ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"วุฒิสภา" ตั้ง กมธ.สอบประวัติ 2 แคนดิเดต กกต.

การเมือง
11:46
78
"วุฒิสภา" ตั้ง กมธ.สอบประวัติ 2 แคนดิเดต กกต.
"วุฒิสภา" ตั้ง กมธ.สอบประวัติ 2 แคนดิเดต กกต. พร้อมตั้งคำถามสัมภาษณ์รอบคัดเลือก "จะปฏิบัติหน้าที่ กกต.เกี่ยวกับการฮั้ว สว.อย่างไร?"

วันนี้ (1 ก.ย.2568) ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 2 คน แทนนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.และนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต.ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง

ได้แก่ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างปี 2561-2563 และนายณรงค์ รักร้อย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี และสมุทรสาคร ระหว่างเดือน ต.ค.2561-2566 โดยกำหนดเวลาการตรวจสอบเป็นเวลา 60 วัน นับแต่วันที่วุฒิสภาแต่งตั้ง ก่อนเสนอกลับเข้ามายังวุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเป็นชอบบุคคลดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ ตามรายงานการพิจารณาสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต.แทนตำแหน่งที่ว่าง ของคณะกรรมการสรรหาฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะ 1 ในคณะกรรมการสรรหาฯ ได้มีการสัมภาษณ์บุคคลทั้ง 2 ถึงความเห็นต่อกรณีที่มีข่าวเรื่องการฮั้วในการเลือกวุฒิสภา หรือ ฮั้ว สว.ว่า ถ้าได้ทำหน้าที่เป็น กกต.จะมีแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีนี้อย่างไร

นายอนันต์ ตอบว่า เรื่อง สว.ที่กำลังสอบสวน และกำลังดำเนินการ ตนมองเรื่องกระบวนการสรรหา สว.ในรอบนี้ว่า น่าจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร คือบทบาทความร่วมมือของภาคประชาชน กับกระบวนการสรรหา สว.มีค่อนข้างน้อย ซึ่งจะกลายเป็นเพียงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่เข้าไปสรรหาและคัดเลือกกันเอง โอกาสที่ภาคประชาชนหรือคนส่วนใหญ่ จะได้มีส่วนร่วมในการสรรหา สว.ค่อนข้างน้อย สว.ไม่ได้แสดงตน หรือประกาศตนให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ หรือประกาศอะไรต่าง ๆ ต่อสาธารณะ ทำให้กระบวนการในการสรรหาตรงนั้น ภาคประชาชนมีส่วนร่วมน้อยไป

แต่กรณีที่มีฮั้ว สว.หรือไม่นั้น ในความเห็นส่วนตัว ผมไม่ทราบข้อมูลที่ลึกจริง ๆ แต่ภาพออกมาน่าจะเชิงลักษณะนั้น อยู่ที่ กกต.ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ ในการตรวจสอบหรือดำเนินการอะไรต่าง ๆ และควรทำให้โปร่งใส และเปิดเผย

ที่สำคัญคือ เรื่องการสื่อสารต่อสาธารณะให้ชัดเจน ซึ่งจะช่วยลดข้อกังวลต่าง ๆ ได้ เหมือนที่ตนเองได้กล่าวตอนแรกว่า เมื่อไรประชาชนศรัทธาต่อองค์กรก็จะทำให้การทำงาน หรือ การดำเนินการอะไรต่าง ๆ ขับเคลื่อนไปได้ดี

ขณะที่ นายณรงค์ ตอบว่า ในการเลือก สว.ตามกฎหมายกำหนดไว้แบบนั้น กระบวนการในการบริหารจัดการจึงเกิดขึ้นแบบนั้น แต่กฎหมายบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญ ตนเองจำแน่นอนไม่ได้ว่า มาตราใด แต่ได้กำหนดให้วุฒิสภา ต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ อย่างไรก็ผิดกฎหมาย

แต่จะผิดอย่างไรขึ้นอยู่กับหลักฐาน หลักฐานที่ปรากฏว่า สอดคล้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงหรือไม่ ตนเองเห็นด้วยว่า การเลือกตั้งทุกระดับต้องสุจริต และเที่ยงธรรม ถ้าเกิดการเลือก หรือการเลือกตั้ง ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะทำให้ประเทศชาติ ผ่านวิกฤตที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันไปได้อย่างแน่นอน

อ่านข่าว : กกต.กำหนด 14 ก.ย.หย่อนบัตรเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 เชียงราย 

กกต.แจงกรอบเวลาดำเนินคดีฮั้ว สว. 4 ขั้นตอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 2  

กกต.รอฟังผลถก RBC ก่อนกำหนดวันเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ เขต 5 ใหม่