วันนี้ (8 ส.ค.2568) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ออกแถลงการณ์เรื่อง เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สมเด็จ ฮุน เซน ระบุว่า เวลา 13.30 น. สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ 9/2568 ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารวิทยบริการและบริหาร
โดยมีวาระสำคัญที่ขอชี้แจงให้ทราบทั่วกัน คือ วาระที่ 5.1 เรื่อง ข้อเสนอเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของสมเด็จ ฮุนเซน โดยที่ประชุมได้อภิปรายและพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว มีมติให้เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ของสมเด็จ ฮุนเซน ด้วยเหตุผลดังนี้
ตามที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ 6/2544 วันที่ 16 ก.ค.2544 วาระที่ 5.1 ได้มีมติอนุมัติปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ให้แด่ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในขณะนั้น โดยส่วนหนึ่งของคำประกาศเกียรติคุณได้ระบุว่า “สมเด็จ ฮุนเซนได้เสริมสร้างและส่งเสริมความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพ และความร่วมมืออย่างดี ความสัมพันธ์โดยเฉพาะระหว่างกัมพูชากับไทย เป็นไปอย่างมีมิตรภาพและภราดรภาพ ฯลฯ”
บัดนี้ ปรากฏว่า สมเด็จ ฮุนเซน ประธานพฤฒิสภากัมพูชา สมาชิกรัฐสภากัมพูชา เสนาธิการ ทหารกองทัพกัมพูชา และพล.อ.อาวุโส ด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพกัมพูชา ได้แสดงพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับคำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว โดยมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐไทยอย่างชัดแจ้ง มีการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการใช้กำลังอาวุธอย่างรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมต่อประชาชนชาวไทย
เป็นเหตุให้ทหารและพลเรือนไทยต้องบาดเจ็บล้มตาย บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้ รวมตลอดทั้งสมเด็จ ฮุนเซน ส่งเสริมให้มีการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยของไทย
ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันตามแนวพรมแดนของทั้งสองประเทศ ดังที่ทราบโดยทั่วกัน พฤติกรรมที่กล่าวมานี้ สวนทางกับคำประกาศเกียรติคุณที่สมเด็จ ฮุนเซน เคยได้รับการยกย่องเชิดชูจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ดังนั้น หากปล่อยให้สมเด็จ ฮุนเซน ถือครองสิทธิในปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ดังกล่าวต่อไปย่อมทำให้สังคมไทยเกิดความเข้าใจผิดในเจตนารมณ์ของการมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ที่ได้เคยดำเนินการมาแล้ว
เมื่อพฤติกรรมของผู้ได้รับมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เปลี่ยนแปลงไป คำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว ย่อมสมควรจักต้องถูกลบล้างไปด้วย ซึ่งการลบล้างคำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว ดำเนินการได้ด้วยหนทางเดียวเท่านั้น คือ การเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่ได้เคยมอบให้แด่สมเด็จ ฮุนเซน
กอร์ปกับข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยการให้ปริญญากิตติมศักดิ์ พ.ศ.2560 ข้อ 5ระบุว่า “ผู้ที่สมควรได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิสมควรแก่ปริญญานั้น ๆ มีชื่อเสียงเกียรติคุณดีเด่น มีคุณธรรมและต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังต่อไปนี้ ... 5.2 เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือการงานที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประเทศชาติ หรือแก่สังคมนานาชาติ หรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมที่เกี่ยวเนื่องกับปริญญาที่จะได้รับ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของการมอบปริญญากิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ผู้ได้รับมอบจักต้องธำรงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์และคุณค่าของปริญญากิตติมศักดิ์นั้น ๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ของสมเด็จ ฮุนเซน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงมติเป็นต้นไป
อ่านข่าว : สธ.อัปเดตการเปิด-ปิด รพ.ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมแผนฟื้นฟู 8 ขั้นตอน
"เมียนมา" จ้าง "ล็อบบี้ยิสต์" ขอฟื้นความสัมพันธ์ "สหรัฐฯ"
"ศบ.ทก." ชี้ภาพรวมประชุม GBC สำเร็จ หวัง "กัมพูชา" จริงใจภาคปฏิบัติ