อีก 5 ปีจะเกิดอะไรขึ้น? "จีน-ญี่ปุ่น" ประกาศยกระดับด้านกองทัพ ให้ทันปี 2027

เริ่มต้นที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 จากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยเทียบชาติตะวันตก ภาพในปี 2027 หรืออีก 5 ปีนับจากนี้  แม้ว่าแสนยานุภาพของจีน ยังพอที่จะพอฟัดพอเหวี่ยงกับสหรัฐฯ อยู่บ้าง แต่ด้านฝีมือการรบนั้นยังดูจะเป็นรอง และยังมีกระแสข่าวว่าจีน จ้างอดีตนักบินอังกฤษมาฝึกทหารจีนอีกด้วย 

ส่วนต้นสายปลายเหตุของการยกระดับกองทัพจีนนั้น มาจากข้อพิพาทกับไต้หวัน และจีนก็มีการซ้อมรบรอบ ๆ เกาะไต้หวัน เพื่อเป็นการตอบโต้การเดินทางเยือนของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ขีปนาวุธที่จีนซ้อมรบ ตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น 5 ลูก ซึ่งเป็นสัญญาณให้ญี่ปุ่นต้องตื่นตัวและเฝ้าระวังให้มากขึ้น

ญี่ปุ่นอาจถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งกับจีนโดยอัตโนมัติเนื่องจากหมู่เกาะบางแห่งอยู่ห่างจากไต้หวันไม่ถึง 200 กิโลเมตร ฐานทัพทหาร สนามบิน ท่าเรือและศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของญี่ปุ่นอาจตกเป็นเป้าหมายการยิงขีปนาวุธโจมตีจากจีน

เนื่องจากแสนยานุภาพทางการทหารของญี่ปุ่นยังเป็นรองจีนทั้งด้านงบประมาณ กำลังพล รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ พรรครรัฐบาล LDP เตรียมเพิ่มงบกลาโหมอีก 2 เท่า เป็น 10 ล้านล้านเยน หรือ 2.5 ล้านล้านบาท ภายในเวลา 5 ปี ความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นสะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยของจีนได้ส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วภูมิภาคโดยตรง

โสมแดง-โสมขาว ข่มขวัญกัน
ส่วนสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลียังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เมื่อล่าสุดกองทัพเกาหลีเหนือ มีคำสั่งให้ยิงปืนใหญ่ไปยังชายฝั่งตะวันตกและตะวันออก ช่วงเที่ยงของวันที่ 19 ต.ค. 65 ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตอบโต้เกาหลีใต้ เป็นครั้งที่สอง

หลังจากที่ โฆษกกองทัพฯ เกาหลีเหนือ ระบุว่า กองทัพเกาหลีใต้ยิงกระสุนหลายสิบนัด จากแท่นยิงขีปนาวุธหลายลำกล้องในเขตพื้นที่แนวหน้า ระหว่างการซ้อมรบ  จึงเป็นเหตุให้ เกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยการยิงปืนใหญ่ต่อเนื่อง เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้เกาหลีใต้ยุติการซ้อมรบและท่าทีคุกคาม

วันถัดมาคณะเสนาทหารฯ เกาหลีใต้ ได้แถลงว่า เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ 100 ลูก ไปทางชายฝั่งตะวันออก และอีก 150 ลูกทางชายฝั่งตะวันตก หลังจากเกาหลีใต้ เปิดฉากฝึกซ้อมรบประจำปี เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการตอบโต้ภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์ และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ในช่วงค่ำของวันที่ 18 ต.ค. 65

ปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือนั้น แม้จะไม่ทำอันตรายอะไรให้กับเกาหลีใต้ แต่ทางกองทัพเกาหลีใต้ประกาศเตือน ให้เกาหลีเหนือหยุดยิงหลายครั้ง และยังระบุอีกว่า เกาหลีเหนือ ละเมิดข้อตกลงอย่างชัดเจน หลังจากพุ่งเป้าไปที่เขตกันชนทางทะเล ที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันจัดตั้ง ภายใต้ข้อตกลง เมื่อปี 2018 การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ เป็นการกระทำที่บ่อนทำลายสันติภาพ และเสถียรภาพของคาบสมุทรเกาหลี และประชาคมระหว่างประเทศ

เกาหลีใต้ เปิดปฏิบัติการซ้อมรบประจำปี "โฮกุก" ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดลงในวันเสาร์นี้ (20 ต.ค. 65)
ซึ่งการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่นครั้งนี้ เป็นไปเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ที่ทดสอบขีปนาวุธ และคำขู่อาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง  

ญี่ปุ่น ตอบโต้ท่าทีคุกคามของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะการยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่น เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยการประกาศขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ ระงับการดำเนินการทางทรัพย์สิน ของ 5 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นประณามท่าทีของเกาหลีเหนือ ว่าเป็นการกระทำที่คุกคามสันติภาพและความมั่นคง ของภูมิภาคและนานาชาติ ซึ่งไม่สามารถยอมรับได้

ความตึงเครียดของชาติมหาอำนาจของเอเชียนั้น น่าจับตามองอย่างยิ่ง และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สถานการณ์ของ ยูเครนและรัสเซีย ก็เป็นหนึ่งในสารตั้งต้นของความขัดแย้งที่กำลังจะลุกลามไปทั่วโลก และก็ได้แต่ภาวนาว่า ข้อขัดแย้งทุกอย่างจะคลี่คลายลง เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง และยกระดับไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่จะนำมาซึ่งความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อย่างที่ประเมินไม่ได้เลยทีเดียว