ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เข้าใจอาการ “เมารถ - เมาเรือ” เพื่อการรับมืออย่างถูกจุด


วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

1 พ.ย. 67

จิราภพ ทวีสูงส่ง

Logo Thai PBS
แชร์

เข้าใจอาการ “เมารถ - เมาเรือ” เพื่อการรับมืออย่างถูกจุด

https://www.thaipbs.or.th/now/content/1818

เข้าใจอาการ “เมารถ - เมาเรือ” เพื่อการรับมืออย่างถูกจุด
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

ช่วงนี้เข้าสู่ช่วง High season แห่งการท่องเที่ยว ผู้คนวางแพลนไปพักผ่อนหย่อนจิตตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการเดินทางไม่ว่าทางใดทางหนึ่งอาจจะรถ เรือ หรือเครื่องบิน เป็นต้น โดยสิ่งที่ตามมาระหว่างเดินทางก็คือ การเมารถ - เมาเรือ หรือเมาเครื่องบิน ได้ ดังนั้นเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว Thai PBS Sci & Tech จึงขอพาไปทำความเข้าใจการ “เมาจากการเคลื่อนไหว” (Motion Sickness) เพื่อการรับมืออย่างถูกจุด

"เมารถ" เป็นอาการ “เมาจากการเคลื่อนไหว” (Motion Sickness)

เข้าใจอาการ “เมารถ - เมาเรือ”

“เมารถ - เมาเรือ” เป็นอาการ “เมาจากการเคลื่อนไหว” (Motion Sickness) ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดกับการโดยสารยานพาหนะได้ทุกประเภท โดยสาเหตุเกิดจากสมองรับสัญญาณที่ขัดแย้งกันระหว่างสิ่งที่ตามองเห็นกับสิ่งที่ร่างกายรับรู้ เช่น เวลานั่งรถยนต์ร่างกายรับรู้ว่านั่งอยู่กับที่แต่ตากลับมองเห็นว่ามีการเคลื่อนตัว ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว อาเจียน แต่เมื่อใดที่ยานพาหนะหยุดเคลื่อนไหว อาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายเป็นปกติ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ยังไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่า ทำไมบางคนเป็น แล้วบางคนไม่เป็น

ผู้หญิงเวียนหัว

บุคคลที่อาจมีอาการ “เมารถ - เมาเรือ” ได้มากกว่าผู้อื่น

     - เด็กอายุระหว่าง 2-12 ปี
     - ผู้หญิงตั้งครรภ์ ใช้ยาคุมกำเนิด และกำลังมีประจำเดือน 
     - ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวที่มีประวัติเมาจากการเคลื่อนไหว
     - ผู้ที่มีประวัติเป็นไมเกรน หรือเป็นโรคพาร์กินสัน
     - ผู้มีญาติสายตรงมีอาการเมารถ เมาเรือ จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป (กรรมพันธุ์)

woman-driving-having-headache

วิธีแก้อาการ “เมารถ - เมาเรือ”

สำหรับคนที่เคยเมารถ หรือเมาเรือ ต้องกังวลใจก่อนการเดินทางทุกครั้ง แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถลดความเสี่ยงการเกิดการเมารถ เมาเรือได้ด้วยเทคนิคดังนี้

     - พักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทาง หากพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้เกิดอาการได้ง่าย และรุนแรงขึ้น 
     - การเดินทางโดยรถให้เลือกที่นั่งด้านหน้า 
     - การเดินทางโดยเครื่องบินให้เลือกที่นั่งบริเวณปีก หรือเลือกที่นั่งริมหน้าต่างเพื่อสามารถมองออกไปข้างนอกได้ 
     - ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกาเฟอีน
     ใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ โฟกัสอยู่กับลมหายใจเข้า-ออก หรือฟังเพลง 
     - ใช้การบำบัดด้วยกลิ่นหอม เช่น การดมยาดม หรือใช้น้ำมันหอมระเหย สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการเมารถ เมาเรือได้ หรือใช้การอมยาอมก็ช่วยได้เช่นกัน

ผู้หญิงเมารถ

ป้องกัน “เมารถ - เมาเรือ” ด้วยการใช้ยา

สำหรับคนที่มักมีอาการอาการเมารถ เมาเรืออยู่แล้ว หนึ่งวิธีที่ใช้ป้องกันไม่ให้เกิดอาการนั่นก็คือ “การรับประทานยาป้องกันอาการเมาจากการเคลื่อนไหว” หรือ “ยาแก้เมารถ” ยาที่ใช้ในกลุ่มนี้แบ่งตามการออกฤทธิ์ มี 2 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มยาแก้แพ้ หรือกลุ่มยาต้านฮิสตามีน (antihistamine)

จะออกฤทธิ์โดยจับกับตัวรับฮิสตามีนและต้านการออกฤทธิ์ของสารสื่อประสาทแอซิติลโคลีน (acetylcholine) ยาในกลุ่มนี้จะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดการง่วงซึม ยาที่ใช้ในกลุ่มนี้ได้แก่

     -  Dimenhydrinate เป็นยาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ขนาดรับประทาน 50-100 มิลลิกรัม (1-2 เม็ด) โดยแนะนำรับประทานก่อนออกเดินทางประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ยาดูดซึมและออกฤทธิ์ สามารถรับประทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง ถ้ายังมีอาการ

     - Cyclizine ขนาดรับประทาน 50 มิลลิกรัม รับประทานก่อนออกเดินทาง 1 ชั่วโมง และสามารถรับประทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง

     - Meclizine ขนาดรับประทาน 25-50 มิลลิกรัม รับประทานก่อนออกเดินทาง 1 ชั่วโมง และสามารถรับประทานซ้ำได้ทุก 24 ชั่วโมง

2. กลุ่มยาต้านการออกฤทธิ์ของสารสื่อประสาทแอซิติลโคลีน

โดยมีกลไกเข้าจับกับตัวรับแอซิติลโคลีน ยาในกลุ่มนี้มีผลข้างเคียงทำให้เกิดการง่วงซึม และผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจจะพบ เช่น ปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ยาที่ใช้ในกลุ่มนี้ได้แก่

     - Scopolamine เป็นรูปแบบแผ่นแปะผิวหนังที่บริเวณหลังใบหู ปริมาณการใช้อยู่ที่ 1 มิลลิกรัม โดยให้แปะ 4-6 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางยาจะค่อย ๆ ออกฤทธิ์ มีผลนาน 3วัน

     - Diphenidol มีรูปแบบยาเม็ด ขนาด 25 มิลลิกรัม รับประทาน 1-2 เม็ด ก่อนเดินทาง 30 นาทีและสามารถซ้ำทุก 4-6 ชั่วโมง แต่อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนในระดับมาก

การรับประทานยาป้องกันอาการเมาจากการเคลื่อนไหว (Motion Sickness)  เป็นวิธีการที่ง่ายและได้ประสิทธิภาพดี แต่อย่างไรก็ตามแนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรก่อนรับประทานยา โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก คนที่มีโรคประจำตัว สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา


🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS

ที่มา : ผศ. ดร.ฉัตรชากร เอื้อติวงศ์ ภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ผศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ และ รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เมารถเมาเรือเมาเครื่องบินเมาจากการเคลื่อนไหวMotion Sicknessวิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์น่ารู้Thai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Science
จิราภพ ทวีสูงส่ง
ผู้เขียน: จิราภพ ทวีสูงส่ง

เซบา บาสตี้ : เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล สำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส / Specialist Contents / Journalist / Writer / Creative Copywriter / Proofreader Lover (ติดต่อ jiraphob.thawisoonsong@gmail.com หรือ 0854129703)

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด