วันนี้ (29 ก.ย. 68) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายนโยบายรัฐบาล เน้น 3 ประเด็นหลัก คือ 1.นโยบายเหมาะสมหรือไม่ทำได้หรือไม่ ทำดีหรือไม่ และทำเป็นหรือไม่ โดยไม่ได้ประมาทความสามารถของคณะรัฐมนตรี ด้วยมองเวลาอย่างจำกัด 4 เดือน ภายใต้งบประมาณที่จำกัด
2.รัฐมนตรีและความสามารถในการบริหารนโยบาย จะชี้เห็นว่า นโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไม่มีความสำเร็จ หรืออาจกลายเป็นโมฆะ เพราะผู้บริหารนโยบายเป็นผู้ที่ไม่เหมาะสมไม่มีคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้าม
3.โอกาสของประชาชนที่จะสูญเสียไปจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลนี้ โดยยกปกโปสเตอร์การยุบสภา 4 เดือน ตั้งข้อสังเกตว่าจะใช้เวลาดึงถ่วงคดีที่เป็นปัญหาอยู่ หรือหลังจากนั้นจะเป็น 4 หายนะให้กับประเทศ โดย สส.พรรคเพื่อไทย 26 คนที่จะลงรายละเอียด
นพ.ชลน่าน ยังหยิบยก ข้อ 1.จำกัดเรื่องเวลา โดยเฉพาะการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และการทำตามภารกิจเฉพาะจึงตั้งชื่อรัฐบาลนี้ว่า “รัฐบาลเฉพาะกิจ” โดยเฉพาะการออกนโยบายเฉพาะกิจ และสิ่งที่ทำไม่ได้ คือ นโยบายตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดเอาไว้ ตาม MOA ที่ในเล่มนโยบายไม่มีการกำหนดเกี่ยวกับการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวว่า ยอมรับว่าการที่รัฐบาลตั้งรัฐมนตรีคนนอกเข้ามาบริหารประเทศเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็เป็นความแยบยลที่สวยงาม ขณะเดียวกันมีการตั้งรัฐมนตรีเพื่อคะแนนนิยมในพื้นที่เพื่อหวังอำนาจใน 4 ปี ช่วงการเลือกตั้ง จึงเห็นว่า นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาเป็นปัญหามากกว่าทางออก
ไม่ใช่ปัญหาธรรมดาแต่จะเป็นปัญหาที่เข้าขั้นหายนะ ถ้าไม่ตระหนัก ไม่สำนึก ไม่เฝ้าระวัง ฝากท่านประธานไปถึงประชาชนคนไทย ถ้าคิดตามจะเห็นภาพในอนาคต ทุกสิ่งที่ได้เล่ามาในเบื้องต้นไม่สามารถทำได้ พอทำไม่ได้ 4 เดือนที่จะยุบสภาก็นำมาซึ่ง 4 เดือนแห่งการยุบคดี
นายชลน่าน ยังชี้ว่า 2.นโยบายของรัฐบาลขาดประชาธิปไตย โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภาที่มีข้อสงสัยว่าการได้มามีกระบวนการฮั้ว สว.หรือไม่ พร้อมกล่าวถึงพรรคประชาชนที่ยอมแลกเพื่อได้มาซึ่ง "สัญญาลมปาก" เกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญซึ่งจะต้องมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการทำให้วุฒิสภายืนยันในการสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยมองว่า อย่างแย่ที่สุด คือ ไม่ผ่านวาระ 1 หรือ ไม่ผ่านวาระ 3 หรือผ่านได้ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการจัดทำฉบับใหม่
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วธรรมนูญฉบับใหม่จะถูกยกร่างด้วยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากสีน้ำเงิน และรัฐธรรมนูญเป็นสีน้ำเงิน เชื่อว่าหากนำไปทำประชามติก็จะไม่ผ่านและจะเข้าทางผู้ที่ไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ

3.และยังกล่าวถึงนโยบายเฉพาะกิจเพื่อการเลือกตั้ง ด้วยการวางตำแหน่งรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี หรือ กลไกที่วางเข้ามา ก่อนจะตั้งชื่อนี้ว่า "รัฐบาลอนุวิน" หรือ "รัฐบาลเนทิน" หรือ "รัฐบาลหนูเน" สะท้อนได้ว่า กลไกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจบริหารอย่างแท้จริง
ชี้ 4 หายนะประเทศ
นายชลน่าน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า และกลายเป็น 4 หายนะของประเทศ ที่ประกอบด้วย 1.หายนะทางประชาธิปไตย การจัดทำรัฐธรรมนูญที่สำเร็จมาไม่ได้ด้วยการทำลายในระบบรัฐสภา ที่มา สว.สีน้ำเงิน 2. หายนะด้านความโปร่งใสและหลักนิติธรรม รัฐบาลเฉพาะกิจหรือตัวแทนของผลประโยชน์ท้องถิ่น 3.หายนะด้านการบริหารจัดการประเทศ หลายปัญหาเร่งด่วนมาจากปัญหาที่รัฐบาลนี้เคยก่อเอาไว้ และ 4.หายนะทางโอกาสของประชาชนที่หลายนโยบายประชาชนได้ประโยชน์และกำลังสำเร็จไม่ได้ไปต่อ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ , รถไฟฟ้า 20 บาทต่อสาย ทั้งที่สถิติการใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่รัฐบาลนี้กลับยกเลิกเป็นการทำลายโอกาสของประชาชน
และยอมรับการทำการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ที่มีคนไหลเข้าพรรคภูมิใจไทย แต่ขออย่าประมาทประชาชน ว่า 4 เดือนเข้ามายุบสภา จะบ่งชี้ว่า เข้ามายุบคดีหรือไม่ที่จะต้องพิสูจน์ ก่อนจะทิ้งท้ายเน้นย้ำถึงการนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ยุบสภาหรือยุบคดี 4 เดือนเพื่อ 4 ปี กินทั่วประเทศไทย
อำนาจสภาผู้แทนราษฎรของสีน้ำเงิน อำนาจวุฒิสภาเป็นสีน้ำเงิน อำนาจองค์กรอิสระเป็นสีน้ำเงิน อำนาจราชการเป็นสีน้ำเงิน ทั้งประเทศน้ำเงินทั้งหมด ท่านกำลังเอาสิ่งที่ประเสริฐลงมาคลุกกับการเมือง หมายถึงไม่เคารพสีน้ำเงิน ผมทนไม่ได้ เราเป็นผู้คนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สีน้ำเงินเป็นสีสัญลักษณ์ของสถาบัน การเอาสีน้ำเงินลงมาในสิ่งที่ไม่ควรเป็นสิ่งที่ไม่สบายใจ ประชาชน 67 ล้านคนไม่สบายใจ และไม่หากไม่ช่วยกันอย่างระมัดระวังการกินรวบประเทศจะเกิดขึ้น การลงทุนของพรรคประชาชนจะสูญเปล่า เรามาเฝ้าดู
อ่านข่าว : ถ่ายทอดสด "รัฐบาลอนุทิน" แถลงนโยบายต่อรัฐสภา วันแรก 29 ก.ย.
เปิดคำแถลงนโยบาย "รัฐบาลอนุทิน" ยึดหลักบริหาร 3 ประการ ลุยคนละครึ่ง-ค้านกาสิโน
"ภูมิใจไทย" ชูแคมเปญ "4 เดือน 4 ภารกิจหลัก" เน้นแก้ "เศรษฐกิจ-ภัยความมั่นคง"