธรรม

“เอกสารเซ็นโดย นายสุชาติ รองหัวหน้าพรรค ต้องถามกลับไปที่นายสุชาติว่า ตอนที่เซ็นเอกสารอ่านข้อความนี้ดีหรือยัง เพราะเหมือนประจานตัวเอง” ลีลาการโต้ตอบแบบเผ็ดร้อนกว่าพริกสิบเม็ดของเอกนัฎ

แม้ขณะนี้ ยังไม่มีการแยกทางเดินอย่างเป็นทางการ แต่พรรคก็ยากจะสมานรอยร้าวแล้ว แต่ต้องดูว่า ทิศทางของ สส.ใต้ ในอนาคตจะไปหยุดลงที่พรรคใด ...ถือเป็นธรรมชาติของพรรคการเมืองเฉพาะกิจที่มีอายุได้แค่ 2 ปีกว่า ๆ

ยังไม่ปรับ-ไม่มีนัดกินข้าว ยืนยันตรงกัน ระหว่าง ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ มท.หนู “อนุทิน ชาญวีระกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นอกจากจะเสียงแข็ง ยืนกรานไม่แลก ไม่ปรับกระทรวงฯ ทวงสัญญาเดิมนัดกิน "มินต์ช็อก" เพื่อไทยในอดีต

ทำเอา “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ออกมาสวนกลับว่า พรรคที่มาร่วมรัฐบาล ก็เข้ามา การคุยเพื่อตั้งรัฐบาล ไม่ใช่คุยว่าจะให้ตำแหน่งอะไรกับใคร ต้องเข้าใจก่อนว่า เราคุยเรื่องนโยบายที่จะทำงาน ถ้าเห็นด้วยก็มาร่วม ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องมาร่วม …แต่ขณะนี้ใครจะเสนออะไร อยู่ที่นายกฯ พิจารณา”

ขณะที่ศึกในพรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย-เพื่อไทย และศึกเฉพาะในพรรคร่วมไทยสร้างชาติยังปั่นป่วน เนื่องจากวันที่ 12-13-14 มิ.ย.นี้ ยังมีปมร้อน ๆ รออยู่ โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณามติที่ลงโทษแพทย์ 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษา “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่ง “สมศักดิ์ ปริศนา นันทกุล” รมว.สาธารณสุข ยืนยันจะเข้าร่วมประชุมและชี้แจงเหตุวีโต้มติแพทยสภาแล้ว

ตามมาด้วยวันที่ 13 มิ.ย. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ. ตำรวจ ผิดขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ โดยศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ และ 3 หน่วยงานคือ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง (30 เม.ย.68)

และศึกนอกในวันที่ 14 มิ.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา JBC ที่กรุงพนมเปญ หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณ “ช่องบก” อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

ปิดท้ายที่ กองบัญชาการกองทัพไทย ประกาศรับสมัคร “กำลังพลสำรอง” ประจำปี 2568 หน่วยรับการบรรจุ 4 หน่วย 27 ตำแหน่ง 38 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย.นี้ ผ่านเว็บไซต์ และสมัครได้ด้วยตนเองที่หน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กรุงเทพฯ, กรมการสื่อสารทหาร ถนนสรงประภา กรุงเทพฯ, ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

หรือกองกำลังพล หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ถนนนาวงประชาพัฒนา กรุงเทพฯ และที่สํานักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี กรุงเทพฯ

โดย 4 หน่วย ประกอบด้วย หน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร (นซบ.ทหาร) 4 ตำแหน่ง 4 อัตรา, ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กรมการสื่อสารทหาร (ศทส.สส.ทหาร) 1 ตำแหน่ง 2 อัตรา, ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ศฝภ.นทพ.) 12 ตำแหน่ง 12 อัตรา และ สํานักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร (สนพ.ยบ.ทหาร) 10 ตำแหน่ง 20 อัตรา

กองทัพไทย ขอแจ้งให้ทราบว่า การสอบครั้งนี้มีคณะกรรมการระดับสูงของกองบัญชาการกองทัพไทยดำเนินการเอง...งานนี้ไม่มีตัวช่วย ขอให้ใช้ความสามารถหลักเกณฑ์

อ่านข่าว : "กองปราบ" กวาดล้างค้าผู้มีอิทธิพล - ค้าอาวุธออนไลน์

ไทม์ไลน์​เจรจากัมพูชาปรับกำลังช่องบก รมช.กลาโหมคงมาตรการชายแดน

"รศ.ดุลยภาค" ชี้พิพาทไทย-กัมพูชาศึกระยะยาว แนะตั้งวอร์รูมตอบโต้ทุกมิติ