วันนี้ (13 ก.ย.2568) บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทยคึกคักตลอดทั้งวัน โดยช่วงบ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาที่พรรคเพื่อประชุมกับ ว่าที่รัฐมนตรีหลายกระทรวง รวมถึง ศาสตราจารย์ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดนโยบายในการบริหารประเทศ ตามกรอบเวลา 120 วัน ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
สำหรับนโยบายบริหารประเทศ 120 วัน ที่จะแถลงต่อรัฐสภาก็จะตอบรับกับปัญหา 4 ด้านที่ได้แถลงต่อประชาชนไปแล้ว คือ 1.ปัญหาเศรษฐกิจ จะเร่งดำเนินมาตรการลดรายจ่าย ค่าครองชีพ รวมทั้งแก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เช่น ที่ออกมาก่อนหน้านี้คือโครงการคนละครึ่ง และพูดคุยกันอยู่คือ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
2.เร่งแก้ปัญหากรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อลดความสูญเสียของประชาชน เร่งชดเชยให้พี่น้องผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว 3.เรื่องภัยธรรมชาติ จะต่อยอดทำระบบเตือนภัย และระบบเยียวยาฟื้นฟู และ 4.จะแก้ปัญหาภัยสังคม โดยจะเร่งปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนัน การพนันออนไลน์ โดยสร้างความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งภารกิจคือการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะแถลงต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ทำเร็วเพราะเข้ามาปุ๊บมีนโยบายเตรียมพร้อม ทำหนังสือขอให้ประธานรัฐสภา เปิดประชุมเพื่อแถลงนโยบายและยุบสภาทันทีตามกรอบเวลาที่ตกลงไว้
ส่วนรายละเอียดเตรียมไว้แล้ว เช่น การการแก้ไขสถานการณ์ไทย-กัมพูชา การทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งยืนยันไม่กดดันกับระยะเวลาอันสั้นและต้องทำงานภายใต้ MOA ของพรรคประชาชน
กระแสคัดค้านการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสคัดค้านการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้ยังไม่เปิด และต้องมีการเจรจา ทำข้อตกลง และประเมินด้านความมั่นคง โดยความปลอดภัยของประชาชนและประเทศเป็นหลัก
เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารจะมอบนโยบายให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการ ทั้งการถอนอาวุธ และเก็บกู้ระเบิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้ทั้งสองประเทศ เช่น การถอนอาวุธและเก็บกู้ระเบิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้ทั้งสองประเทศ การเจรจาต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ทั้งการทหารและการผ่อนคลายกดดัน
ส่วนการพบปะกับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายอนุทิน ระบุว่า ารเจอกันไม่ได้หมายความว่าต้องยอมกันหรือไม่ การเจอกันอาจทำให้บรรยากาศหลายอย่างหรือสิ่งที่พูดแล้วไม่เข้าใจกัน หาข้อสรุปบางอย่างได้ โดยยืนยันว่าไทยจะไม่เสียเปรียบ ไม่ยอมให้เกิดการเสียดินแดนเรื่องที่จะทำให้คนไทยเป็นอันตรายตนก็จะไม่ให้เกิดขึ้น
เป็นนายกฯ ประเทศไทยนะครับ ไม่ใช่นายกฯ ประเทศอื่น ฉะนั้นต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย ของคนไทย เป็นประเด็นหลักอยู่แล้ว
ส่วนการลงพื้นที่รับฟังประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า "เรื่องลงพื้นที่ มีใครสู้ผมได้ เพราะทำมาตลอดตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จนเขาเชิญออกจำไม่ได้หรือ "ขยันจนถูกไล่ออก"
เมื่อถูกถามว่าจะดำเนินการทันภายใน 4 เดือนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน ตราบใดที่ยังอยู่ในขอบเขตอำนาจก็ต้องใช้อย่างเต็มที่ แต่จะทำได้แค่ไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์
โผ ครม.อนุทิน 1 ขยับ 3 ตำแหน่ง
ขณะที่ความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม.อนุทิน 1 นายอนุทิน คาดว่า เร็วๆนี้ จะสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายได้ แต่ก็ยอมรับมีการขยับบางตำแหน่ง คือการเพิ่มโควตารัฐมนตรีคนนอกเพิ่ม 1 ตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรววกลาโหม
สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอยังไม่เปิดเผย ส่วนแคนดิเดตรัฐมนตรี มีจะความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับคนในจังหวัดบุรีรัมย์หรือไม่นั้น นายอนุทิน ออกตัว ว่าเรื่องความสัมพันธ์ของทุกคนก็มีเหมือนไม่ต่างกัน
การจัดตั้งโผ ครม.อนุทิน 1 ล่าสุด มีรายงานแจ้งว่า มีชื่อ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ หรือ บิ๊กดุลย์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 อาจเข้ามาเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในโควตาคนนอก เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในงานพื้นที่
พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ หรือ บิ๊กดุลย์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2
พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ หรือ บิ๊กดุลย์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2
ขณะที่บุตรสาวของนายนิพนธ์ บุญญามณี ได้ออกหนังสือและแจ้งถอนตัว โดยอ้างอิงเหตุผลเรื่องธุรกิจและกิจการของครอบครัว ที่ต้องสานต่อและยังไม่ได้วางตัวบุคคลใดขึ้นมารับตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แทนในโควตานี้
และวันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 59 ปีของนายอนุทิน ทำให้บรรยากาศที่ทำการพรรคภูมิใจไทย คึกคัก มีบรรดานักธุรกิจ นักการเมือง คนใกล้ชิด ทยอยเดินทางเข้ามาแสดงความยินดี รวมถึงนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นำบรรดา ทีมงาน สจ.สงขลา กว่า 20 คน เข้าร่วมมอบดอกไม้ และสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
นอกจากนี้ ยังมีแจกันดอกไม้และสิ่งของมากมาย ถูกส่งมามอบให้นายอนุทินในวาระพิเศษเช่นนี้ อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และภริยา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
"อนุทิน" ขอพรวัย 59 ปี ให้ประเทศชาติสงบสุข ประชาชนอยู่ดีกินดี
นายอนุทิน กล่าวถึงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 59 ปีว่า ตนขอให้ประเทศชาติสงบสุข เจริญก้าวหน้า ประชาชนสามัคคี อยู่ดีกินดี ซึ่งเป็นคำขอมาโดยตลอด ไม่ใช่เพียงปีนี้เท่านั้น
สำหรับปีนี้ซึ่งเป็นปีครบรอบ 59 ปี นายอนุทินกล่าวว่า คงแตกต่างจากทุกปี เพราะต้องทำงานหนักขึ้นหลายเท่าตัว แต่ก็จะทำอย่างเต็มที่ “อย่างน้อยได้บอกไปแล้วว่า ไม่มีวันหยุด ก็ต้องไม่มีวันหยุดจริงๆ”
ทั้งนี้ ภายหลังการสัมภาษณ์ นายอนุทิน ได้เดินไปทักทายผู้ที่มาอวยพรวันเกิดตนเอง โดยพบสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายก อบจ. สงขลา และทีมงาน อบจ. สงขลา ประมาณ 20 คน ที่ได้ยื่นเอกสารสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยกับมือนายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคใดตั้งแต่เกิด นายอนุทินได้พูดเป็นภาษาใต้ว่า "ยินดีต้อนรับ"
โดยนายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทยได้พูดแซวว่า ยกทีมสงขลา ขณะที่นายอนุทิน พูดสำทับว่า กระบี่ด้วยสิ ทำให้นายสฤษฎ์พงษ์ กล่าวว่า "กระบี่ยกแล้วครับ" นายอนุทินจึงหันไปหานายทวี สุระบาล ส.ส.ตรัง ว่า "ตรังด้วย"
นายทวีระบุว่า ตรังยกไปก่อนแล้ว ก่อนที่นายสฤษฎ์พงษ์จะระบุทิ้งท้ายว่า อันดามัน 6 จังหวัดไปแล้วครับ จากนั้นนายนิพนธ์ บุญญามณี ได้นำดอกไม้มาอวยพรนายอนุทิน พร้อมกระซิบอวยพรว่า "4+4 นะครับ" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 4+4 เป็นโค้ดที่อาจหมายถึงการเป็นรัฐบาล 4 เดือน ที่จะอยู่ต่อไปอีก 4 ปี
อ่านข่าว : ก.ล.ต.แจงยังไม่มีใครขอออกพันธบัตรดิจิทัล ซื้อโดรนเกษตรอัจฉริยะ
กพท.ยังห้ามบินโดรนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน-พื้นที่ความมั่นคง
"สีหศักดิ์" ระบุต้องรอดูท่าทีเขมร หลังเจรจา GBC ก่อนตัดสินเปิด-ปิดด่าน