ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปลี่ยนเส้นทางบินไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นส่วนหนึ่งของ Flight Plan ที่รัดกุม

ไลฟ์สไตล์
13:08
226
เปลี่ยนเส้นทางบินไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นส่วนหนึ่งของ Flight Plan ที่รัดกุม
การบินที่ดูราบรื่น มาจาก Flight Plan ที่รัดกุม แต่เมื่อสถานการณ์ไม่คาดคิด ทำให้ต้องเปลี่ยนทิศทาง นักบินและทีมภาคพื้นจะจัดการอย่างไร ? เพราะ Plan well gets well plan ไม่ได้หมายถึงการยึดติดกับแผนเดิม แต่คือความพร้อมปรับตัวเพื่อ "ความปลอดภัย" ของคนบนเครื่อง

การเดินทางด้วยเครื่องบินที่คนทั่ว ๆ ไปเห็นว่าราบรื่น แท้จริงแล้วคือกระบวนการที่มีการวางแผนมาอย่างรอบคอบ แต่การเดินทางใด ๆ บนโลก สภาพอากาศ ฟ้าฝน หรือสถานการณ์บางอย่าง อาจนำมาซึ่งเหตุการณ์คาดไม่ถึงเสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน นักบินและทีมงานภาคพื้นดินจะรับมืออย่างไร เพื่อให้ผู้โดยสารบนเครื่องถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เพราะในวงการการบิน มักใช้คำว่า Plan well gets well plan ซึ่งไม่ได้หมายถึงการยึดติดกับแผนเดิมเสมอไป แต่หมายถึงการมีแผนที่ยืดหยุ่นพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

แผนการบิน (Flight Plan) คืออะไร ?

เอกสารของ IVAO อธิบายเรื่องของ Flight Plan คือเอกสารสำคัญที่ให้ข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเที่ยวบินหนึ่ง ๆ แก่หน่วยงานควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Control - ATC) เปรียบเสมือนพิมพ์เขียวหรือแผนที่นำทางของนักบิน ที่จะช่วยให้พวกเขาบินผ่านเส้นทางและหลีกเลี่ยงอุปสรรคได้อย่างปลอดภัย 

Flight Plan สําคัญมาก เครื่องที่ไม่มี ไม่หนี ไม่ส่ง Flight Plan แล้วขึ้นไปบิน จะโดนกองทัพอากาศของประเทศนั้น ๆ หมายหัวว่าเป็นเครื่องบินเถื่อน มีทางเดียวที่จะทราบได้คือ การส่ง F-16 ขึ้นไปทักทาย แนะนําแกมบังคับให้ลงจอด และมีกองเกียรติยศพร้อมอาวุธครบมือมาล้อมเครื่องบิน

ภายในแผนการบินมีข้อมูลมากมายที่ต้องกรอกอย่างพิถีพิถันและแม่นยำ ได้แก่

  • การระบุเครื่องบิน หมายเลขทะเบียนเครื่องบินและประเภทของเครื่องบิน รวมถึงชื่อสายการบิน
  • กฎการบินและประเภทเที่ยวบิน ระบุว่าเป็นการบินแบบใช้เครื่องวัดประกอบการบิน (IFR) หรือแบบใช้ทัศนวิสัย (VFR) เป็นเที่ยวบินพาณิชย์ หรือ ทั่วไป
  • จำนวน - ประเภทเครื่องบิน รวมถึงขนาดของเครื่องบินที่ส่งผลต่อการก่อกวนของกระแสอากาศ (Wake Turbulence Category)
  • อุปกรณ์บนเครื่อง เช่น อุปกรณ์นำทาง วิทยุ และระบบตรวจการณ์ (SSR) ที่ใช้งานได้
  • สนามบินต้นทาง - เวลาออกเดินทาง รวมถึงเวลาที่คาดว่าจะเคลื่อนตัวออกจากหลุมจอด (Estimated Off-Block Time - EOBT)
  • ความเร็ว ระดับการบิน และเส้นทางบินตามจุดต่าง ๆ
  • สนามบินปลายทางและเวลาไปถึง รวมถึงเวลาบินโดยประมาณทั้งหมดของเที่ยวบิน
  • สนามบินสำรอง สนามบินที่สามารถลงจอดได้ หากไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางเดิมได้
  • ปริมาณเชื้อเพลิงที่บรรทุก รวมถึงเชื้อเพลิงสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉินหรือการเปลี่ยนเส้นทาง
  • จำนวนผู้โดยสารและลูกเรือ
  • อุปกรณ์ฉุกเฉินและการเอาชีวิตรอด เช่น วิทยุฉุกเฉิน (ELT), เสื้อชูชีพ, แพชูชีพ รวมถึงสีและเครื่องหมายบนเครื่องบิน
  • ข้อมูลอื่น ๆ ข้อสังเกตจากผู้ทำการบิน (Dispatcher remarks), รายการอุปกรณ์ที่ใช้งานไม่ได้ (MELs), ประกาศนักบิน (NOTAMs), รายงานสภาพอากาศ

