กลายเป็นประเด็นร้อนกับกรณี “หมอบี” ทูตสื่อวิญญาณ ที่มีการระดมเงินบริจาคให้วัด โดยมีค่าดำเนินการ 30 เปอร์เซ็นต์ นำไปสู่ข้อครหามากมาย แต่มีมุมหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นประกอบอาชีพนักระดมทุนหรือ Professional Fundraiser
Thai PBS พาไปรู้จักอาชีพ Professional Fundraiser หรือก็คือนักระดมทุนมืออาชีพที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนงานเพื่อสังคมรูปแบบหนึ่ง
Professional Fundraiser คืออะไร ?
Professional Fundraiser หรือบางแห่งเรียกกันว่า Fundraising Agent คือนักระดมทุน มีหน้าที่หลัก ๆ คือการระดมเอาเงินทุนมาเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมากแล้วมักใช้กับผู้ที่ระดมทุนเพื่อการกุศล มักระดมทุนให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร อาชีพนี้มีต้นกำเนิดมาจากการเรี่ยไรเงินบริจาคตามบ้าน และเป็นการระดมเงินของผู้คนในท้องถิ่นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1900
อาชีพ Professional Fundraiser มีพัฒนาการมากขึ้น จากการเรี่ยไรตามบ้านเรือนสู่การทำแคมเปญใหญ่ระดับประเทศ การพัฒนาความเป็นอาชีพกลายเป็นนักประชาสัมพันธ์ มีการโฆษณาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มเข้ามา องค์การกุศาลมากมายมีสิ่งที่ตัวเองต้องทำ มีบุคลากรที่จำกัด การระดมทุนมีการใช้ความเชี่ยวชาญที่ต่างออกไป จึงเกิดองค์กรที่ทำงานเป็น Professional Fundraiser ขึ้นโดยเฉพาะเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม อาชีพ Professional Fundraiser ในต่างประเทศยังมีการมองในแง่ร้ายอยู่บ้าง แต่การที่องค์กรการอุศลหันมาใช้ Professional Fundraiser ก็เพราะการทำงานระดมทุนนั้นต่างจากเนื้องานโดยส่วนใหญ่ขององค์กร การใช้มืออาชีพที่มีทักษะในการระดมทุน มีอุปกรณ์เครื่องมือความพร้อม มีเทคโนโลยี มีความเชี่ยวชาญในการทำแคมเปญต่าง ๆ ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้พนักงานหรืออาสาสมัคร และช่วยขับเคลื่อนการระดมทุนได้แม้มีค่าใข้จ่ายบางส่วนก็ตาม
ค่าดำเนินการของ Professional Fundraiser เท่าไหร่ถึงพอดี
เมื่อการทำงานของ Professional Fundraiser ถือเป็นอาชีพหนึ่ง และยังเป็นอาชีพที่มีความจำเป็นเพราะองค์การเพื่อสังคมจำเป็นต้องใช้การระดมทุนเป็นจำนวนมาก มีรายละเอียดในการขอทุนจากหลายแหล่งที่มีแนวทางการให้ทุนที่แตกต่างกัน การได้รับค่าดำเนินการถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่เนื่องจากการบริจาคถือเป็นการให้เงินเปล่า ค่าดำเนินการจึงควรมีอัตราที่เหมาะสม
มาตรฐานองค์กรการกุศลในระดับสากลมีองค์กรที่กำหนดแนวทางเอาไว้ โดยรวมแล้วค่าดำเนินการไม่ควรเกิน 30 – 35 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หลายองค์กรจะมีตัวเลขสัดส่วนค่าดำเนินการอยู่ที่ประมาณ 15 – 35 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ยิ่งมีการหักค่าดำเนินการน้อย จะยิ่งถือว่าเป็นองค์ที่ทำงานด้านการระดับทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ อาชีพ Professional Fundraiser มีกฎหมายระเบียบควบคุมอยู่โดยมีรายละเอียดขึ้นอยู่กับรัฐของแต่ละประเทศ ในอเมริกาแต่ละรัฐมีระเบียบเฉพาะของตัวเอง โดยรวมแล้วมีข้อบังคับที่เข้มงวดในการทำรายงานการดำเนินงานต่อหน่วยงานที่กำกับดูแล ทั้งยังต้องมีใบอนุญาตสำหรับอาชีพ Professional Fundraiser และต้องการแจ้งสัดส่วนค่าดำเนินการต่อผู้รับบริจาค
โดยในส่วนของค่าดำเนินการก็มีการกำหนดแนวทางเอาไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น ในสหราชอาณาจักรมีระเบียบที่ออกโดยคณะกรรมการการกุศาล มีการกำหนดรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่สามารถเบิกได้ โดยมากแล้วมีหลักการคือค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับกิจการเพื่อการกุศล และใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล
Professional Fundraiser ในไทยมีการควบคุมอย่างไร ?
คนที่ทำอาชีพในลักษณะของ Professional Fundraiser ในไทยนั้นหากสังกัดมูลนิธิหรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร องค์กรจะอยู่ในการควบคุมของกฎหมายหลายฉบับด้วยกัน เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงกฎกระทรวงว่าด้วยทะเบียนมูลนิธิ การดำเนินกิจการ และการทะเบียนมูลนิธิ พ.ศ.2545 ที่ทำให้ต้องมีการแจกแจงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างโปร่งใส มีการกำหนดให้ใช้จ่ายเพื่อวัตถุประสงค์ที่ถูกต้อง
ในส่วนของคนทั่วไปที่ทำงานในลักษณะของ Professional Fundraiser จะมีพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487 ที่ใช้ควบคุม โดยมีกำหนดลักษณะของผู้ที่มีสิทธิ์ทำการเรี่ยไรเงินบริจาคและต้องมีการขออนุญาตในกรณีการเรี่ยไรเพื่อประโยชน์ของราชการและสาธารณะประโยชน์ โดยจะมีคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรทำหน้าที่พิจารณา ขณะที่การเรี่ยไรในพื้นที่สาธารณะต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในการเรี่ยไรมีการกำหนดข้อห้ามในการเรี่ยไรด้วย เช่น เรี่ยไรไปจ่ายค่าปรับ เรี่ยไรโดยมีการกำหนดอัตราการเก็บเงินหรือซื้อสินค้าอื่น เรี่ยไรเพื่อกระทำเรื่องเสื่อมเสีย เรื่องผิดศีลธรรมอันดีของประชาชน การเรี่ยไรที่กระทบต่อความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และการเรี่ยไรเพื่ออาวุธยุทธภัณฑ์ให้ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487 มีข้อยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตในกรณีช่วยเหลือใช้ในการประกอบศาสนกิจ แต่หากมีการใช้เงินไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการบริจาคก็จะเข้าข่ายความผิดในฐานฉ้อโกงประชาชนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดอื่น ๆ เช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การบริจาคเงินในไทยโดยเฉพาะในกรณีของการบริจาคเงินให้วัดยังไม่ได้มีการควบคุมตรวจสอบการใช้เงินโดยละเอียด และทำให้เกิดการทุจริตขึ้นได้ในหลากกรณีของเงินกับพระ
อาชีพ Professional Fundraiser หากมีการควบคุมและมีมาตรฐานวิชาชีพอย่างจริงจัง จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนสังคมในส่วนงานเพื่อสังคมได้มากยิ่งขึ้น
อ้างอิง
- Charity Navigator
- พระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487
- gov.uk
- สำนักงานกิจการยุติธรรม