ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พล.อ.รังษี เปิดเล่ห์เขมร “ลอบวางระเบิด” สร้าง นักการเมืองสแกมเมอร์

การเมือง
15:12
142
พล.อ.รังษี เปิดเล่ห์เขมร “ลอบวางระเบิด” สร้าง นักการเมืองสแกมเมอร์

เขมรละเมิดข้อตกลง ลอบเข้ามาวางกับระเบิดที่ห้วยตามาเรีย ชายแดนไทย-กัมพูชา และมีทหารไทยขาขาดเป็นรายที่ 7 เมื่อ 10 พ.ย.2568 ทำให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ต้องประกาศสะบั้นปฏิญญาสันติภาพที่เคยมีต่อกัน แม้ยังไม่เปิดปฏิบัติการดีเดย์ แต่ทั้งสามเหล่าทัพยืนยันตรงกัน ในการรักษาสิทธิป้องกันตัวเองจากการถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม และหากจำเป็นต้องปะทะก็พร้อมลุย

พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สำนัก งานปลัดกลาโหม วิเคราะห์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “ไทยพีบีเอส ออนไลน์” ว่า กัมพูชาไม่เคยแสดงความจริงใจกับประเทศไทย แม้แต่ครั้งเดียวจากการกระทำที่ผ่านมา เขมรได้เพิ่มเติมกำลังและเข้ามาสร้างถนนบริเวณชายแดนด้าน “ภูมะเขือ” โดยพร้อมจะเอาภูมะเขือคืนได้ตลอดเวลา รวมถึงปราสาทตาควาย ซึ่งอาศัยช่วงจังหวะเวลาที่ให้หยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ส่งกำลังเข้าไปที่เนิน 350 ซึ่งถือว่าละเมิดข้อตกลง เพราะเขาเอากำลังเข้าไปหลังเที่ยงคืนที่มีการหยุดยิงแล้ว แสดงให้เห็นว่า กัมพูชาจะใช้วิธีการ คือ จัดประชุมเปิดโต๊ะเจรจา แล้วก็ละเมิด ข้อตกลงทุกครั้ง เมื่อประชุมเสร็จแล้ว ส่วนไทยก็มีหน้าที่ประท้วง หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะเหิมเกริมหนักขึ้น

ไทยจะต้องมีจุดยืนให้ชัดเจนว่า หากกัมพูชาละเมิดข้อตกลงแล้ว เราควรจะดำเนินการอย่างไร ไม่เช่นนั้น เขาจะใช้โมเดลนี้รุกล้ำอธิปไตยของเราเข้ามาไม่หยุด

ประเด็นสำคัญที่ ฮุน เซน อดีตนายกฯกัมพูชา กล้าทำขนาดนี้ เชื่อว่า มีผู้สมคมคิดกับเขาในประเทศไทย เพราะมันรู้เรื่องตลอด หากย้อนกลับไป หลังจากที่มีการปล่อย คลิปอังเคิล ออกมา ฮุน เซน สามารถบอกได้เลยว่า ไทยจะเปลี่ยนตัวนายกฯ ภายใน 3 เดือน แล้วก็เปลี่ยนจริง ๆ

พล.อ.รังษี กล่าวว่า ตรงนี้คนไทยทั้งประเทศ ควรตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม มันก้าวนำหน้าเราตลอดเวลา และยังรู้เรื่องการเมืองไทย ในสิ่งที่คนไทยเข้าไม่ถึง ฮุน เซน ทราบได้อย่างไร จุดนี้ชี้ให้เห็นว่า ต้องมีผู้ที่สมคบคิดกับเขาในการวางแผน เพราะการที่กัมพูชาประลองกำลังกับทหารไทย ตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา แม้เขมรจะเสียหายหนัก มีทหารตาย 4-5 พันคน ต่อมาเขมรเรียกแรงงานเขมรกลับประเทศ 9 แสนคน ก็เกิดปัญหา เพราะมีการจ้างงานจริงแค่ 1.5 แสน ส่วนอีก7.5 แสนตกงาน ปัจุบันยังมีคนเขมรลักลอบเข้ามาทำงานในไทย แต่ก็ถูกสกัดกั้น

“การที่เราปิดด่านทำให้ พวกสแกมเมอร์ ล่อลวงเหยื่อไม่ได้เหมือนเดิม การท่องเที่ยว ภาคบริการ กาสิโน ร้านอาหาร สินค้าการเกษตร มะม่วง มันสำปะหลัง และสินค้าอื่น ๆที่เคยส่งเข้ามาก็ทำไม่ได้ เพราะเราปิดด่าน แม้ น้ำมันยังหลุดไปได้ทางเรือ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นกำลังทหาร หรือด้านเศรษฐกิจ ยังไงเขมรก็สู้ไม่ได้”

ดังนั้นวิธีการเดียวที่จะเล่นงานประเทศไทยได้ คือ ด้วยการลักลอบเข้ามาวางระเบิด และพยายามใช้ประเทศที่สามดึงไทยเข้าสู่โต๊ะเจรจา ให้มาเลเซีย หรือพวกประเทศที่สามสี่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้ง ๆ ไม่ถูกต้อง เพราะการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องทวิภาคี ....คนไทยต้องตระหนักว่า มีผู้สมรู้ร่วมคิด ซึ่งเป็นพวกนักการเมืองที่รับเงินจากแก๊งสแกมเมอร์

พล.อ.รังษี บอกว่า ปัจจุบันเราได้เห็นแล้วว่า มีนักการเมืองและพวกที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ พนันออนไลน์ และถูกปปง.มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจากร่องรอยของคดีดังกล่าว จะบอกว่าไม่มี ไม่ได้ เพราะในการเลือกตั้งปี 2566 ได้มีพวกสแกมเมอร์ หลุดเข้ามาอยู่ในสภาจริง ได้เป็นนักการเมืองเพราะการซื้อเสียงเข้ามา

และการเลือกตั้งในปี 2569 ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าว่า ประชาชนต้องเลือกแล้วว่า จะเอาอย่างไร ต้องไม่ขายเสียง และให้ตระหนักว่า พวกที่มาแจกเงินต้องตราหน้ามันไว้เลยว่า รับเงินสแกมเมอร์มา แล้วมันก็จะเป็นขี้ข้าของ ฮุน เซนไปตลอด แล้วก็จะถูกแบล็กเมล์ หากนักการเมืองสแกมเมอร์ ไม่ทำตามคำสั่ง ถ้าคนกลุ่มนี้เข้าสภามาได้เยอะสัก 200-300 คน ก็จะคุมได้ทั้งคณะรัฐบาล เพราะเขมรรู้อยู่แล้วว่าการใช้กำลังและเศรษฐกิจ สู้ไทยไม่ได้เลย

“ผมตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 2566 มันมีการทดลองชี้เงินสแกมเมอร์ ซื้อเสียงแล้วได้ผล มีนักการเมืองสแกมเมอร์ หลุดเข้ามา ตั้งพรรคพวกเป็นที่ปรึกษา จึงเชื่อว่าการเลือกตั้งปี 2569 จะมีการใช้เงินสแกมเมอร์ ซื้อเสียงเข้ามาในสภาแบบชนิดที่เรียกว่าทุ่มสุดตัว แม้สหรัฐฯ อังกฤษ เกาหลีใต้ ใต้หวัน สิงคโปร์ จะยึดเงินไป แต่ยังมีเงินเหลืออีกมาก จึงต้องระวังให้ดี”

สำหรับข้อมูลที่ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร.ออกมาเปิดเผยว่า มีอดีตนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา และมีการตั้งฐานในต่างประเทศเพื่อฟอกเงินสแกมเมอร์

“ข้อมูลบิ๊กโจ๊ก ใครจะว่าอย่างไร ผมไม่รู้ แต่ส่วนตัวเห็นว่า เชื่อถือได้ เขาเป็นตำรวจและทำคดีประเภทนี้มานาน มันชี้ได้ว่า ขณะนี้มีเงินจากวงจรดังกล่าวขึ้นมาถึงในระดับผู้นำแล้ว วันนี้ประชาชน เป็นสารตั้งต้นในฐานะผู้เลือกคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศเลือกสส. เพื่อให้สส.ไปเลือกนายก ฯ และนายกฯเลือกรัฐมนตรี ซึ่งจะรมต.จะต้องไปแต่งตั้งข้าราชการ ถ้าได้พวกสแกมเมอร์เข้ามาก็จะเป็นห่วงโซ่ กลายเป็นพวกเดียวกันหมด ประเทศจะไปต่อได้อย่างไร หากเต็มไปด้วยทุนสีเทาเต็มเมือง”

“เงินทุนจากเว็บพนันออนไลน์ ของกลุ่มวัยรุ่นสร้างตัว ที่ฟอกตัวซื้อเสียงเป็นสส.เข้ามาในสภา เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ และมีข้อเท็จจริง 80-90 เปอร์เซ็นต์ เราอย่าไปมองว่า “บิ๊กโจ๊ก” ออกมาพลีชีพเรื่องนักการเมืองสแกมเมอร์ เพราะต้องการกลับมาเป็นผบ.ตร. แต่ควรมองว่า สิ่งที่เขาโดนมาคือ อะไร และทำไมจึงออกมาเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ...สำหรับบิ๊กโจ๊ก หากสามารถล้างมลทินในคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เสร็จสิ้นทั้งหมด เชื่อว่า มีหลายพรรคการเมืองสนใจทาบทามมาเล่นการเมืองแน่นอน”

ส่วนการฉีกปฏิญญาสันติภาพ ไทย-กัมพูชา หลังเขมรละเมิดข้อตกลงนั้น พล.อ.รังษี กล่าวว่า อยากเสนอให้ไทยยกเลิกข้อตกลง JBC 13 ข้อที่ตกลงหยุดยิง รวมถึงยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ไปเลยเพราะเมื่อประกาศยกเลิกแล้วแสดงว่าเราไม่มีพันธะผูกพันกับกัมพูชาแล้ว

“สิ่งแรกต้องทำคือ เอาคืนพื้นที่หมู่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว และผลักดันเขมรออกให้หมด แล้วสร้างรั้วกั้นเลยเพราะอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย รวมทั้งพื้นที่ตรงบ่อน 5 เส้นที่สายตะกู ฝั่งตรงข้ามจ.บุรีรัมย์ รื้อให้เกลี้ยง เพราะมันสร้างเข้ามากินพื้นที่ของ เรา หลายอย่างเราสามารถประกาศเอาคืนได้เลยในส่วนที่เป็นพื้นที่ของเราจริงๆ หลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอให้เกิดการปะทะด้วยซ้ำ”

พล.อ.รังษี กล่าวว่า จริง ๆ การแก้ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ผู้นำ หากเราได้ผู้นำที่สามารถสร้างจุดสมดุลทางยุทธศาสตร์ได้ ก็ไม่ต้องกังวลว่า จีน หรือสหรัฐฯจะเข้ามาก้าวล่วง หากผู้นำเรากล้ารับผิดชอบ และกล้าตัดสินใจ ...อย่าลืมว่านายกฯไม่ได้อยู่คนเดียว สามารถสั่งการได้ ทั้งการทหาร การต่างประเทศ และตำรวจ ซึ่งใช้อำนาจดำเนินการ

“ผมก็เหมือนคนไทยตั้งประเทศ อยากให้มันจบ ๆ การยืดเยื้อไม่ได้เป็นวิธีที่ถูกต้อง กัมพูชาทำผิดข้อตกลง 600 กว่าครั้งจะครบ 700 อยู่แล้ว เราจะต้องไปสนใจอะไร เพราะศักยภาพเราเหนือทุกอย่าง เราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม เขมรมันเริ่มก่อน การจะหาคนดำเนินการก็ต้องหาคนที่เด็ดขาด คิดถึงผลประโยชน์ปร ะเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก อย่าลืมว่า นายกฯมีประชาชนที่เป็นกำแพงเหล็กให้ถึง 68 ล้านคน”

อดีตที่ปรึกษาสนง.ปลัดกลาโหม วิเคราะห์อีกว่า หากมองสถานการณ์ไทย-กัมพูชาขณะนี้ คนไทยอาจต้องทนต่ออีก 3 เดือน ...นายกฯหนู เข้ามาก็เจอสถานการณ์ต่าง ๆที่กดดัน หากเป็นเหตุการณ์ปกติ ก็ทำงานได้ แต่นี่เจอวิกฤตรอบด้าน จึงควรได้คนจิตแข็งและมีสติตลอดเวลามาทำงานด้วย และต้องคิดว่าจะดำเนินการอย่างไรกับศัตรู

“ใครเป็นนายกฯ ก็ต้องเครียด มาเจอศึกสงคราม แถมมาเจอมนุษย์พันธุ์พิเศษอย่าง ฮุน เซน ถ้าไม่เหี้ยมกับเขา และไม่กล้าตัดสินใจแลกกับเขา มันก็จะเจอแบบนี้ไปเรื่อย ๆ...โอกาสเผชิญหน้า ตอนนี้อยู่ที่ ฮุน เซน ว่าจะเปิดเกมกับเราอย่างไร แต่เชื่อว่า สามเหล่าทัพของเราพร้อมรบตลอดเวลา” พล.อ.รังษี ทิ้งท้าย

อ่านข่าว :

แจ้งเกิด “พล.อ.รังษี” ดาวรุ่งการเมืองคนใหม่ “สงครามไทย-กัมพูชา”

ควานหาสันติภาพ"ทหารไทยเหยียบกับระเบิด"เสียงปริศนาสั่งหยุดยิง

ผ่าองค์กรอาชญากรรมจีนข้ามชาติ "เงาปีศาจ" บงการธุรกิจมืด