ใครเป็นคนเตรียม-ยื่น Flight Plan

ก่อนการบิน พนักงานอำนวยการบิน (Flight Operation Officer หรือ Dispatcher) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝน จะเป็นผู้เตรียม Flight Plan ต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและสร้างแผนที่เป็นเอกสารให้ครบถ้วน นักบินผู้รับผิดชอบเที่ยวบินจะศึกษาแผนนี้อย่างละเอียด และต้อง "ลงนามในเอกสาร หรือ Release" ซึ่งเป็นการยอมรับ Flight Plan อย่างเป็นทางการ และรับรองความพร้อมของเครื่องบินและลูกเรือ

Flight Plan จะถูกส่งต่อไปยังหน่วยบริการการจราจรทางอากาศ (ATC) ล่วงหน้าประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง เพื่อให้ ATC มีเวลาตรวจสอบและประสานงานกับเที่ยวบินอื่น ๆ ในน่านฟ้า

การเปลี่ยนเส้นทางการบินกะทันหัน ทำได้หรือไม่ ?

คำตอบคือ ได้ !

กัปตัน ธ. และ กัปตัน ต. จากสายการบินในประเทศไทย ให้ข้อมูลกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า Flight Plan สามารถเปลี่ยนแปลงกลางอากาศได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระดับความสูง เส้นทาง หรือแม้แต่จุดหมายปลายทาง นักบินจะเป็นผู้แจ้งความประสงค์ไปยัง ATC ขณะที่ทำการบินอยู่ จากนั้น ATC จะประสานงานและออกคำอนุญาตใหม่ให้

หากเป็นไปได้ ATC จะเป็นผู้แก้ไขข้อมูลในแผนการบินของเครื่องบินนั้น ๆ เพื่อให้หน่วยควบคุมจราจรทางอากาศลำดับถัดไปรับทราบ

การตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางกลางอากาศนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการการบินที่ยืดหยุ่นและเตรียมพร้อมมาแล้ว

โดยปกติ Flight Paln ที่จัดทำขึ้นแต่แรกจะมีการระบุสนามบินสำรองไว้แล้ว ซึ่งหมายความว่าได้มีการวางแผนเผื่อสำหรับการเปลี่ยนเส้นทางไว้บ้างแล้ว แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินที่ไม่ได้ระบุไว้ในแผนเดิม นักบินจะต้องประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการของสายการบินและ ATC เพื่อกำหนดสนามบินสำรองของสนามบินปลายทาง "ใหม่" ที่เหมาะสมที่สุด และดำเนินการแก้ไขแผนการบินที่มีอยู่ หรืออาจต้องยื่นแผนการบินใหม่หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลจำนวนมาก

เมื่อเปลี่ยนเส้นทางแล้ว การขอบินผ่านน่านฟ้าแต่ละประเทศที่ต้องบินผ่าน สำหรับการบินระหว่างประเทศโดยทั่ว ๆ ไป การขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้า หรือ Overflight Permits และการลงจอด Landing Permits อาจใช้เวลาแตกต่างกันไป ตั้งแต่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงไปจนถึง 45 วัน ขึ้นอยู่กับประเทศและลักษณะของเที่ยวบิน

แต่ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนเส้นทาง "กะทันหัน" เนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินหรือความจำเป็นกลางอากาศใด ๆ ก็ตาม ATC จะเป็นผู้ประสานงานเรื่องการบินผ่านน่านฟ้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ ซึ่งจะแตกต่างจากการขออนุญาตแบบปกติที่ต้องใช้เวลานาน 

