Labanoon วงดนตรีที่สร้างปรากฏการณ์ได้ทุกยุค

Labanoon อีกหนึ่งวงร็อกคุณภาพของประเทศไทย ที่โลดแล่นอยู่ในวงการมายาวนาน ผลงานเพลงของพวกเขาได้สร้างปรากฏการณ์ ฮิตทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นในช่วงของยุคเทปคาสเซ็ท ก็ประสบความสำเร็จ ยอดขายทะลุล้านตลับ พอเปลี่ยนผ่านมาถึงยุคดิจิทัล เพลงของพวกเขา ก็ยังสร้างปรากฏการณ์ทะลุร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น

บทความนี้ จึงอยากชวนทุกคนย้อนความทรงจำไปกับเรื่องราวของนักดนตรี 3 ชีวิต ‘เมธี อรุณ’ นักร้องนำ-มือกีตาร์, ‘อนันต์ สะมัน’ มือเบส และ ‘สมเมย์-ณัฐนนท์ ศรีศรานนท์’ มือกลอง ซึ่งแม้จะมีเครื่องดนตรีคู่กายเพียง 3 ชิ้น แต่เพลงของพวกเขากลับได้สร้างความสุขให้กับผู้ฟังมาอย่างยาวนาน แถมยังได้รับความนิยมจากคนฟังอย่างหนาแน่นไม่เปลี่ยนแปลง

ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 90 วง ‘Labanoon’ เริ่มปล่อยผลงานเพลงอัลบั้มแรกในปีพ.ศ. 2541 โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า ‘นมสด’ และมีเพลงเปิดตัวอย่างเพลง ‘ยาม’ ซึ่งพวกเขาก็ประสบความสำเร็จทันที เพราะเพลงนี้ได้กระแสตอบรับจากแฟนเพลงอย่างล้นหลาม จนติดชาร์ตอันดับหนึ่งไปทั่วประเทศ ส่งผลให้พวกเขาโด่งดังเป็นพลุแตก

ซึ่งความนิยมของวง Labanoon ไม่ได้จบเพียงอัลบั้มเดียว หลังจากที่พวกเขาปล่อยอัลบั้มแรกแล้ว ในอัลบั้มชุดต่อ ๆ มาอย่างอัลบั้มที่ 2 ที่ใช้ชื่อว่า ‘191’ หรืออัลบั้ม 3 ที่ชื่อว่า ‘คนตัวดำ’ ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น ทำให้พวกเขาสร้างปรากฏการณ์เป็นวงดนตรีที่สามารถทำยอดขายล้านตลับได้ถึง 3 อัลบั้มติด ซึ่งทุกเพลงในทุกอัลบั้ม ล้วนเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตที่แฟน ๆ ร้องตามกันได้ทั้งประเทศ

แม้ว่าเส้นทางในสายดนตรีดูเหมือนว่าจะไปได้สวย แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนทำให้ต้องหยุดพักวงไป ซึ่งสมาชิกแต่ละคน ได้แยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง โดยการพักวงครั้งนั้น Labanoon หายไปนานถึง 6 ปีด้วยกัน ดังนั้น การที่จะกลับมารวมตัวเล่นดนตรีอีกครั้ง นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเอาชนะความกลัวของตัวเอง โดยพวกเขาเผยว่า กลัวที่จะไม่มีคนฟังเพลงของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว...

ในที่สุด Labanoon ก็ก้าวผ่านเรื่องยากในจิตใจ และกลับมารวมตัวกันสร้างสรรค์ผลงานเพลงให้แฟน ๆ ได้ฟังกันอีกครั้งภายใต้จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ กับการย้ายมาอยู่ค่ายเพลงสังกัดใหม่อย่างค่าย Genie Records หลังจากนั้นจึงได้ปล่อยอัลบั้มชื่อ N.E.W.S. ออกมาในปีพ.ศ. 2559

โดยเปิดตัวด้วยเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานตามสไตล์ลาบานูนอย่างเพลง ‘ศึกษานารี’ จากนั้นก็ตามมาด้วยเพลง ‘พลังงานจน’ ซึ่งทั้ง 2 เพลงต่างมีกลิ่นอายความเป็นลาบานูนอย่างชัดเจน แฟน ๆ ที่ตั้งตารอคอยการกลับมาของลาบานูน ต่างให้การตอบรับผลงานเพลงของพวกเขาเป็นอย่างดี การันตีด้วยยอดวิวบนแพลฟอร์ม YouTube ที่พุ่งไปสู่ล้านวิวได้อย่างรวดเร็ว

การกลับมาในยุคดิจิทัลของวงดนตรี 3 ชิ้นในตำนานวงนี้ ยังสร้างปรากฏการณ์ความดังระเบิดอย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกเขาปล่อยผลงานเพลง 'เชือกวิเศษ' ออกมา เรียกว่าเป็นผลงาน Masterpiece ของการกลับมาครั้งนี้ เพราะเพลงนี้ ทุบสถิติเป็นเพลงที่ทำยอดผู้เข้าชมบน YouTube สูงถึง 100 ล้านครั้งเร็วที่สุดในประเทศไทย โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น

ไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น ‘เชือกวิเศษ’ ยังเป็นเพลงที่มีผู้เข้าชมใน YouTube มากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย สมกับเป็นวงร็อกคุณภาพในตำนานของเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน ช่วงเวลาใด เพลงของพวกเขาก็ยังคงได้กระแสตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี

ถึงแม้ว่าเรื่องราวของวงลาบานูน จะดูเหมือนว่าประสบความสำเร็จในเส้นทางสายดนตรี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาเจ็บปวดไม่น้อย นั่นก็คือ การที่พวกเขาไม่สามารถหยิบนำเพลงเก่า ๆ มาเล่นโชว์ให้แฟน ๆ ดูได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการฟ้องร้องลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ทำให้บรรดาแฟนเพลงที่เติบโตมา ในยุคเพลงอัลบั้มแรก ๆ ไม่มีโอกาสได้ฟังเพลงเหล่านั้นมากนัก แต่เชื่อว่าสาวก Labanoon จะยังคงสนับสนุนทุกการเดินทาง และทุกการเติบโตของวงร็อก 3 ชิ้นในตำนานที่ชื่อ ‘Labanoon’ ไปตลอดกาลอย่างแน่นอน

รายการนักผจญเพลง Replay ยังมีเรื่องราวเบื้องลึกอีกมากมายที่วง Labanoon ได้มาแชร์ประสบการณ์การเดินทางของพวกเขาเอาไว้ รวมไปถึงยังมีเพลงฮิตถึง 6 เพลงมาโชว์ให้แฟน ๆ ได้รับชม ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘เชือกวิเศษ’, ‘แพ้ทาง’, ‘พลังงานจน’, ‘ศึกษานารี’, ‘ใจกลางเมือง’ และสุดท้ายเพลง ‘กระทรวงการคอย’ เต็มอิ่มทั้งเพลงทั้งเรื่องราวที่วง Labanoon ขนมาเสิร์ฟถึงหน้าจอแน่นอน ติดตามชมย้อนหลังกับตอนที่มีชื่อว่า JOURNEY OF LABANOON