เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2568 เขตกาซากลับมาเป็นจุดสนใจระดับโลกอีกครั้ง หลังเกิดเหตุการณ์โจมตี รพ.นาสเซอร์ ในเมือง คานยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา ถึง 2 ครั้งซ้อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ในจำนวนนี้รวม นักข่าว 5 คน และ บุคลากรทางการแพทย์ 4 คน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากการโจมตีที่คร่าชีวิตนักข่าว 6 คนใกล้โรงพยาบาลอัล-ชิฟาในกาซาซิตี้
การโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นที่ รพ.นาสเซอร์ ทำให้ แพทย์, เจ้าหน้าที่กู้ภัย, และ ผู้สื่อข่าว รีบเข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ระหว่างนั้น ชายคนหนึ่งพบว่านักข่าวเสียชีวิต จึงหยิบกล้องและอุปกรณ์สื่อชูขึ้นเพื่อแสดงให้เห็น
ไม่นานหลังจากนั้น การโจมตีครั้งที่ 2 เกิดขึ้นที่ชานบันได ซึ่งเป็นจุดที่นักข่าวมักใช้รายงานข่าวหรือหาสัญญาณอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมองเห็นมุมสูงของเมืองคานยูนิส การโจมตีครั้งนี้ถูกบันทึกโดยกล้องของสำนักข่าวท้องถิ่น แสดงให้เห็นผู้คนวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนก
ภาพจากชานบันไดเผยให้เห็นชายคนหนึ่งชูไมโครโฟนและเครื่องส่งสัญญาณสด ท่ามกลางรอยเลือด ขณะช่วยลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตจากรอบแรก แต่ภาพจากกล้องขาดหายเมื่อเกิดการโจมตีครั้งที่ 2 ภายในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยความโกลาหล ฝุ่นควันจากการระเบิด และบุคลากรทางการแพทย์ที่พยายามอพยพผู้ป่วย
การโจมตีที่เกิดขึ้น 2 ครั้งซ้อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ในจำนวนนี้มีสื่อมวลชนรวมอยู่ด้วย 5 คนที่ทำงานให้กับสื่อระดับโลกทั้งสำนักข่า วReuters, AP, Al Jazeera, Middle East Eye
ผลกระทบต่อวงการสื่อเหตุการณ์นี้ทำให้ยอดนักข่าวที่เสียชีวิตในกาซาตั้งแต่เริ่มสงครามในเดือน ต.ค.2566 เพิ่มเป็น เกือบ 200 คน คณะกรรมาธิการความปลอดภัยสื่อ (CPJ) ระบุว่า สงครามในกาซาเป็น ความขัดแย้งที่อันตรายที่สุดสำหรับนักข่าว เท่าที่เคยบันทึกมา โดยมีนักข่าวเสียชีวิตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามากกว่าจำนวนนักข่าวที่เสียชีวิตทั่วโลกใน 3 ปีก่อนหน้า
การตอบสนองจากอิสราเอลกองทัพอิสราเอล ยืนยันว่าได้โจมตีบริเวณโรงพยาบาลนาสเซอร์ และสั่งให้มีการสอบสวน นายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู โพสต์บน X ว่า อิสราเอล "เสียใจอย่างสุดซึ้ง" ต่ออุบัติเหตุที่น่าเศร้าและย้ำว่าให้ความสำคัญกับนักข่าว, เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์, และพลเรือน และยังระบุว่าการโจมตีเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับกลุ่มฮามาส เพื่อเอาชนะและนำตัวประกันกลับบ้าน ปัจจุบันหน่วยงานทหารกำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้อย่างละเอียด
อ่านข่าวอื่น :
ไต้ฝุ่นคาจิกิถล่ม "เวียดนาม" ฝนตกหนัก-ลมแรงเสียหายหลายจุด
ทบ.แจงเหตุชาวกัมพูชาขวางวางลวดหนามบ้านหนองจาน ยันอยู่ในเขตไทย