ไม่ใช่ทุกสนามบินที่เปิด 24 ชั่วโมง

หากสนามบินปลายทางมีปัญหา ส่งผลให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ เช่น ปิดทำการตามตาราง หรือเกิดอุบัติเหตุจนต้องปิดฉุกเฉิน ในกรณีปกติทั่วไป นักบินมักตัดสินใจบินกลับสนามบินต้นทางและเริ่มต้นทำการบินใหม่ในวันถัดไป ข้อมูลจากกัปตัน ต. ได้ให้ไว้

แต่อีกกรณี ผู้ทำการบินก็สามารถขอเปลี่ยนเส้นทาง (Divert) ไปยังสนามบินอื่นได้ โดยนักบินต้องตัดสินใจเลือก "สนามบินสำรอง" ที่ถูกกำหนดไว้ใน Flight Plan โดยพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยที่เหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนั้น เช่น

  • สนามบินนั้นต้องสามารถรองรับเครื่องบินในสภาพการณ์ปัจจุบันได้ เช่น ขนาดของรันเวย์ และอุปกรณ์ช่วยการลงจอด
  • การบริการภาคพื้นดิน มีเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง, อะไหล่, เชื้อเพลิง, และเที่ยวบินสำรองสำหรับผู้โดยสารหรือไม่
  • บริการฉุกเฉิน หากเกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์หรือทางเทคนิค สนามบินควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์หรืออุปกรณ์กู้ภัยพร้อม
  • การดำเนินงานของสายการบิน สายการบินอาจเลือกสนามบินที่เป็นฐานหลักของสายการบินพันธมิตร หรือแม้แต่กลับไปสนามบินต้นทาง 

ส่วนคำถามที่หลายคนสงสัยว่า แล้วเครื่องบินขนาดเล็กสามารถลงจอดที่สนามบินขนาดใหญ่ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินชางงีของสิงคโปร์ หรือ สนามบินนานาชาติดูไบ ได้หรือไม่ ? กัปตัน ธ. ให้คำตอบคือ "ได้"

Priority ของเครื่องบินเล็กคือสนามบินเล็ก ซึ่งมักจะอยู่ใกล้ ๆ กับสนามบินใหญ่ เช่น ของไทยคือดอนเมือง แต่ถ้าไม่สามารถลงได้ ก็สามารถทำเรื่องไปขอลงที่สุวรรณภูมิแทนได้ ไม่ใช่ข้อห้าม ไม่ผิดอะไร 

แต่มีข้อควรพิจารณาหลายประการ เช่น ค่าธรรมเนียมสนามบินนานาชาติที่สูงมาก อาจไม่คุ้มค่าสำหรับเครื่องบินขนาดเล็ก เครื่องบินขนาดเล็กจะไม่ได้มีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการจัดการจราจรทางอากาศ และอาจต้องรอคิวเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ บางสนามบินอาจมีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ จำกัดการบินทั่วไปในช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่น เช่น สนามบินมิวนิก (MUC) ในเยอรมนี มีข้อกำหนดพิเศษเครื่องบินเล็กต่ำกว่า 2000 กก. ไม่สามารถลงจอดได้ เป็นต้น

แต่ในกรณียามฉุกเฉินจริง ๆ นักบินสามารถลงจอดที่สนามบินใดก็ได้ที่เห็นว่าปลอดภัย โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการรักษาชีวิต

การบริหารจัดการการบินนั้น เต็มไปด้วยความท้าทายและการปรับเปลี่ยนที่ไม่คาดฝัน การวางแผนการบินที่ดีไม่ใช่เพียงแค่ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบแค่นั้น แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเส้นทางกลางอากาศ การเลือกสนามบินสำรองที่เหมาะสม หรือการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทุกการตัดสินใจมีผลต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเที่ยวบิน

ในวงการการบิน มักใช้คำว่า Plan well gets well plan หรือ การวางแผนที่ดีย่อมได้ผลที่ดีตามแผนที่วาง แม้กระทั่งการบินเป็นวงกลมท่ามกลางมหาสมุทรอินเดีย ก็เกิดขึ้นได้หากนักบินเป็นฝ่ายขอบินวนเอง 

ที่มาข้อมูล : Changi AirportWhy Don’t They Just Land ?, Just Aviation

อ่านข่าวอื่น :

เจาะลึก Bombardier Global 7500 เจ็ตส่วนตัวสุดล้ำพา "ทักษิณ" สู่ดูไบ

ไทม์ไลน์ "ทักษิณ" แจ้งไปสิงคโปร์ ก่อนเปลี่ยนเส้นทางลงจอดดูไบใช้เวลาบิน 7.21 ชม.