วันนี้ (10 ก.ย.2568) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า จากการที่ กยศ. ได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) เป็นไปตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 และประกาศคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เรื่อง การปรับปรุงยอดหนี้ของผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ดังนี้
- นำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่
- เปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้เป็น ตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ
- คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี ของเงินต้นคงเหลือ
- ลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี ของเงินต้นงวดที่ค้างชำระ
แสดงยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ ในแอปพลิเคชัน กยศ.Connect เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป

ผู้กู้ยืมคำนวณหนี้ใหม่เรียบร้อยแล้ว ทำอย่างไรต่อ
- ผู้กู้ยืมที่มีเงินส่วนเกินจากยอดหนี้ที่ปรับปรุงใหม่ สามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ที่ คลิก
- ผู้กู้ยืมที่ยังมียอดหนี้คงเหลือ เมื่อผู้กู้ยืมชำระหนี้ระบบจะลดหนี้ภายใน 3 วันทำการ
การแสดงหน้าจอแอปฯ กยศ. Connect เป็นอย่างไร
- กรณีคำนวณใหม่แล้วยอดหนี้เป็น 0
- ผู้กู้ยืมชำระหนี้ปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว หรือ
- ผู้กู้ยืมมีเงินส่วนที่ชำระเกินจากยอดหนี้ที่ปรับปรุงใหม่ สามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืน ได้ที่เว็บไซต์ กยศ.
กรณีคำนวณใหม่แล้วยอดหนี้ลดลง
สำหรับผู้กู้ยืมที่มีเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับค้างชำระ เนื่องจากกฎหมาย กยศ. ลดเบี้ยปรับจากเดิม 12-18% และ 7.5% เหลือเพียง 0.5% และเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้เป็น "เงินต้นส่วนที่ครบกำหนด-ดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ" ตามลำดับ การคำนวณหนี้ใหม่ จึงส่งผลให้ยอดหนี้รวมลดลงกว่าการคำนวณหนี้แบบเดิม
กรณีคำนวณใหม่แล้วยอดหนี้เพิ่มขึ้น
เนื่องจากตั้งแต่ พ.ร.บ. กยศ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ และ กยศ. อยู่ระหว่างพัฒนาระบบ เงินที่ผู้กู้ยืมชำระเข้ามาในแต่ละครั้ง จะถูกนำไปลดเงินต้นทั้งหมด 100% ส่งผลให้เงินต้นลดลงกว่าความเป็นจริง โดยเงินที่ชำระยังไม่นำไปลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ
และเมื่อ กยศ. คำนวณหนี้ใหม่แล้วเสร็จ โดยตัด "เงินต้นส่วนที่ครบกำหนด-ดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ (ถ้ามี)" ตามลำดับ อาจทำให้ยอดเงินต้นคงเหลือเพิ่มขึ้น เนื่องจาก กยศ. นำเงินที่ผู้กู้ยืมชำระเข้ามาไปตัดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับที่ระบบยังไม่ได้ตัดก่อนหน้านี้

สำหรับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างคำนวณหนี้
หน้าจอระบบจะแสดงยอดหนี้ / ยอดหนี้ปรับปรุง ณ วันที่ 31 พ.ค. 2568 ในระหว่างนี้ ผู้กู้ยืมสามารถชำระเงินคืนได้ตามปกติ และเมื่อ กยศ. คำนวณหนี้แล้วเสร็จ จะแสดงยอดหนี้ทางแอป กยศ.Connect ต่อไป
อัปเดต คำนวณยอดหนี้ใหม่อีก 7.7 แสนบัญชี รวมเป็น 1.75 ล้านบัญชี
ขณะที่ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ดร. นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการ กยศ. ได้เปิดเผยว่า จากการที่ กยศ. ได้คำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้กับผู้กู้ยืมเงินเพื่อให้ผู้กู้ยืมเงินได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายในการเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้เป็น เงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ รวมทั้งการคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และลดเบี้ยปรับเหลืออัตรา 0.5% ต่อปีนั้น
ที่ผ่านมา กยศ. ได้คำนวณยอดหนี้ใหม่แล้วกว่า 980,000 บัญชี และล่าสุดได้คำนวณยอดหนี้ใหม่เพิ่มเติมอีกกว่า 770,000 บัญชี รวมทั้งหมดเป็นกว่า 1,750,000 บัญชี ซึ่งได้ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว โดยยอดหนี้ใหม่จะปรากฏในแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ตั้งแต่ วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นต้นไป และ กยศ. จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จจนครบถ้วนทุกบัญชีโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับผู้กู้ยืมที่ระบบแจ้งว่ามีเงินส่วนที่ชำระเกินจากยอดหนี้ ที่ปรับปรุงใหม่ สามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ที่เว็บไซต์ กยศ. ส่วนกรณีที่ยังมียอดหนี้คงเหลือสามารถชำระผ่าน Mobile Banking ของทุกธนาคารได้ โดยสแกน QR code หรือสามารถชำระผ่านช่องทางอื่น ๆ ที่ กยศ. กำหนด โดยระบบจะลดหนี้ภายใน 3 วันทำการ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th
พร้อมยืนยันว่า กยศ.จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการคำนวณยอดหนี้ใหม่ส่วนที่เหลืออย่างละเอียดรอบคอบในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่ายอดหนี้ที่ปรากฏในระบบเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรวจสอบได้ และผู้กู้ยืมเงินจะไม่เสียสิทธิตามกฎหมายอย่างแน่นอน
อ่านข่าว : ฟื้น "คนละครึ่ง" รัฐบาลอนุทิน กระตุ้น(คะแนนเสียง)เศรษฐกิจสีเงิน
สภาฯ อัปเดต สส.ล่าสุด ชุดที่ 26 จำนวน 491 คน
กทม. เตือนพื้นที่เฝ้าระวัง หลังพบสัตว์ป่วย "โรคพิษสุนัขบ้า" เช็กจุดไหนบ้าง
แท็กที่เกี่ยวข้อง: